ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 380 นางเป็นพืชปีศาจประเภทใดกัน?
บทที่ 380 นางเป็นพืชปีศาจประเภทใดกัน?
……….
บทที่ 380 นางเป็นพืชปีศาจประเภทใดกัน?
ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง หลิงเยว่รู้สึกว่าตนเองนั้นไร้น้ำใจไปหน่อย จึงยิ้มแห้ง ๆ กล่าวว่า “เช่นนั้นโอบลาสักหน่อยเป็นไร?”
โม่จวินเจ๋อรู้สึกมึนงงกับการที่หลิงเยว่โผเข้ากอดอย่างกะทันหัน ใบหน้าของเขาพลันร้อนผ่าว แล้วรู้สึกหงุดหงิดยิ่งนักที่ตอนนี้ร่างของตนยังเป็นมังกรปีศาจอยู่!
ดวงตาของผู้ที่มุงดูอยู่โดยรอบแทบจะถลนออกมานอกเบ้า
หลิงเยว่กอดกับ… มังกรปีศาจ!
แล้วสนมปีศาจดูเหมือนจะเขินอายด้วย?!
แม้ว่าหลิงเยว่จะโอบกอดเพียงเบา ๆ แล้วคลายออก แต่ความร้อนบนใบหน้าของโม่จวินเจ๋อยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ เขาหายใจเข้าลึก ๆ หลายครั้ง แล้วเอ่ยว่า “ข้ามีเรื่องอยากจะพูดกับเจ้า”
หลิงเยว่มองไปที่ดวงตาที่เปล่งประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเหล่าผู้คนที่มุงดูอยู่ จึงเอื้อมมือดึงโม่จวินเจ๋อกลับเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตูใส่คนพวกนั้น
โม่จวินเจ๋อยกมือขึ้น ร่ายม่านพลังป้องกันเสียงออกไปอย่างเงียบ ๆ
“ท่านค้นพบอะไรบางอย่างหรือไม่?” หลิงเยว่ยื่นชาสมุนไพรปีศาจให้กับโม่จวินเจ๋อ
“อืม” โม่จวินเจ๋อจิบชานมหวานฉ่ำ ดวงตาพลันหรี่ลงโดยไม่รู้ตัว ชานมสมุนไพรปีศาจและชานมสมุนไพรวิญญาณ แม้จะแตกต่างกันมากในรูปลักษณ์ภายนอก แต่รสชาติกลับดีเหมือนกัน “ก่อนที่มังกรปีศาจจะออกจากเขตแดนปีศาจ มันสั่งให้บริวารขุดหลุมหอคอยใต้ดินในเขตแดนปีศาจหนึ่งพันแห่ง…”
โม่จวินเจ๋ออธิบายสถานการณ์ที่พบให้หลิงเยว่ฟังทีละอย่าง
หลังจากฟังจบ หลิงเยว่เงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยว่า “ท่านหมายความว่า ให้ข้าไปทำลายหอคอยกระดูก เพื่อให้มิติหอคอยซากศพในโลกวิญญาณไร้ประโยชน์ใช่หรือไม่?”
โม่จวินเจ๋อไม่ตอบคำถามนี้ แต่กลับบอกความคิดที่จะเก็บหินปีศาจส่วนใหญ่ในเขตแดนปีศาจเข้ากระเป๋าของตน
พอได้ยินแผนนี้ หลิงเยว่ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ถูกต้อง! ถ้าท่านไปทำลาย ตัวตนของท่านคงถูกเปิดเผยแน่ ให้ข้าจัดการเรื่องนี้เองเถิด!”
โม่จวินเจ๋อยิ้มเบา ๆ นางชอบหินวิญญาณและหินปีศาจขนาดนั้นเชียวหรือ?
หลิงเยว่บอกข่าวสารทั้งหมดที่นางรู้ให้โม่จวินเจ๋อฟัง รวมถึงเรื่องที่นางจะใช้มรดกสืบทอดเพื่อดึงดูดเผ่าปีศาจอสูรระดับสูง แต่เรื่องที่จะไปบุกเข้าหุบเหวปีศาจ นางยังไม่ได้บอก
นางกลัวว่าโม่จวินเจ๋อจะไปด้วย ถ้าภารกิจล้มเหลว ทั้งสองคนก็จะจบไปพร้อมกัน!
ถ้าแยกกันไป ยังมีโอกาสครั้งที่สอง!
“อ้อใช่! ข้าตั้งใจจะช่วยคืนชีพให้ผู้นำเผ่าทิงมี่ แล้วท่านก็พาเขาไปด้วย”
“เหตุใดรึ?”
“ข้าได้ยินมาว่า ข้อห้ามของบ่อสวรรค์นั้น บรรพชนของเผ่าทิงมี่เป็นคนตั้งไว้…”
เมื่อมีผู้นำเผ่าทิงมี่แล้ว โม่จวินเจ๋อไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องวิธีแก้ข้อห้ามของบ่อสวรรค์อีกต่อไป
ถ้าไม่ใช่เพราะจำนวนอายุขัยไม่เพียงพอสำหรับซื้อยันต์ศักดิ์สิทธิ์ทำลายล้างสองใบ หลิงเยว่คงไม่เลือกวิธีนี้เป็นแน่
แล้วจะให้ผู้นำเผ่าทิงมี่ยอมทำตามได้อย่างไร?
