ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 432 เจ้ารู้ได้อย่างไร?
บทที่ 432 เจ้ารู้ได้อย่างไร?
…………….
บทที่ 432 เจ้ารู้ได้อย่างไร?
เมื่อคำว่า ‘จะทำอย่างไร’ ถูกเอ่ยออกมา ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา ไม่มีใครมีความคิดเห็นใด ๆ
“นี่พวกเจ้าจะไม่เข้าไปช่วยหลิงเยว่เพียงเพราะการคาดเดาเช่นนี้หรือ?” หัวหน้าตะขาบมรกตทำหน้าบึ้งตึง หันไปพูดกับนกตัวน้อยบนไหล่ “พวกเขาล้วนกลัวตาย งั้นข้าจะไปเอง!”
ทันทีที่หัวหน้าตะขาบมรกตพูดจบ นกสีฟ้าตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในความมืด แล้วบินมาเกาะบนศีรษะของเขาอย่างรวดเร็ว
“ไม่จำเป็นต้องไปแล้ว พวกเจ้าเข้าไปไม่ได้หรอก ที่นั่นถูก… อืม…” นกสีฟ้าไม่รู้จะอธิบายอย่างไร “สรุปคือถ้าเข้าไปในบริเวณนั้น ทุกคนจะระเบิดร่างทันที!”
“!!!”
คราวนี้ ‘ทีมกู้ภัย’ ยิ่งเงียบกริบ จะทำอย่างไรดี!?
“เป็นไปได้ไหมว่าห้ามเฉพาะพวกเจ้าเข้าไป?”
นกสีฟ้ากลอกตา หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าพวกเขามาช่วยหลิงเยว่ นางคงไม่มาเตือนพวกเขาหรอก
นอกจากสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับหลิงเยว่แล้ว สัตว์ที่อยู่ในนี้กลับไม่ปรากฏให้เห็นเลยสักตัว ช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจยิ่งนัก
“เจ้าจัดการกับสัตว์ตัวนั้นไปแล้วหรือ?” หัวหน้าตะขาบมรกตมองไปทางนกสีฟ้าด้วยความประหลาดใจ แล้วตามมาด้วยสายอีกหลายคู่ จนนกสีฟ้าส่งแววตาดูแคลนไปให้พวกเขา
แม้พวกมันจะมีจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีความสามารถพอที่จะฆ่าสัตว์ที่มีจำนวนมากกว่าพวกมันหลายหมื่นเท่าได้หรอกนะ!
“ดูเหมือนว่าสัตว์ที่อยู่นอกเขตบ่อสวรรค์จะหายไปแล้ว”
“หายไป… หรือ?”
สัตว์พวกนั้นจะหายไปโดยไม่มีสาเหตุได้อย่างไร?
“หมายความว่าพวกมันตายหมดแล้วใช่ไหม?”
เมื่อข้อสันนิษฐานนี้ถูกเอ่ยออกมา ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก
สถานการณ์เช่นนี้มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ สิ่งที่อยู่ในหอคอยปีศาจได้ออกมาแล้ว และอยู่ในบริเวณที่บ่อสวรรค์ได้จากไป
ที่นั่นมีหลิงเยว่ และสิบสองแม่ทัพปีศาจอยู่ แถมตอนนี้ยังมีของจากหอคอยปีศาจเพิ่มมาอีก
นั่นคือสิบสองผู้แข็งแกร่งเชียวนะ! การเผชิญหน้ากับพวกเขาก็แย่พออยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีอะไรไม่รู้จากหอคอยปีศาจมาอีก…
ตอนนี้หลิงเยว่อาจจะตกอยู่ในอันตรายแล้ว!
“อาจจะ…”
ผู้นำเผ่าทิงมี่มองไปที่ตำแหน่งหัวใจผ่านปกเสื้อ มันยังมีดอกไม้ปีศาจนับไม่ถ้วนทำหน้าที่เป็นหัวใจอย่างเงียบ ๆ ไม่มีร่องรอยของการเหี่ยวเฉาแม้แต่น้อย
“นางยังไม่ตาย และสภาพร่างกายน่าจะยังดีอยู่ด้วย”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” ผู้อาวุโสกระทิงถามกลับทันที
“ข้ารู้แล้วกัน อีกอย่าง…” ผู้นำเผ่าทิงมี่ชี้ไปที่กองทัพของนกสีฟ้า “พวกมันก็มีความเชื่อมโยงกับหลิงเยว่ด้วย”
“อืม นางบอกให้พวกเราออกจากที่นี่ แล้วไปเฝ้าไข่ที่ดินแดนกระทิงให้ดี”
แต่นกสีฟ้าไม่ได้เชื่อฟัง ในเมื่อหลิงเยว่มอบชีวิตให้พวกมัน พวกมันจะทิ้งนางได้อย่างไร!
