ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 460 เปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วเสียจริง
บทที่ 460 เปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วเสียจริง
……….
บทที่ 460 เปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วเสียจริง
ที่นี่คือเส้นทางที่สองสู่แดนเทพจริง แต่หากต้องการเข้าสู่แดนเทพอย่างราบรื่น จำเป็นต้องมีทั้งพลังและโชคที่มากพอ ในเมื่อสามารถเดินผ่านช่องทางแรกสู่แดนเทพได้โดยตรง ใครเล่าจะอยากเดินทางลัด?
ผู้ที่ต้องการเดินทางลัดล้วนเป็นผู้บำเพ็ญที่หมดหวังในการบรรลุเทพในชาตินี้ แต่ยังอยากไปชมแดนเทพสักครั้ง หรือหวังจะได้รับโชควาสนาครั้งใหญ่จากที่นี่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นเทพ
น่าเสียดาย… ไม่คิดว่าที่นี่จะกลายเป็นหลุมฝังศพของพวกเขา
แต่แน่นอนว่ายังมีผู้ที่เข้าสู่แดนเทพจากที่นี่จริง ๆ และผู้โชคดีผู้นั้นคือเจ้าของแผนที่สวรรค์ที่ไม่สมบูรณ์
“ข้อมูลของเจ้ามาจากผู้โชคดีผู้นั้นเลยหรือ?”
“ใช่”
ดังนั้นข่าวสารนี้เป็นความจริง แต่จะมีชีวิตรอดเข้าสู่แดนเทพได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับโชคและพลังของแต่ละคน
ในเมื่อเขามีความสามารถ ส่วนหลิงเยว่มีโชค พวกเขาทั้งสองจะไม่สามารถเข้าสู่แดนเทพได้อย่างไร?
หลิงเยว่ไม่มีความคิดที่จะกลับไปเช่นกัน ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็ขอบุกเข้าไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับการเผชิญหน้าปีศาจที่มีพลังมหาศาลและมีผู้ช่วยมากมายเช่นนั้น การบุกเข้าแดนเทพกับโม่จวินเจ๋อกลับตื่นเต้นยิ่งกว่า
สำคัญที่สุดคือหลิงเยว่ได้ลองแล้วว่า กายาต้านหายนะของตนใช้ไม่ได้ผล การจะกลับไปตามทางเดิมนั้นยากเย็นนัก
เมื่อได้รับข่าวสารที่ต้องการแล้ว ทั้งสองจึงเดินทางลึกเข้าไปในป่าต้นไม้หน้าคนทีละคน
“ช่างโง่เสียจริง…”
“ไม่รู้ว่าสองคนนั้นจะถูกจัดให้อยู่ต้นไหน หวังว่าจะได้อยู่ข้าง ๆ กันนะ ข้าจะได้ด่าพวกเขาทุกวัน!”
ต้นไม้หน้าคนพูดจบ ลำต้นก็แตกออกทันที จากนั้นวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์ของเขาถูกพลังลึกลับดึงออกมา ร่างโปร่งแสงเล็ก ๆ ถูกชกซ้ายทีขวาที เสียงร้องโหยหวนทำให้ใบไม้ร่วงหล่นเต็มพื้น
หลังจากโดนทุบจนเละ ร่างโปร่งแสงตัวเล็ก ๆ ก็ถูกยัดกลับเข้าไปในลำต้นที่แตก แล้วใช้รากเย็บปิดรอยแตกพวกนั้นอีกที
ต้นไม้หน้าคนที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดร่างสั่นเทาด้วยความกลัว เหตุที่พวกเขาเปิดเผยทุกอย่างเพราะรู้สึกถึงความแข็งแกร่งและความโหดร้ายของชายผู้นั้น ยิ่งภาพที่เห็นตอนนี้ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
ทั้งคู่เดินห่างออกไปแล้วยังแอบฟังคำพูดของพวกเขา อีกทั้งยังลงมือโหดร้ายเช่นนี้ คู่ครองของเขาจะรู้หรือไม่ว่าเขาเป็นคนโหดเหี้ยมเพียงใด?
แน่นอนว่าไม่รู้!
