ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 341 รับของไปแล้วยังดุร้ายอีก!
บทที่ 341 รับของไปแล้วยังดุร้ายอีก!
……….
บทที่ 341 รับของไปแล้วยังดุร้ายอีก!
เมื่อเผชิญกับภาพวัตถุดิบที่แย่งกันเสนอตัวเช่นนี้ หัวใจของหลิงเยว่เบิกบานราวกับดอกไม้ผลิ
นางไม่อาจจับแต่ปลาที่ทำผิดมาเฉือนเนื้อได้ เมื่อมีปลาตัวใหม่เข้าร่วม พวกมันก็จะมีเวลาฟื้นฟูตัวเอง
เพียงแค่คิดเช่นนั้น หลิงเยว่สังเกตเห็นจากหางตาว่า กลุ่มที่บาดเจ็บก็ยังเข้าร่วมแถวที่ต้องการเสนอเนื้อต่อ นางจึงรู้สึกงุนงง
ไม่จำเป็นต้องบ้าคลั่งขนาดนี้หรอกนะ?
“ตอนนี้เจ้าคงจะมีความสุขมากเลยสิ” ผู้นำเผ่าปลาหมัวอินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“แล้วท่านไม่มีความสุขหรอกหรือ? ในอนาคตไม่เพียงแต่จะมีปลานักรบที่มีพลังเทียบเท่าบรรพบุรุษ แต่ยังมีปลาปุโรหิตอีกมากมาย เผ่าปลาหมัวอินกำลังจะกลายเป็นผู้ครองที่แท้จริงของเขตทะเลสาบนี้แล้ว!”
ผู้นำเผ่าปลาหมัวอินจินตนาการถึงอนาคตตามคำพูดของหลิงเยว่ หากเป็นเช่นนั้นจริง มันก็รู้สึกมีความสุขและตื่นเต้นอย่างแท้จริง!
ปุโรหิตน้อยมีความสุขเช่นกัน มีเพียงมหาปุโรหิตที่ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ เพียงแค่กวาดตามองเพื่อนร่วมเผ่าอย่างเรียบเฉย แล้วหันหลังจากไป
เมื่อเห็นท่าทางของผู้นำเผ่าและลูกศิษย์เช่นนั้น การร่วมมือกันคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มันไม่สามารถขัดขวางและไม่อยากขัดขวางด้วย ดังนั้น มันจึงต้องไปคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดีเยี่ยมไว้ก่อน
เหล่าศิษย์ของหลิงเยว่นั้น ล้วนขยายเขตแดนจากแดนมนุษย์สู่แดนปีศาจแล้ว นอกจากปุโรหิตน้อยที่มีพรสวรรค์ ในหมู่ปลาบาดเจ็บก็ยังมีปลาอีกนับร้อยที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ อย่างน้อยพวกเขาก็ทำซาลาเปาได้ แม้แต่การกลั่นสมุนไพร พวกเขาก็ยังฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ
ปุโรหิตน้อยเหลือบมองสหายร่วมเผ่าที่กำลังตั้งใจเรียนรู้ เสียงที่ดังก้องอยู่ข้างหูเป็นเสียงของหลิงเยว่ที่เอ่ยกับมัน ประกอบกับภาพที่นางบันทึกไว้ด้วยศิลาสะท้อนภาพ ทั้งภาพการทำน้ำแกงแปลงร่างบรรพบุรุษ การทำซาลาเปาเนื้อปลานักรบ และลูกชิ้นปลา
ผู้ใดเลยจะคาดคิดว่าเนื้อของพวกมันจะถูกสับจนละเอียด ผสมกับผงสมุนไพรแปลกประหลาด คล้ายการทำซาลาเปา ต้องต้มกระดูกบรรพบุรุษปลาหมัวอินจนได้เป็นน้ำแกง เมื่อเย็นตัวลงแล้วจึงหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใช้เป็นไส้ ปั้นเป็นก้อนกลม ต้ม ผัด ทอด นึ่ง ตามแต่ใจชอบก็สามารถรับพลังจากวิญญาณบรรพบุรุษได้
ยิ่งไปกว่านั้น รสชาติของมันยังอร่อยอย่างน่าประหลาด ยามกัดลงบนลูกชิ้นปลาหมัวอิน น้ำซุปจากกระดูกปลาเข้มข้นจะไหลทะลักในปาก รสสัมผัสของเนื้อปลานั้นช่างยอดเยี่ยม จนปุโรหิตน้อยไม่อาจลืมเลือน เพียงนึกขึ้นมาก็อดน้ำลายไหลไม่ได้
ต่อให้มีเวลาอีกหมื่นปี มันก็ไม่อาจคิดค้นสิ่งนี้ได้
มหาปุโรหิตเห็นพ้องด้วยเป็นอย่างยิ่ง มิเช่นนั้น เหตุใดมนุษย์จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่สวรรค์โปรดปราน?
