ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 407 นางรอดชีวิตมาได้!
บทที่ 407 นางรอดชีวิตมาได้!
……….
บทที่ 407 นางรอดชีวิตมาได้!
โม่จวินเจ๋อรออยู่นาน แต่แทนที่จะเป็นเทพปีศาจหรือราชาปีศาจ เขากลับได้รับสายฝนปีศาจอันทรงพลังแทน!
ขณะที่สายฝนปีศาจตกลงมาตรงที่โม่จวินเจ๋ออยู่ อีกด้านของท้องฟ้ามีสายฝนปีศาจตกลงมาเช่นกัน!
กระดูกที่แตกสลายได้รับการซ่อมแซมด้วยความชุ่มชื้นของสายฝน เนื้อและเลือดต่างฟื้นฟู พืชและสมุนไพรปีศาจที่ถูกทำลายผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ดวงอาทิตย์อันอบอุ่นโผล่ออกมาจากเมฆ ขับไล่ความมืดมนที่ปกคลุมมาหลายวัน
“ผู้รับทัณฑ์สวรรค์ทั้งสอง… ประสบความสำเร็จแล้ว…”
หนึ่งในนั้นคือเมล็ดพันธุ์ปีศาจ แล้วอีกฝ่ายเป็นเผ่าพันธุ์ใดกัน?
ผู้เฝ้าดูเบนสายตาไปยังที่ไกลออกไป สายฟ้าห้าสีที่เหลืออยู่ถูกสายฝนปีศาจดับลงแล้ว ภาพอันงดงามตระการตาไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป
หลิงเยว่ที่ถูกสายฝนปีศาจซัดร่างอย่างต่อเนื่อง ดอกไม้ปีศาจที่ปกคลุมร่างกายของนางหดกลับเข้าไปในร่าง เผยให้เห็นผิวขาวเนียนของนาง
หลิงเยว่รู้สึกเป็นครั้งแรกว่ารสชาติของฝนช่างหวานเหลือเกิน หวานจนถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว…
สายฝนปีศาจที่ถูกกลืนลงท้องผสานกับวิชารักษา ซ่อมแซมเส้นเอ็นและอวัยวะภายในอย่างรวดเร็ว หลิงเยว่ลืมตาขึ้นครึ่งหนึ่ง แสงอาทิตย์พลันสาดส่อง ทำให้นางยกมือขึ้นบังโดยสัญชาตญาณ แต่เมื่อเห็นมือที่เหลือเพียงกระดูกเพิ่งฟื้นคืนสภาพเพียงครึ่งเดียว นางก็เบิกตาโพลง
การบำเพ็ญเซียน… ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ แม้แต่ร่างกายเช่นนี้ก็ยังสามารถซ่อมแซมได้!
“ข้ารอดแล้ว ฮ่า ๆ ๆ!”
เสียงหัวเราะอันทรงพลังดังมาจากที่ไม่ไกลเข้าสู่โสตประสาทของหลิงเยว่
“ข้าก็รอดชีวิตมาได้เช่นกัน แถมพลังของข้ายังเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้นด้วย!”
“เจ้าเพิ่มขึ้นแค่หนึ่งขั้นเองรึ? ข้าน่ะเพิ่มขึ้นตั้งสองขั้นเชียวนะ!”
“ดีจริง ๆ ถ้าได้รับทัณฑ์สวรรค์อีกครั้ง ข้าอาจจะก้าวขึ้นสู่ระดับราชาก็ได้…”
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านตื่นแล้ว!”
หลิงเยว่ฟังแล้วอดยิ้มไม่ได้ ดวงตาของนางค่อย ๆ ชื้นขึ้น นางคิดว่าการฝ่าทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้จะพรากชีวิตไป แต่ผลลัพธ์กลับเกินความคาดหมาย
“หลิงเยว่!” ชิงหลงรีบปีนออกจากหลุมลึกทันทีที่ถูกปลุกด้วยสายฝนปีศาจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายลืมตาขึ้น นางก็ยิ้มตามไปด้วย
“ผู้อาวุโส”
หลิงเยว่รีบลุกขึ้น
“พวกเขายังสบายดีหรือไม่?”