หลิงเยว่นึกถึงเมล็ดพันธุ์ปีศาจขึ้นมา หากลองใช้ดอกไม้ปีศาจเข้าไปฝังในร่างกายของเขา ถ้าหากคิดจะหักหลังก็ให้ดอกไม้ปีศาจดูดกลืนพลังชีวิตของผู้นำเผ่าทิงมี่เสีย!
แผนการนี้ช่างสมบูรณ์แบบยิ่งนัก!
ทั้งสองสนทนากันอยู่นาน แต่น่าเสียดายที่คนที่แอบฟังอยู่ข้างนอก แม้แต่เสียงหายใจก็ไม่ได้ยิน
ชิงหลงที่เห็นทั้งสองจูงมือสวมกอดกันกับตาถึงกับลูบคาง พวกเขาคงไม่ได้กำลังบำเพ็ญเพียรร่วมกันข้างในนั้นหรอกนะ?
ต่อให้บำเพ็ญเพียรร่วมกัน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานถึงสามวันหรอกกระมัง?
มิใช่เพียงชิงหลงที่คิดไปไกล แม้แต่พวกท่านผู้อาวุโสเผ่ากระทิงหลายคนก็อดคิดไปในทางนั้นไม่ได้
แต่พอคิดอีกที พวกนางทั้งสองล้วนเป็นสตรี จะเป็นไปได้อย่างไรกัน! ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ราชาปีศาจหลงใหล และยอมแม้กระทั่งตกสู่วิถีมารก็คือสนมผู้นั้น นางจะหลงใหลหลิงเยว่ที่เป็นเพียงต้นไม้วิญญาณได้เช่นไรกัน?
ประตูถูกเปิดออกจากด้านใน ท่านผู้อาวุโสเผ่ากระทิงที่ยืนแนบประตูอยู่ต่างหงายหลังลงไปกับพื้น ตามมาด้วยอดีตหัวหน้าผู้นำเผ่า และนางพญางู…
เบื้องหน้าประตู บัดนี้เต็มไปด้วยผู้คน
หลิงเยว่และโม่จวินเจ๋อต่างมีสีหน้าเรียบเฉย
เมื่อโม่จวินเจ๋อเห็นผู้นำเผ่ากระทิงอยู่บนสุด สีหน้าของเขาก็ดูเย็นชาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยกเท้าเหยียบลงไปโดยตรง ไม่อาจทราบได้ว่าตั้งใจหรือไม่ แต่ในจังหวะที่เท้าของเขากำลังย่ำลงบนใบหน้าของหัวหน้ากระทิง สีหน้าของอีกฝ่ายก็แปรเปลี่ยนไปทันที ทว่าเขากลับกัดฟันทน ไม่ร้องครวญครางออกมาแม้แต่น้อย
คนด้านล่างต่างทำหน้าเจ็บปวดเช่นกัน โชคดีที่ผู้อาวุโสกระทิงมีผิวหนังหนาเป็นเกราะกำบัง แม้จะแบกภูเขามนุษย์และมังกรอีกตัว ก็ยังไม่ถึงกับทำให้เขาต้องกระอักเลือด
หลิงเยว่มองส่งโม่จวินเจ๋อจากไป แล้วอธิบายสถานการณ์ให้กำแพงมนุษย์ที่ยังคงนอนราบกับพื้นฟัง จากนั้นจึงถามถึงสภาพของผู้นำเผ่าทิงมี่
“เขายังมีลมหายใจอยู่” อดีตผู้นำเผ่าคลานออกมาจากกองคน ปัดเสื้อผ้าของตัวเองพลางถามว่า “เป็นอย่างไร จะส่งเขาไปสู่สุคติหรือ?”
“พาข้าไปดูหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”
เมื่ออดีตผู้นำเผ่าและหลิงเยว่จากไป เสียงครางจากกองคนก็ดังขึ้นต่อเนื่อง หัวหน้ากระทิงผู้ยิ่งใหญ่ที่กลั้นเลือดไว้ก็พ่นออกมาทันที
นางพญางูเลิกเสื้อของหัวหน้ากระทิงขึ้น รอยเท้าบนแผ่นหลังมีเลือดซึมออกมา
“เจ้าช่างอ่อนแอเหลือเกิน แค่ถูกเหยียบครั้งเดียวก็บาดเจ็บถึงภายในแล้ว” ผู้อาวุโสกระทิงพูดอย่างไร้ปรานี ดวงตาเต็มไปด้วยความสะใจจนแทบจะทะลักออกมา
สมน้ำหน้า!
