ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 386 ระบบไม่เคยหลอกเจ้า
บทที่ 386 ระบบไม่เคยหลอกเจ้า
……….
บทที่ 386 ระบบไม่เคยหลอกเจ้า
“ระบบ หากข้าก้าวข้ามขอบเขตสามขั้นติดต่อกัน เช่นนั้นการฝ่าทัณฑ์สวรรค์จะไม่ผ่าลงมารวบยอดเลยหรือ!?”
ไม่เพียงแต่จะมีความวุ่นวาย แต่หลิงเยว่ยังกลัวว่าตนเองจะทนไม่ไหวด้วย
ระบบถึงกับเงียบไปเมื่อได้ยินคำพูดของหลิงเยว่
นางไม่รู้บ้างหรือว่าการฝ่าทัณฑ์สวรรค์ของตนเองนั้นง่ายดายเพียงใด? ทุกครั้งสวรรค์ยังช่วยเหลืออย่างโจ่งแจ้ง หรือไม่ก็บังคับให้ผู้บริสุทธิ์มาช่วยเหลือ
เผ่ากระทิงมีกระทิงมากมาย อีกทั้งรอบตัวนางยังมีสิงโตเก้าหาง ปลากลายพันธุ์และมหาปุโรหิต แม้จะต้องฝ่าทัณฑ์สวรรค์หลายร้อยครั้ง สำหรับหลิงเยว่แล้วล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อย
“เจ้าว่าอะไรนะ ข้าต้องฝ่าทัณฑ์สวรรค์หลายร้อยครั้งงั้นหรือ?”
หลิงเยว่ช่างจับประเด็นสำคัญได้ดีนัก
“ระบบ ข้าไม่ซื้อแล้ว… ไม่สิ! ข้าจะซื้อ แต่ซื้อน้อย ๆ ก่อนแล้วกัน”
[ยิ่งระดับการบำเพ็ญสูง อัตราความสำเร็จในการสร้างชาสืบทอดวิญญาณจะยิ่งสูงขึ้น หากระดับการบำเพ็ญถึงขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์โดยสมบูรณ์แล้ว อัตราความสำเร็จก็จะเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์]
ร้อยเปอร์เซ็นต์?!
“เจ้าแน่ใจหรือว่าร้อยเปอร์เซ็นต์? ระบบ เจ้าอย่าหลอกข้านะ!”
[ข้าไม่เคยหลอกเจ้า]
เพียงมีระดับการบำเพ็ญขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลายยังไม่พอ แต่ต้องถึงขั้นสมบูรณ์ถึงจะมีอัตราความสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์สินะ!
ระบบนี้ช่างเก่งขายของจริง ๆ!
เพื่อโม่จวินเจ๋อและเจ้าหนอนอ้วนน่าสงสาร หลิงเยว่กัดฟันแน่นจนฟันแทบแตก แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจ
“ขอเวลาอีกสองสามวันเถอะ รอให้ข้าปรับสภาพให้ดีก่อน”
ช่วงนี้หลิงเยว่เก็บตัวอยู่ตลอด ทั้งสมองและร่างกายล้วนทำงานหนักเกินกำลัง นางจะขอนอนพักสักสองวันก่อนแล้วค่อยว่ากัน ด้วยเหตุนี้นางจึงหาทุ่งหญ้าแห่งหนึ่งแล้วนอนลงไป แต่เพิ่งนอนลงไปได้ไม่นาน นางก็ลุกพรวดขึ้นมาอีกครั้ง
อากาศดีเช่นนี้ บนทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล หากไม่นั่งกินของอร่อยคงเสียดายยิ่งนัก!
ผ้าลายดอกผืนใหญ่ถูกปูลงบนพื้นหญ้า ตามด้วยขนมหวานอันงดงามประณีต ไก่ทอด เนื้อกระทิงทอด ลูกชิ้น เนื้อย่าง สุราสมุนไพรวิญญาณพิเศษ…
สองในสามของผ้าลายดอกเต็มไปด้วยอาหารเลิศรส
เสียงกลืนน้ำลายดังมาจากทิศทางหนึ่ง
ผู้อาวุโสกระทิงน้ำลายไหลยืด จ้องมองจนตาแทบจะถลน เบื้องหลังเขายังมีคนคุ้นเคยติดตามมาอีกหลายคน
“การเก็บตัวบำเพ็ญครั้งนี้ของเจ้า เหตุใดจึงใช้เวลาแค่สองวันเล่า?”
ผู้อาวุโสกระทิงเอ่ยปากพูด ขณะสายตาจับจ้องอาหารที่อยู่บนผ้าลายดอกตลอดเวลา เมื่อเทียบกับอาหารปีศาจแล้ว ดูคล้ายกันมาก เพียงแต่สีสันและชนิดของอาหารวิญญาณดูชื่นตาชื่นใจกว่า
“อาหารวิญญาณที่เจ้าให้พวกข้าครั้งก่อน ล้วนเป็นฝีมือของเจ้าหรือ?”