แม้ว่าคำพูดที่ได้ยินจะเต็มไปด้วยความยินดี แต่หลิงเยว่ยังอยากให้นางยืนยันอีกครั้ง
“ทุกคนสบายดี พวกเขาต้องขอบคุณเจ้าที่มอบโอกาสครั้งใหญ่ให้”
ชิงหลงรู้สึกราง ๆ ว่าตนกำลังจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตพ้นโลกีย์ แต่นางก็กดข่มเอาไว้ เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม…
“ถูกต้อง ข้าคิดว่าชาตินี้คงไม่มีหวังก้าวสู่ขอบเขตพ้นโลกีย์แล้ว ไม่คิดว่าหลังจากช่วยรับทัณฑ์สวรรค์ พลังของข้ากลับขึ้นไปถึงระดับราชาขั้นปลายแล้ว!”
อดีตผู้นำเผ่าที่โผล่ออกมากะทันหันยิ้มจนตาหยี ตอนนี้ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขายังไม่ฟื้นคืน ดูน่าสยองยิ่งนัก!
หลิงเยว่กลืนน้ำลายเงียบ ๆ
เมื่อฝนตกหนัก ทุกคนจึงฟื้นตัวเร็วขึ้น หลิงเยว่ใช้ปลายเท้าแตะพื้นแล้วบินออกจากหลุมลึก รีบปลูกดอกไม้ปีศาจให้กับผู้บุกรุกทั้งยี่สิบห้าคนทันที เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาหนีหรือลงมือกับพวกนางหลังจากฟื้นตัว
“อย่าคิดจะหนีเลย เพราะดอกไม้นี้สามารถพรากชีวิตพวกเจ้าได้ทุกเมื่อ”
หลิงเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้พวกผู้โจมตีสิ้นหวัง
พวกผู้โจมตีก้มมองดอกไม้ปีศาจ พวกเขาควรจะวิ่งหนีทันทีที่ร่างกายขยับได้ แต่ตอนนี้ทำได้แค่จ้องมองดอกไม้สีดำเล็ก ๆ พลางหลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจออกมา
มีทั้งคนที่ยอมรับชะตากรรมและคนที่ไม่ยอมรับ บางคนพยายามจะหนีไป แต่ไม่นานก็ต้องร้องครวญครางกลับมา
“ข้าผิดไปแล้ว บอกให้ดอกไม้ปีศาจนั่นหยุดดูดพลังข้าที!”
ผู้โจมตีที่หนีไปคุกเข่าต่อหน้าหลิงเยว่ อ้อนวอนอย่างน่าสงสาร มือทั้งสองบีบหัวใจแน่น ใบหน้าแสดงความเจ็บปวดและสิ้นหวัง
อวัยวะภายในกำลังเหี่ยวแห้ง ดอกไม้ปีศาจกำลังดูดพลังและ… ชีวิตของเขาด้วย!
ดอกไม้นี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน!
หลิงเยว่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาชีวิต แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมอยู่นิ่งเอง… ก็ตายไปเถอะ!
ผู้ที่หลบหนีไปทยอยกลับมาทีละคน พวกเขาคุกเข่า นอนราบ หรือกลิ้งไปมาด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว แต่ปากกลับพร่ำพูดคำวิงวอนไม่หยุด ภาพนี้ทำให้ผู้บุกรุกที่ยังไม่ทันหนีไปตกใจกลัว
ดอกไม้ปีศาจหยุดเคลื่อนไหว ม่านพลังหายไปเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ เผ่าปีศาจที่ถูกกั้นไว้ด้านนอกต่างทะลักเข้ามา รวมถึงผู่ตานและหัวหน้าตะขาบมรกตด้วย
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายอยู่ไม่ไกลกัน หัวหน้าตะขาบมรกตคุ้นเคยกับกลิ่นอายของหลิงเยว่ จึงรีบจูงผู่ตานตรงไปยังดินแดนของเผ่ากระทิงทันที
หลิงเยว่กำลังตรวจสอบคนอื่น ๆ พบว่าพวกเขาฟื้นตัวเร็วมากภายใต้การหล่อเลี้ยงของสายฝนปีศาจ นางไม่จำเป็นต้องใช้วิชารักษาขั้นสูงอีก ขณะที่หลิงเยว่หมุนตัวจะไปหาโม่จวินเจ๋อ…
“ศิษย์น้อง/เจ้ามนุษย์เปราะบางน้อย!”
