นิยาย มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์
ตอนที่ 59 ทหารที่มาช้า(2)
แต่ถึงอย่างนั้น ต่อให้ซองอได้ธนูหรือหน้าไม้มาอีก มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะ ไม่ต้องใช้มีดกับหอกอีกต่อไป
เพราะอาวุธแต่ละชนิดนั้นมีการใช้งานที่แตกต่างกัน ในการต่อสู้ โครงกระดูกนั้นมักจะต่อสู้ในระยะประชิด
การปามีดนั้นใช้ได้ดี มันเหมือนกับการทิ้งอาวุธเพื่อโจมตีก่อนที่จะใช้อาวุธอีกชิ้นในการต่อสู้ประชิด
ซึ่งในการต่อสู้นั้นก็มีแต่ซองอูที่ไม่ได้เข้าไปในแนวหน้าตรง ๆ แต่สั่งการโครงกระดูกจากข้างหลัง มีแต่ซองอูเท่านั้นที่ต้องการอาวุธในระยะไกล
ในวันนี้เขาได้เห็นการเพิ่มขึ้นของพลังป้องกันตัวเองอย่างก้าวกระโดด แต่หลังจาก ผ่านพ้นคืนนี้ไปเขาอาจจะต้องเจอกับปัญหาอื่น ในคืนนี้เขาหลับฝันอย่างที่ไม่ได้ฝัน มานาน ในความฝันนั้นเขาเป็นคนที่ไร้พลังไม่เหมือนกับวันนี้ เขากาลังอยู่ต่อหน้ากองเพลิงใหญ่และทําอะไรไม่ได้เมื่อครอบครัวกรีดร้องในกองไฟและอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ
“ซองอู ซองอู!”
“…?”
เขาเห็นหน้าชั้นโฮ
“สิบเอกคิมกําลังตามหานายอยู่ พวกทหารที่เห็นเมื่อวานก็มาด้วย”
ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะมีปัญหาอีกแล้ว ทหารเหล่านั้นที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคารใกล้ ๆ ปรากฏตัวในทันทีที่ซองอฆ่าแวมไพร์ลอร์ดเมื่อวาน จากนั้นสิบเอกคิมที่คุ้นหน้ากับซองอูก็มาบอกเขาว่ากองทัพยังคงอยู่
“ไปกับผมที่หน่วยได้ไหม?”
แต่ซองอุส่ายหน้าปฏิเสธ
“ขอโทษด้วย บอกว่าถ้ามีอะไรที่จะให้ทํา ก็ให้พวกกองทัพมาหาชั้นเอง”
ซองอไม่มีเหตุผลที่จะเจอกับกองทัพ และเขาก็ไม่อยากจะเดินทางไกลกับคนที่เขาไม่รู้จักดี แล้วเขาก็เหนื่อยล้าสะลมหลังจากการต่อสู้อันยาวนาน เขาไม่อยากจะแสดงน้ําใจออกมาแม้แต่น้อยด้วยซ้ําไป สิบเอกคิมก็กลับไปพร้อมกับบอกว่าจะฝากข้อความไปให้ กองทัพระดับสูงมาหาเขาในเช้าตรู่วันถัดมา
ซองอลุกจากโซฟาและนั่งลงบนเก้าอี้
“บอกให้เขารอหน่อย”
“แน่ใจเหรอ? เขาน่าจะอารมณ์ไม่ดีนะ…”
“อารมณ์มันไม่ใช่เลเวลซักหน่อย”
“นายพูดถูก เอางั้นก็ได้”
ทหารอย่างนั้นเหรอ? ซองอไม่คิดว่ากองทัพที่อยู่มานานหลายสิบปีจะล่มสลายได้ ง่าย ๆ แม่วินัยของกองทัพจะพังทลายลงไปแล้ว กองทัพก็ยังเป็นกลุ่มที่ฝึกฝนต่อไป เพื่อเตรียมตัวรับภัยระดับชาติอย่างเช่นสงคราม
แน่นอนว่าสถานการณ์ที่เหมือนเกมแบบนี้ไม่ได้เป็นไปตามตําราของทหาร ยิ่งไปกว่านั้นอาวุธยังใช้งานไม่ได้ ระบบสั่งการของทหารเองก็ถูกปิดกั้น
ตึง ตึง
“ทางนี้ใช่ไหม?”
“ขอโทษนะครับ แต่เขาอยากให้รออีกสักหน่อย…”
มีเสียงคนดังมาจากข้างนอก ฮันโฮพยายามจะบอกให้เขาเข้าใจด้วยเสียงกระอักกระอ่วน แต่อีกฝ่ายก็ดูจะไม่ฟังเขาเลย
“รองั้นเหรอ? ไม่มีเวลามารอแล้ว เธอคิดว่าสถานการณ์แบบนี้มันเรื่องเล่น ๆ เหรอ? หลีกไป”
ประตูออฟฟิสเปิดออกพร้อมกับเสียงชายวัยกลางคน ซองอุที่ขยตาด้วยความง่วง เห็นชายในยศพันโท สิบเอกคิมเดินตามหลังเขามาด้วย สิบเอกคิมมองตาซองอุด้วยความรู้สึกผิด
“เธอที่คนที่ผมอยากเจอใช่ไหม?