หลิงเยว่ส่ายหน้าให้นางพญางู “ไม่ใช่ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นฝีมือลูกศิษย์ข้า”
ไม่รอให้นางพญางูถามต่อ หลิงเยว่ก็เปลี่ยนเรื่องทันที นางตบพื้นหญ้าข้างกาย แล้วกล่าวว่า “มา ๆ ๆ พวกท่านนั่งกินด้วยกันเถิด ยิ่งมีคนมากก็ยิ่งครึกครื้น”
ปลาหนามปีศาจกลายพันธุ์และปีศาจสิงโตเก้าหางที่รับการสืบทอดสองเผ่าพันธุ์เสร็จแล้ว รีบนั่งลงอย่างรวดเร็วทั้งซ้ายและขวาของหลิงเยว่
แม้ปีศาจสิงโตเก้าหางจะได้รับการสืบทอดสองอย่างแล้ว แต่นางก็ยังคงงุนงงสับสน
หลิงเยว่หยิกปีศาจสิงโตเก้าหางไปทีหนึ่ง สิงโตเพียงแต่จ้องมองนางอย่างเหม่อลอย และเสนอคำขอที่ทำให้คนต้องเหงื่อตก
“ใช้แรงทั้งหมดหยิกข้าทีสิ”
“แรงทั้งหมดเลยหรือ?”
ด้วยแรงทั้งหมดของผู้บำเพ็ญขอบเขตทะยานเซียนขั้นกลางน่ะหรือ?
ปีศาจสิงโตเก้าหางพยักหน้า
ดูเหมือนหลิงเยว่จะโดนดูถูกเสียแล้ว…
ดีละ! หลิงเยว่ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะใช้ค่าพลังวิญญาณทั้งหมดซื้อวิชา!
รอดูเถิด รอให้นางซื้อวิชาเสร็จ นางจะบีบคอเจ้าสิงโตโง่เง่านั่นให้ตายคามือเลย!
“ข้าจะจัดการเอง!”
ผู้อาวุโสกระทิงตบฝ่ามือใส่ปีศาจสิงโตเก้าหางทันที อีกฝ่ายตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยใช้สองนิ้วหนีบไว้ “เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
“งั้นข้าผู้นำเผ่าจะลองดูเอง!” ผู้นำเผ่ากระทิงงามที่มาทีหลังก็ลงมือต่อสู้กับสิงโตเก้าหางทันที โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ทั้งสองคนไม่ได้ใช้พลังปีศาจ แต่กลับต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ทำเอาหลิงเยว่รู้สึกเจ็บไปด้วย
“เจ้ามองเห็นไม่ชัดสินะ?”
แม้ทั้งสองไม่ได้ใช้พลังปีศาจ แต่ความเร็วยังคงสูงมาก เห็นเพียงเงาร่างพร่าเลือน ผู้ที่มีพลังต่ำต้อยได้ยินเพียงเสียงและแสงวาบผ่านไปไม่หยุด
หลิงเยว่จึงได้เพียงเสียงการต่อสู้ของทั้งสองเท่านั้น
ปลาหนามปีศาจที่กลายพันธุ์พูดตรง ๆ อีกครั้ง ทำร้ายจิตใจอันบอบบางของหลิงเยว่ ทำให้นางอยากซื้อพลังฝึกฝนในทันที แล้วนางจะกลับมาซัดทุกคนที่อยู่ตรงนั้นให้กระเด็น!
แต่นางก็อดทนเอาไว้
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้ยืดเยื้อนานนัก ร่างหนึ่งพุ่งผ่านสายตาของหลิงเยว่ ก่อนจะล้มลงบนพื้นด้วยเสียงดัง ตุ้บ! แล้วกลิ้งไปหลายตลบก่อนจะหยุดนิ่ง
ผิวขาวผ่องของผู้นำเผ่ากระทิงงามเต็มไปด้วยรอยหมัดและฝ่ามือ ดูแล้วช่างน่าสงสารนัก ตรงกันข้ามกับปีศาจสิงโตเก้าหางที่จบการต่อสู้ โดยที่เสื้อผ้ายังคงสมบูรณ์ไร้ตำหนิ บนใบหน้ามีเพียงรอยหมัดเดียวเท่านั้น
พวกนางเล็งแต่หน้ากันหรือไง?
หลิงเยว่รู้สึกชาหน้าแทน!
“ท่านผู้นำเผ่า ท่านสู้ไม่ชนะหรือ?!”
ผู้อาวุโสกระทิงไม่กล้าเชื่อสายตาตนเอง แต่ความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว
ผู้นำเผ่ากระทิงงามกลับไม่รู้สึกอับอายแต่อย่างใด นางพยักหน้าอย่างสง่างาม เมื่อกำลังจะเอ่ยปาก ท่านพ่อของนางก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“เหตุใดพวกเราไม่หาคู่ครองที่เก่งกาจจากเผ่าพันธุ์เดียวกันเล่า?”