หัวหน้ากระทิงอ้าปากจะพูด แต่เลือดสีแดงสดกลับไหลออกจากมุมปากอย่างช้า ๆ ทำให้เสื้อผ้าด้านหน้าเปื้อนเป็นสีแดงในพริบตา จากนั้นตาก็พลิกกลับและหมดสติไป
ผู้บำเพ็ญขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นต้น ถูกมังกรปีศาจเหยียบจนบาดเจ็บสาหัสเพียงเท้าเดียว!
นางพญางูปล่อยแสงสีเขียวแห่งการรักษา รวมตัวเป็นก้อนพลังพุ่งตรงไปยังแผ่นหลังของหัวหน้ากระทิง ทำให้ใบหน้าที่เคยเขียวคล้ำกลับมาเป็นปกติขึ้นบ้าง
เผ่ามนุษย์ที่เหลือเบือนหน้าไปทางอื่น พวกเขาดูเหมือนจะประเมินความแข็งแกร่งของมังกรปีศาจต่ำเกินไป หากต้องเผชิญหน้ากันตรง ๆ พวกเขาย่อมมิอาจเทียบได้!
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องซ่อนตัวรอกันต่อไปอีกนาน
หากมังกรปีศาจยืนอยู่ข้างเดียวกับโลกวิญญาณได้ก็คงจะดี เหล่ามนุษย์จินตนาการกันไปต่าง ๆ นานา ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว ดูอย่างที่มังกรปีศาจปกป้องหลิงเยว่ แล้วเหยียบหลินชิงหรือหัวหน้ากระทิงไปหนึ่งทีคาดว่าคงจะรู้เรื่องที่เขาฉวยโอกาสตอนที่หลิงเยว่ถูกเมล็ดพันธุ์ปีศาจครอบงำแน่ ๆ
สุดท้ายแล้วมังกรปีศาจกับหลิงเยว่เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
ตราบใดที่โม่จวินเจ๋อไม่เปิดเผยตัวตนออกมา ก็คงไม่มีใครล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาได้ นอกจากผู้นำเผ่าปลา มหาปุโรหิต ชิงหลง และหลิงเยว่ แม้ว่าพวกเขาจะเปิดเผยตัวตนออกมาต่อหน้าก็คงไม่มีใครเชื่อ
เพราะอย่างไรเสีย เขาก็มีหัวใจของมังกรปีศาจอยู่ในครอบครอง รอให้หลิงเยว่กลั่นมรดกมังกรทองห้าเล็บก่อนเถิด พลังสายเลือดจะยิ่งบริสุทธิ์มากขึ้น สิ่งที่หลอกอาจกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาได้!
หลิงเยว่เดินตามอดีตผู้นำเผ่ามาถึงห้องเล็ก ๆ อันมืดมิด รอยแผลขนาดใหญ่ที่หน้าอกของผู้นำเผ่าทิงมี่ยังคงดูน่ากลัว เลือดสีดำไหลนองพื้น แต่กระนั้น… เขายังคงหายใจอยู่
“พลังชีวิตของเผ่าทิงมี่นี่ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!”
หัวใจถูกทำลายไปหลายเดือนแล้วยังคงมีลมหายใจอยู่ได้เช่นนี้?
เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของหลิงเยว่ ผู้นำเผ่าทิงมี่ลืมตาขึ้น แล้วดวงตาของเขาก็หดเล็กลงราวกับเห็นผี
“เจ้า… เมล็ดพันธุ์ปีศาจ?”
“มันแพ้แล้ว”
หลิงเยว่ยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางย่อตัวลงข้างผู้นำเผ่าทิงมี่ ดอกไม้ปีศาจปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของนาง
เมื่อเห็นดอกไม้ปีศาจ ไม่รู้ว่าผู้นำเผ่าทิงมี่มีปมในใจหรือไม่ เขาจึงหดร่างกายโดยไม่รู้ตัว พยายามอยู่ให้ห่างจากดอกไม้ปีศาจให้มากที่สุด แต่น่าเสียดายที่ความปรารถนาไม่เป็นจริง ดอกไม้ปีศาจร่วงลงบนหลุมใหญ่ที่อกของเขาโดยตรง
“เจ้าต้องการทำอะไร?”
ผู้นำเผ่าทิงมี่ดิ้นรนต่อสู้ แต่ยิ่งเขาดิ้นรน เส้นเอ็นของกระทิงก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น จมหายเข้าไปในเนื้อ จนเลือดซึมออกมา
“อย่ากลัวไปเลย” หลิงเยว่ยิ้มพลางตบแขนของผู้นำเผ่าทิงมี่ “ท่านไม่ได้ขาดหัวใจไปหนึ่งดวงหรอกหรือ เดี๋ยวข้าจะช่วยสร้างหัวใจใหม่ให้ท่านเอง”
ทันทีที่หลิงเยว่พูดจบ ดอกไม้ปีศาจก็เติมเต็มหลุมนั้นในพริบตา เพื่อให้ตัวเองดูเหมือนหัวใจมากขึ้น ดอกไม้นรกปีศาจถึงกับจัดเรียงตัวเองเป็นรูปร่างหัวใจมนุษย์อีกด้วย