เพียงแต่ในบริเวณใกล้กับบ่อสวรรค์ มันได้สละเพื่อนร่วมทางไปบางส่วน และวนเวียนอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ก่อนจะเข้าใจว่าที่นั่นห้ามสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเข้าใกล้!
เพียงแค่เข้าใกล้ก็จะสลายเป็นเถ้าธุลีในทันที!
หลิงเยว่ที่แกล้งตายก็รู้สึกได้ว่า ก่อนที่ร่างแยกสองร่างนี้จะมาถึง บางครั้งจะมีนกบินผ่าน หรือได้ยินเสียงคำรามดังมาจากที่ไกล ๆ…
แม้แต่ตอนที่สิบสองแม่ทัพปีศาจอยู่ที่นั่น พวกสัตว์อสูรก็ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ แต่ตอนนี้…
ดูเหมือนว่าร่างแยกสองร่างนี้จะทรงอำนาจมาก เขาคงวางกับดักหรือค่ายกลอะไรสักอย่างแล้ว และด้วยวิธีการอันโหดร้ายของร่างแยกหมายเลขหนึ่งนั้น คาดว่าผู้ที่พยายามจะเข้ามาคงต้องตายหมด!
หลิงเยว่เลยแกล้งตายต่อไป นางได้ยินเสียงระเบิดมากมาย เป็นเสียงทุ้ม ๆ เหมือนกับ… ตอนที่พบกับมังกรดำในเขตแดนลับสัตว์อสูร!
ทันใดนั้น หลิงเยว่รู้สึกว่ากองทัพสัตว์รบของนางหายไปบางส่วน หลิงเยว่จึงพยายามติดต่อกับชิงเหนี่ยว หัวหน้ากองทัพสัตว์รบของนาง แต่รู้สึกได้ว่าตั้งแต่หลิงเยว่ส่งข้อความไป กลับไม่มีเสียงระเบิดของสัตว์ตัวใดที่ต้องสละชีวิตอีกเลย!
แสดงว่าชิงเหนี่ยวสามารถรับข้อความของหลิงเยว่ เพียงแต่ไม่สามารถตอบกลับนางได้!
ดีแล้ว! ขอเพียงสามารถรับข้อความได้ก็พอ
ในขณะที่หลิงเยว่เปิดโหมดพูดจ้อ นกสีฟ้าก็ทำเช่นกัน
“บอกให้หัวหน้าตะขาบมรกตและพวกเขาอย่าเข้ามาใกล้หอคอยปีศาจเลย”
“ร่างแยกของเทพปีศาจตื่นขึ้นแล้ว ตอนนี้ใครเข้าไปก็ตาย ดังนั้นอย่าเข้ามาเสียสละโดยเปล่าประโยชน์เลย”
เมื่อทุกคนได้ยินคำว่าร่างแยกของเทพปีศาจ ดวงตาของพวกเขาต่างเบิกกว้าง เริ่มมีความคิดที่จะถอยหนี เพราะความหวาดกลัวต่อเทพปีศาจหรือราชาปีศาจของพวกเขานั้นมีมาแต่กำเนิด ไม่มีทางเกิดความคิดทรยศต่ออีกฝ่ายได้เลย
ผู้ที่อยู่ในที่นี้ นอกจากท่านหัวหน้าตะขาบมรกตและกองทัพสัตว์นักรบของหลิงเยว่ที่ยังมีสติสัมปชัญญะ คนอื่น ๆ ล้วนได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย
เพียงแค่ชื่อปรากฏขึ้นมาเท่านั้น แรงกดดันจากสายเลือดยังคงมีอยู่
“ตื่นเถิด!”
“ข้าถามพวกเจ้าว่าเป็นอะไรไป ถูกร่างแยกของเทพปีศาจควบคุมกันหมดแล้วหรือ?”
“แค่ร่างแยกของเทพปีศาจเท่านั้นเอง น่ากลัวขนาดนั้นเชียว!?”
ในที่นั้นเงียบสงัด มีเพียงเสียงของหัวหน้าตะขาบมรกตที่ก้องกังวาน
“ข้าบอกพวกเจ้าเลยนะว่า หลิงเยว่เคยจัดการร่างแยกของเทพปีศาจมาแล้ว คราวนี้นางก็ต้องจัดการได้แน่นอน!”