น่าสงสารนางผู้นั้นยิ่งนัก หวังว่านางจะไม่ถูกทำร้ายร่างกายในภายหลังนะ
หลิงเยว่ยังไม่รู้ตัวว่าถูกต้นไม้หน้าคนเห็นใจ ในตอนนี้นางสามารถเดินผ่านต้นไม้หน้าคนที่มีใบหน้าน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ เพียงแต่พวกเขาทั้งสองเดินมานานแล้วยังไม่พบต้นไม้ที่มีใบหน้าสวยที่สุดเสียที
เพราะถ้าพวกเขาพบต้นไม้ต้นนั้นแล้ว จึงจะสามารถออกจากป่าต้นไม้มนุษย์และเข้าสู่เส้นทางถัดไปได้
หลิงเยว่ที่ไม่ได้เจออันตรายใด ๆ กลับรู้สึกว่าตลอดทางช่างน่าเบื่อเหลือเกิน
โม่จวินเจ๋อหยิบอมยิ้มแท่งหนึ่งออกมาจากแหวนมิติส่งให้หลิงเยว่
“มีแค่แท่งเดียวหรือ?” หลิงเยว่ถามพลางคาบอมยิ้มไว้ในปาก สายตาจับจ้องไปที่แหวนมิติบนนิ้วชี้ของโม่จวินเจ๋อ นางจำได้ว่าของที่ให้ไปนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน
แต่เดิมนางมีของที่เก็บไว้มากกว่านี้ น่าเสียดายที่ถูกเทพปีศาจบีบแตกไปหมด จนไม่มีอะไรติดตัวเลย!
โม่จวินเจ๋อก้มหน้าลงมองแหวนของตัวเอง แล้วหยิบชานมออกมาอีกแก้วหนึ่ง
“หมดแล้ว”
เขาไม่กล้าบอกว่าของที่เก็บไว้ถูกทำลายไปหลังจากความทรงจำกลับคืนมา ส่วนอมยิ้มและชานมที่เหลืออยู่นี้… เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงเหลือไว้เหมือนกัน
แววตาของโม่จวินเจ๋อสั่นไหวด้วยความเสียใจ ตอนนั้นเขามีท่าทีเย็นชาต่อผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิต และกดความรู้สึกที่มีต่อหลิงเยว่อย่างรุนแรง
ส่วนการรีบไปที่หุบเหวปีศาจในทันที เพียงเพราะไม่ต้องการให้เทพปีศาจได้รับเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์เท่านั้น ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของหลิงเยว่
จนกระทั่งได้เห็นหลิงเยว่ควบคุมร่างของเทพปีศาจ คว้ากระบี่ศักดิ์สิทธิ์เตรียมจะฆ่าตัวตาย เขารู้สึกตื่นตระหนกและกลัวเป็นครั้งแรก
หลิงเยว่ต้องไม่ตาย!
“ท่านเป็นถังข้าวเดินได้หรือไร? ถึงต้องกินมากมายขนาดนั้น!”
หลิงเยว่ไม่เคยคิดว่าของที่เก็บไว้ถูกโม่จวินเจ๋อทำลายไป เพราะตอนอยู่ที่สำนักหลานเทียน นิสัยกินจุของเขาก็ถูกเปิดเผยหมดแล้ว เขาจะยอมให้ทำลายได้อย่างไร?
“ก็กินไปไม่มากเท่าไหร่…” โม่จวินเจ๋อรู้สึกผิดจนไม่กล้ามองหลิงเยว่
“เฮ้อ เมื่อไหร่จะออกไปได้นะ?”
หลิงเยว่ไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของโม่จวินเจ๋อ ความสนใจของนางอยู่ที่ต้นไม้หน้าคนทั้งหมด
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอมยิ้มฟื้นปราณมีคุณสมบัติเพิ่มโชคหรือไม่ สายตาของหลิงเยว่หยุดอยู่ที่ต้นไม้สีน้ำตาลทองต้นหนึ่งที่อยู่ตรงข้าม ต้นไม้รอบ ๆ ล้วนเป็นสีน้ำตาลเขียว มีเพียงต้นของนางที่เป็นสีทอง ใบไม้เป็นสีน้ำตาล และใบหน้างามที่ประทับอยู่บนลำต้นนั้นดึงดูดความสนใจของหลิงเยว่ไปทั้งหมด
ช่าง… งดงามเหลือเกิน
ราวกับรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมอง หญิงงามค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หลิงเยว่ยิ่งจมดิ่งลงในดวงตาสีฟ้าอัญมณีอันลึกล้ำคู่นั้น
“เจ้ามาแล้ว”
เสียงของหญิงงามกังวานใส พุ่งตรงเข้าสู่หัวใจของหลิงเยว่
โม่จวินเจ๋อก็เห็นต้นไม้นั้นเช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้ถูกหญิงงามหว่านเสน่ห์ใส่เหมือนหลิงเยว่ ต้นไม้นั่นก็น่าเกลียดเหมือนกับต้นอื่น ๆ งามไม่ถึงหนึ่งในหมื่นส่วนของเขาด้วยซ้ำ!