พวกมันเผ่าปลาหมัวอินไม่อาจเทียบได้ มีเพียงพวกมารที่สืบสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดเท่านั้นที่พอจะเทียบเคียงได้…
“หลิงเยว่อยู่ที่ใด?”
ทันทีที่ท่านผู้นำปลาเข้ามาในสุสานก็ออกตามหาหลิงเยว่ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ
มหาปุโรหิตกล่าว “ว่ากันว่า นางไปดูที่เผ่านกปีศาจจระเข้ข้าง ๆ”
“!!!”
นี่มิใช่การไปหาความตายหรอกหรือ!
“ไปทำอันใดที่นั่น?” ผู้นำถามอีกครั้ง
ปุโรหิตน้อยตอบว่า “นางบอกว่าอยากเปลี่ยนเผ่าเพื่อศึกษาไข่สักหน่อย”
“หากนางอยากศึกษา ก็ให้ศึกษาไข่ปลาของพวกเราสิ ไข่นกเน่านั่นมีอะไรดีให้ศึกษากัน!”
คำพูดของผู้นำเพิ่งจบลง เหล่าปลาทั้งหมดก็ตกตะลึง!
ไข่ปลาคือความหวังในอนาคตของเผ่าปลาหมัวอิน หากหลิงเยว่กล้าแตะต้องไข่ปลาหมัวอิน นางคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!
“นี่ก็มีไข่ปลาที่ตายแล้วอยู่บ้างไม่ใช่หรือ? ให้นางศึกษาสักหน่อยจะเป็นไรไป?”
อย่างไรเสียก็ฟักเป็นลูกปลาไม่ได้ ปกติพวกเขาเอามากินเป็นขนมอยู่แล้ว
“นับแต่ทำอาหารสามอย่างที่เกี่ยวกับบรรพบุรุษ นางดูเหมือนจะไม่สนใจเผ่าปลาหมัวอินเท่าไรแล้ว…” ปุโรหิตน้อยอยู่ข้างกายหลิงเยว่ทุกวันเพื่อเรียนรู้ จึงรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของนาง
“นางอาจจะต้องการ…” มหาปุโรหิตมองผู้นำแล้วหันไปมองศิษย์
“คิดอะไรอยู่ คิดจะร่วมมือกับทุกเผ่าพันธุ์ในป่านี่เลยหรือ?”
มหาปุโรหิตน้อยใหญ่พยักหน้าพร้อมกัน
ผู้นำเผ่าปลาหมัวอิน “…”
ช่างเป็นความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ แต่หากนางสามารถสร้างสิ่งที่เพิ่มพลังให้ทั้งเผ่าได้เหมือนน้ำแกงแปลงร่างบรรพบุรุษ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกเผ่าพันธุ์ในป่าล้วนเป็นเหยื่อที่ถูกมังกรปีศาจรังแกมานาน ใครบ้างจะไม่อยากตอบโต้?
หากหลิงเยว่สามารถคิดค้นสิ่งที่หลีกเลี่ยงแรงกดดันจากสายเลือดและเผ่าพันธุ์ได้…
ผู้นำเผ่าปลาหมัวอินมิอาจรู้ได้ว่าเหตุใด จึงรู้สึกว่าหากเป็นหลิงเยว่ นางต้องทำสำเร็จเป็นแน่ เผ่าพันธุ์ที่ถูกกดขี่ข่มเหงมาหลายยุคหลายสมัย คงจะยอมพลีตนเป็นดั่งคมมีดในมือของนาง เพื่อตอบโต้อีกฝ่ายอย่างแน่นอน!
ในยามนี้หลิงเยว่ยังมิได้คิดไกลถึงเพียงนั้น นางเพียงนั่งอยู่บนหลังปลาหมัวอินที่เติบโตเต็มวัย มุ่งหน้าไปยังเผ่านกปีศาจจระเข้ โดยมีปลานักรบอีกสามตัวติดตามไปด้วย โดยบอกว่าพวกมันจะคุ้มครองนางเอง
อันที่จริง พวกมันคงอยากให้นางตายโดยเร็วมิใช่หรือ?
ก็เผ่าพันธุ์นกปีศาจจระเข้กับเผ่าพันธุ์ปลาหมัวอิน พวกมันเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาช้านาน วันนี้เจ้ากินลูกข้า พรุ่งนี้ข้าขโมยไข่นกของเจ้า ยิ่งเติบโตเต็มวัย พวกมันก็ยิ่งดุร้าย ตราบใดที่พบเจอ ย่อมต้องสู้รบกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายไปข้าง!
ทว่าครั้งแรกที่ได้ขี่ปลาหมัวอินเช่นนี้ ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย
“หัวหน้า ท่านดูสิ บนหลังปลาหมัวอินนั่นมีมนุษย์นั่งอยู่มิใช่หรือ!?”