“อะไรนะ?!”
เมื่อหัวหน้าตะขาบมรกตเอ่ยเช่นนั้น อดีตผู้นำเผ่าและคนอื่น ๆ ต่างได้สติกลับคืนมา แล้วมองเขาราวกับมองคนโง่
เหมือนจะบอกว่า ‘เจ้ากำลังล้อเล่นอะไรอยู่? เจ้ากำลังหลอกข้าใช่ไหม?’
“ทำไมข้าจำได้ว่า ก่อนหน้านี้หลิงเยว่มีระดับบำเพ็ญของเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นต้นไม่ใช่หรือ? นางจะจัดการร่างแยกของเทพปีศาจได้อย่างไร?”
ทุกคนต่างมองหัวหน้าตะขาบมรกตด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่า ‘เจ้ากำลังล้อข้าเล่นหรือ?’
หัวหน้าตะขาบมรกตรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่ตอนนั้นการกำจัดร่างแยกเป็นผลงานของหลิงเยว่จริง ๆ แล้วยังมีโม่จวินเจ๋อด้วย…
เรื่องรายละเอียดหัวหน้าตะขาบมรกตก็ไม่รู้แน่ชัด แต่ร่างแยกของปีศาจนั่นตายจริง ๆ!
“ดังนั้นที่จริงแล้วก็คือ พวกเจ้ารุมทำร้ายร่างแยกของปีศาจสินะ”
เมื่อทุกคนได้สติกลับมา ต่างพากันนิ่งเงียบ
หากผู้ที่มีระดับการบำเพ็ญขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์หลายคนไม่สามารถจัดการร่างแยกเทพปีศาจได้ พวกเขาคงต้องทบทวนความร่วมมือกับโลกวิญญาณอีกครั้งแล้ว
อดีตผู้นำเผ่าถึงกับนึกถึงคำพูดของหลิงเยว่ก่อนหน้านี้ ที่ว่านางสามารถเป็นตัวแทนของโลกวิญญาณได้…
อืม ตอนนี้คงไม่ผิดแน่ เพราะนางมาได้ไม่นานก็ปลดผนึกบ่อสวรรค์ได้แล้ว และหลิงเยว่ยังได้พิสูจน์ตัวเองด้วยความสามารถอื่น ๆ มานับครั้งไม่ถ้วนอีกด้วย
“ดังนั้นตอนนี้พวกข้าทำได้แค่รอเฉย ๆ เท่านั้นหรือ?”
การกระทำนี้ขัดกับบุคลิกของหัวหน้าตะขาบมรกตเหลือเกิน เขาฝ่าทัณฑ์สวรรค์มาแล้ว แต่กลับต้องทำตัวเหมือนพวกขี้ขลาดอยู่แบบนี้ ทำให้เขารู้สึกหดหู่เป็นอย่างยิ่ง
“ไม่เช่นนั้นจะเข้าไปช่วยเลยหรือ?” ผู้อาวุโสกระทิงเหลือบมองหัวหน้าตะขาบมรกต พวกเขาก็อยากช่วยหลิงเยว่เช่นกัน แต่เหมือนที่นางกล่าวไว้ มันเป็นการเสียสละโดยเปล่าประโยชน์
“พวกเราลองศึกษาดูก่อน ดูว่าจะสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้หรือไม่?”
ตัวแทนมนุษย์แสดงความคิดเห็นอย่างอ่อนแรง จากคำบอกเล่าของชิงเหนี่ยว เขารู้สึกว่านี่เป็นค่ายกลสังหาร แต่ไม่รู้ว่าเป็นค่ายกลสังหารแบบใด ต้องสังเกตดูก่อน
“อย่าคิดจะทำลายค่ายกลใด ๆ ตอนนี้ร่างแยกของเทพปีศาจปรากฏแล้วสามตน และยังมี…”
ชิงเหนี่ยวพูดขึ้นมากะทันหัน ทำให้ทุกคนชะงักงัน
ร่างแยกสามร่าง!!!
พวกเขามองหน้ากันไปมา แล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่
หลิงเยว่เผชิญหน้ากับสามร่างแยกของเทพปีศาจ และสามารถบอกสถานการณ์ภายในให้พวกเขาฟังได้ต่อหน้าต่อตาเทพปีศาจเช่นนี้ ช่าง… ไม่สิ! ต้องบอกว่า นางแข็งแกร่งยิ่งนัก!
…………….