อดีตผู้นำเผ่าได้เห็นความร้ายกาจของพวกลูกครึ่งจากปีศาจสิงโตเก้าหาง เผ่าปีศาจอสูรระดับสูงนั้นให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของสายเลือดมาก ยิ่งสายเลือดบริสุทธิ์เท่าไหร่ หมายความว่ายิ่งกดข่มผู้อื่น และสามารถควบคุมเผ่าพันธุ์อื่นได้มากมาย
ดังนั้น เผ่าปีศาจอสูรที่มีระดับสูงขึ้นไปมักจะไม่แต่งงานต่างเผ่า เพราะเกรงว่าสายเลือดจะเสื่อมถอยลงในแต่ละรุ่น จนกระทั่งกลายเป็นสายเลือดผสม และกลายเป็นปีศาจระดับต่ำ
ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่แย่เท่าไหร่ ตรงกันข้ามกลับทำให้พวกกระทิงรู้สึกตื่นเต้นมาก
“หลิงเยว่ เจ้าคิดว่าเผ่ากระทิงเหมาะจะแต่งงานกับเผ่าใดมากที่สุด?” อดีตผู้นำเผ่าถามหลิงเยว่ด้วยสีหน้าจริงจัง
หลิงเยว่ตกตะลึง นางจะรู้ได้อย่างไรกัน?
“คงเป็นเผ่าที่ชอบ… กระมัง?”
ผู้นำเผ่ากระทิงงามเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำพูดนี้ นางอดไม่ได้ที่จะเม้มปากพยักหน้า ท่าทางที่เมื่อครู่ยังดูสง่าผ่าเผยนั้น กลับดูเขินอายเล็กน้อยเมื่อชำเลืองมองไปทางหัวหน้ากระทิงผู้งามสง่า
“ที่ดีที่สุดคงไม่ควรคบหากับพวกมนุษย์ ไม่เช่นนั้น หากเกิดลูกกระทิงหัวคนขึ้นมาจะทำอย่างไรเล่า?”
ในห้วงความคิดของผู้นำเผ่ากระทิงงามปรากฏภาพลูกกระทิงร่างคนขึ้นมาทันที ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดชั่วขณะ
ดูเหมือนจะไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก…
“เจ้าไม่ใช่นักกลั่นโอสถหรอกหรือ? การกลั่นโอสถเพื่อเปลี่ยนรูปร่างคงไม่ยากเกินไปกระมัง?”
“ไม่ยากหรอก เพียงแต่ลูกผสมระหว่างคนกับกระทิงในอนาคตอาจมีรูปร่างเหมือนที่ข้าพูดไว้ก็เท่านั้น”
ผู้นำเผ่ากระทิงงาม “…”
อดีตผู้นำเผ่าเงยหน้ามองฟ้าพยายามกลั้นหัวเราะ
“เจ้ายังไม่ได้ขอโทษหลิงเยว่อีกหรือ?”
มิเช่นนั้นหลิงเยว่คงไม่กล้าเหน็บแนมหลินชิงต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้แน่
หัวหน้ากระทิงที่ได้รับสารจากสหายยังคงทำสีหน้าเรียบเฉย “เจ้าเห็นว่าข้ามีโอกาสไปขอโทษหรือ?”
หากหลิงเยว่ไม่เก็บตัวบำเพ็ญอยู่ ก็กำลังจะไปเก็บตัว นางเพิ่งจะปรากฏตัวตอนนี้เอง แต่รอบกายกลับเต็มไปด้วยเผ่าปีศาจอสูร และล้วนแต่เป็นพวกที่เขาไม่อาจล่วงเกินได้ แล้วจะให้เขาแทรกตัวเข้าไปได้อย่างไรเล่า?
นางพญางูกลอกตาไปมา แล้วส่งเสียงบอกอีกว่า “จริง ๆ แล้วเจ้าไม่คิดจะพิจารณาตำแหน่งผู้นำเผ่ากระทิงหน่อยหรือ?”
หลินชิง “???”
ตอนแรกที่พวกเขาปรึกษากันเรื่องขอโทษ ไม่ได้มีเรื่องนี้เข้ามาเกี่ยวสักหน่อย นี่เพื่อที่จะได้พูดคุยกับหลิงเยว่ เขาจะต้องขายตัวให้ผู้นำเผ่ากระทิงด้วยหรือ?
“ผู้นำเผ่ากระทิงด้อยตรงไหนหรือ?”
ไม่ได้ด้อยเลย นางทั้งเก่งกาจและโดดเด่นมากด้วยซ้ำ แต่เป็นเผ่าปีศาจอสูร!
หากเป็นจริงดังที่หลิงเยว่กล่าว ลูกพวกเขาเกิดมาเป็นลูกผสมที่มีร่างกระทิงหัวคน คงยากที่จะยอมรับได้…
เพียงแค่คิดว่ามีความเป็นไปได้เช่นนั้น หลินชิงก็ไม่อาจเผชิญหน้ากับผู้นำเผ่ากระทิงได้เลย
……….