เสียงเรียกนั้นหยุดหลิงเยว่ไว้ นางหันหลังกลับด้วยความประหลาดใจ เงาร่างสีแดงสองร่างกำลังบินมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“ศิษย์น้อง!” ผู่ตานกอดหลิงเยว่อย่างตื่นเต้น ดวงตาเริ่มแดงก่ำ
“ศิษย์พี่สี่” หลิงเยว่ยกมือขึ้นกอดตอบผู่ตาน
ทั้งสองกอดกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผละออกจากกัน
“พวกท่านหาที่นี่เจอได้อย่างไร?”
“ชิงหลงบอกมา”
ขณะที่ผู่ตานกำลังจะเอ่ยปาก หัวหน้าตะขาบมรกตกลับรีบตอบก่อน เขามองหลิงเยว่ด้วยสายตาประหลาดใจ “เจ้า… อยู่ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์แล้วหรือ?”
“ใช่แล้ว!” หลิงเยว่ยิ้มกว้าง “ต่อไปนี้ข้าจะคุ้มครองพวกเจ้าเอง!”
หัวหน้าตะขาบมรกตไม่ได้ดีใจเลยแม้แต่น้อย!
“ศิษย์น้องหลิง ต่อไปเจ้าต้องปกป้องข้าให้ดีนะ!”
ผู่ตานรู้สึกเจ็บปวดใจ แต่เขาก็ดีใจกับหลิงเยว่ด้วย
“วางใจเถิด พวกเจ้ารอข้าก่อนนะ!”
หลิงเยว่มองเห็นความหม่นหมองในดวงตาของผู่ตานและหัวหน้าตะขาบมรกตอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ความปลอดภัยของโม่จวินเจ๋อสำคัญกว่า เมื่อกลับมาแล้วนางจะลองใช้ชาสืบทอดวิญญาณของตะขาบมรกตสี่ปีก ส่วนผู่ตาน… ค่อยให้หัวหน้าตะขาบมรกตไปหาเพลิงพิสดารเป็นเพื่อนเขาแล้วกัน!
“เจ้าจะไป… ที่ไหน?”
ผู่ตานเพิ่งพูดจบ ร่างของหลิงเยว่ก็หายวับไปในพริบตา
“เดี๋ยวข้ากลับมา!”
หลิงเยว่และชิงหลงกลายร่างเป็นลำแสงสองสาย พุ่งไปยังท้องฟ้าอีกด้านหนึ่ง
ผู่ตานและหัวหน้าตะขาบมรกตที่ยังคงอยู่ในดินแดนของกระทิง รู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับเหล่าปีศาจมากมาย
“พวกเจ้ารู้จักกับหลิงเยว่ ถือว่าเป็นสหายของข้าเช่นกัน!” ผู้อาวุโสกระทิงตบหลังหัวหน้าตะขาบมรกต จนเกือบจะทำให้ตะขาบตัวอ้วนอย่างมันตกลงไปในหลุมแล้ว!
“อย่ากังวลไปเลย อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว!” อดีตผู้นำเผ่าแสดงท่าทีเป็นมิตรเช่นกัน
หัวหน้าตะขาบมรกตและผู่ตานถูกผู้อาวุโสกระทิงกึ่งดันกึ่งลากออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ากระทิง ในขณะที่หลิงเยว่และชิงหลงได้มาถึงสถานที่ฝ่าทัณฑ์สวรรค์ของโม่จวินเจ๋อแล้ว
ชิงหลงเพิ่งจะก้าวเข้าไป ร่างกายก็ถูกม่านพลังผลักกระเด็นออกมา
ในขณะที่ผู้คนรอบข้างกำลังจะได้ชมการแสดงของหลิงเยว่ นางกลับเดินเข้าไปในม่านพลังอย่างสบาย ๆ แล้วหันกลับมายิ้มให้เหล่าปีศาจที่อยู่ด้านนอก นั่นทำให้ฮวนฮวนได้เห็นรูปโฉมของหลิงเยว่อย่างชัดเจน
“อาจารย์หลิง!”
“ฮวนฮวน เดี๋ยวอาจารย์จะกลับมาหาเจ้านะ”
หลิงเยว่รีบมุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางสายฟ้าอย่างรวดเร็ว สายฝนปีศาจตกมานานขนาดนี้แล้ว แต่โม่จวินเจ๋อยังไม่ได้สติ น่ากลัวว่างจะเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเข้าแล้ว
……….