คำแรกที่หลิงเยว่พูดเมื่อมาถึงหน้าต้นไม้งามคือ “เจ้าช่างงดงามนัก”
ต้นไม้งามที่กำลังจะยิ้มตอบหลิงเยว่กลับสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ พอเงยหน้าขึ้นก็เจอกับดวงตาคู่งามและสายตาเย็นเยียบ ความเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างตรงหน้าทำให้ต้นไม้รอบ ๆ แข็งเป็นน้ำแข็ง
“มีอะไรหรือ?”
หลิงเยว่เห็นต้นไม้งามจ้องตรงไปทางด้านหลังของนาง นางจึงมองตามสายตาของต้นไม้นั้นไปยังด้านหลัง ใบหน้าของคนที่ถูกแช่แข็งละลายในพริบตา สายตาอันเยือกเย็นของบุรุษมองกลับมาที่คนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน
ต้นไม้งาม “…”
ช่างเป็นผู้ชายที่เปลี่ยนสีหน้าได้เร็วเสียจริง
ความเงียบแผ่ขยายในหมู่คนทั้งสาม
“พวกเจ้าถูกตาต้องใจกันแล้วหรือ?”
คำพูดของหลิงเยว่ทำให้ทั้งสองคนตกใจจนหน้าแดง
“เขาเป็นผู้ชาย” โม่จวินเจ๋อพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ผู้ชายหรือ?!”
คราวนี้กลับเป็นหลิงเยว่ที่ตกใจจนหน้าแดง ผมยาวเป็นลอนคลื่น ดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ใบหน้าเล็ก ๆ ที่งดงาม ริมฝีปากสีชมพูอ่อน ประกอบกับเสียงที่ใสกังวาน ทั้งหมดนี้คือภาพลักษณ์ของหญิงงามที่หาใดเปรียบ แต่กลับเป็นผู้ชายหรือ?
หลิงเยว่รู้สึกราวกับฟ้าถล่มกลางวันแสก ๆ
“เงือกตัวผู้น่ะ”
โม่จวินเจ๋อถูกสีหน้าสงสัยในชีวิตของหลิงเยว่ทำให้หัวเราะ
ต้นไม้เงือกหน้าสวยกระตุกมุมปาก แล้วพูดตรงประเด็นว่า “มีเพียงการช่วยข้าออกจากที่นี่เท่านั้น จึงจะสามารถเปิดสุสานใต้น้ำให้พวกเจ้าได้”
“ต้องช่วยอย่างไรเล่า?”
หากเขารู้วิธีออกไป จะถูกกักขังอยู่ที่นี่เป็นหมื่นปีหรือ?
ต้นไม้เงือกหน้าสวยได้แต่นิ่งเงียบ
หลิงเยว่ยิ้มเขิน ๆ กำลังจะพูด แต่โม่จวินเจ๋อก็ลงมืออย่างรุนแรง เขาผ่าต้นไม้ออกเป็นสองซีก จนใบหน้างดงามนั้นถูกแบ่งเป็นสองส่วน จนเงือกตัวนั้นอดสงสัยไม่ได้ว่าโม่จวินเจ๋อคงอิจฉาความงามของเขาเป็นแน่!
“หืม? ไม่ได้หรือ?”
โม่จวินเจ๋อเลยเย็บต้นไม้ที่แยกเป็นสองซีกกลับเข้าด้วยกัน แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลิงเยว่และเงือกตัวนั้น “…”
“ร่างกายของเขาหลอมรวมกับต้นไม้อย่างสมบูรณ์แล้ว!”
หลิงเยว่ถูมือไปมาด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเผชิญหน้ากับหลิงเยว่ที่เป็นเช่นนั้น ต้นไม้เงือกหน้าสวยพลันรู้สึกไม่อยากออกไปเสียแล้ว
……….