นกปีศาจจระเข้ที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้คิดว่าตนเองตาฝาด จึงกะพริบตาถี่ ๆ ทว่ากลับยิ่งเห็นได้ชัดเจน เป็นมนุษย์จริง ๆ ด้วย!
ดูจากทิศทางแล้ว พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่!
ปลาหมัวอินโตเต็มวัยเพียงแค่สี่ตัว ก็กล้าบุกเข้ามาในดินแดนของเผ่าพันธุ์นกปีศาจจระเข้ พวกมันช่างกล้าหาญนัก!
หลิงเยว่เพิ่งเข้าสู่เขตแดนของนกปีศาจจระเข้ได้ไม่ทันไร ก็ถูกล้อมไว้เสียแล้ว
พวกมันช่างแปลกประหลาดนัก มีหน้าเป็นจระเข้ แต่กลับมีปีกราวกับเหยี่ยว ตัวเป็นนกกระเรียน หางก็เหมือนขนนกแก้ว
ช่างประหลาดยิ่งนัก!
นกปีศาจจระเข้นำทัพไม่พูดพร่ำทำเพลง อ้าปากร้องลั่น บรรดาสมุนที่มารอต่างขยับกายกันทั้งหมด
หลิงเยว่ไม่รอช้าเร่งใช้โล่ป้องกันคลุมปลาทั้งสี่ตัวไว้ทันที ป้องกันมิให้พวกมันถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ
นกปีศาจจระเข้หลายตัวพุ่งเข้าชนโล่ป้องกันกระเด็นออกไปเป็นแถว แต่พวกมันหาได้ย่อท้อ กลับรวมพลังโจมตีอย่างบ้าคลั่ง!
“โล่ป้องกันของมนุษย์ พวกข้าเผ่าปีศาจจระเข้ทำลายได้อยู่แล้ว! พวกเจ้ารอวันตายได้เลย!”
จ่าฝูงตัวโตที่สุดร้องจิ๊บ ๆ ปลาที่อยู่ข้าง ๆ คอยแปลให้หลิงเยว่ฟัง นางจึงเข้าใจได้อย่างยากลำบาก
ที่จริงแล้วนางยังรับไม่ได้ที่หัวจระเข้ส่งเสียงร้องจิ๊บ ๆ เหมือนนกกระจอก มันช่างขัดกันเสียจริง!
“ข้ามาด้วยความจริงใจ ได้ยินว่าเผ่าของพวกเจ้าชอบกินผลไม้นัก แต่ในป่าสามร้อยปีมานี้ไม่มีผลปีศาจเลย…” หลิงเยว่พูดพลางหยิบผลปีศาจหนึ่งกระสอบจากแหวนมิติ โยนออกไปนอกโล่ป้องกัน
พอผลปีศาจสีแดงดำปรากฏขึ้น พวกนกปีศาจจระเข้ก็หยุดพุ่งชนโล่ป้องกัน ต่างพากันแย่งผลปีศาจที่ร่วงหล่นลงพื้น
หลิงเยว่รีบล้วงเอาถุงผ้าออกมาอีกหลายถุง โปรยผลปีศาจออกมา ผลไม้เหล่านี้ล้วนซื้อมาจากระบบ เพื่อแสดงความจริงใจต่อนกปีศาจจระเข้ หลิงเยว่จึงไม่ได้เลือกผลปีศาจราคาถูกที่สุด แต่เป็นผลปีศาจระดับกลางที่หาไม่ได้ในป่า!
“มีผลปีศาจเหล่านี้ พวกเจ้าคงจะสงบลงได้แล้วกระมัง” หลิงเยว่พูดกับตัวเอง
แต่นกปีศาจจระเข้ไม่ได้สงบลงตามที่หลิงเยว่คาดไว้ กลับยิ่งคลุ้มคลั่งกว่าเดิม!
ดวงตาแดงก่ำพุ่งเข้าชนโล่ป้องกันจากทุกทิศทุกทาง
ปลาใหญ่สี่ตัวที่อยู่ในโล่ป้องกันตัวสั่นเทา หลิงเยว่เองก็พลอยตัวสั่นไปด้วย “พวกเรากลับกันก่อนดีหรือไม่ รอให้พวกมันสงบลงก่อนค่อยมาใหม่?”
ปลาใหญ่ที่แบกหลิงเยว่อยู่ไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งทะยานออกไปทันที
ฝูงนกปีศาจจระเข้ยังคงไล่ตามไม่ลดละ แถมจำนวนที่เข้าร่วมไล่ล่ายังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลิงเยว่หันกลับไปมองแล้วยิ่งขนลุกขนพอง
“เหตุใดรับของข้าไปแล้ว ยังคงดุร้ายเช่นนี้อีก?”
หลิงเยว่ส่ายหน้า นางไม่เข้าใจความคิดของพวกนกเอาเสียเลย!
……….