“ผมพันโทพัคแทยองจากกองพลที่ 51”
พัคแทยองนั่งบนโซฟาหนัง สิบเอกคิมกับทหารอีกคนยืนหลังชนกําแพง
“เธอคงรู้ว่าผมมาไกล มาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า”
ดูเหมือนว่าพัคแทยองจะไม่พอใจที่ซองอให้เขาเดินทางไกลมาแทนที่จะขอบคุณที่เขาให้เจอตัว
“ว่ามา”
ซ่องอพูด
“ได้ยินว่าเธอฆ่ามอนสเตอร์ในฮวาซองแฮงกงที่เราเฝ้าระวังอยู่ อยากจะได้ยินรายละเอียดเรื่องนี้จากเธอและขอความช่วยเหลือด้วย”
“ให้อธิบายน่ะไม่มีปัญหา แต่ที่ว่าขอความช่วยเหลือน่ะคืออะไร?”
พันโทพัคแทยองหยุดคิดอยู่นานก่อนจะเปิดริมฝีปากหนากล่าว
“เข้าร่วมกองทัพซะ”
ซองอยิ้มออกมาโดยไม่ตั้งใจ
“ให้ตายสิ! ผู้ชายเกาหลี 99% คงตกใจกับค่าพูดแบบนี้นะ”
“ผมเข้าใจ แต่เธอรู้ว่ามันไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
พัคแทยองคนนี้จะต้องเป็นผู้นํากองทัพแน่นอน เขาพยายามจะสร้างภาพลักษณ์ที่ เข้มแข็งของกองทัพมาตั้งแต่เริ่ม ถ้าหากซองอมีเวลา เขาคงจะทาสงครามประสาทที่ไม่จําเป็นกับพัคแทยองไปแล้ว
“ทําไมจะต้องเข้าร่วมกับกองทัพล่ะ? ไม่มีเหตุผลจนอยากจะหัวเราะออกมาเลย”
จู่ ๆ พัคแทยองมาให้ซองอเข้าร่วมกับกองทัพได้อย่างไร? ใครกันจะเห็นด้วยกับความคิดแบบนี้? แต่ใบหน้าของพัคแทยองยังคงแข็งกร้าว
“หวังว่าเธอจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่แค่การทําตามกฎหมาย แต่มันจะมีประโยชน์กับเธอด้วย
“ประโยชน์เหรอ?”
“นี่เป็นเหตุด่วนระดับชาติ เป็นไปไม่ได้ที่จะประกาศใช้กฎหมาย แต่ทุกคนยังอยู่ภายใต้กฎหมาย กองทัพมีอํานาจที่จะรับคนที่แข็งแกร่งอย่างเธอร่วมกับกองทัพ แต่ผมเห็นความสามารถของเธอแล้ว ผมจะดูแลเธอด้วยความเคารพ
ดูเหมือนว่าในเหตุด่วนระดับชาติครั้งนี้ ถ้ากองทัพยังทํางานได้ พวกเขาก็จะสั่งเคลื่อนกําลังและประกาศสงครามกับมอนสเตอร์ให้เร็วที่สุด
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นตรงกันข้าม รัฐบาลไม่ได้ทําอะไรมาตั้งแต่แรก กองทัพเองก็สูญเสียอาวุธทั้งหมดไป ต้องใช้เวลานานกว่าที่กองทัพจะตื่นรู้ในความจริงบทใหม่
“อยากจะให้ทําอะไร?”
“ผมอยากให้เธอช่วยเราตอบโต้กับสถานการณ์นี้ ฟื้นฟูประเทศขึ้นใหม่พร้อมกับ ระบบความปลอดภัย”
“อืมม…เธอชื่อยซองอูใช่ไหม? เธอคงจะรู้เรื่องในกองทัพมาบ้างแล้ว คิดว่าเธอคงจะเข้าใจที่พูดนะ อย่าคิดว่าที่ผมพดไม่ใช่เรื่องสําคัญ”
พัคแทยองลูบหน้าด้วยฝ่ามือ น้ําเสียงของเขาอ่อนลง เขากําลังจะใช้ไม้อ่อนอย่างนั้นเหรอ?
“เวลาบ้า ๆ แบบนี้ผู้คนควรจะต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียว แต่ก็มีคนอย่างอัยการยองดึงโพที่ปฏิเสธรัฐบาลและประกาศว่าจะสร้างกลุ่มหุ่นเชิดเอกเทศขึ้นมาเอง เธอคงรู้แล้วสินะ?”
“รู้แล้ว”
จากมุมมองของกองทัพ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจัดการเรื่องของอัยการ ยองดึงโพอย่างจริงจัง
“เธอไม่คิดเหรอว่ามันไม่ดีกับเวลาแบบนี้? ผู้คนควรจะต้องอยู่กับกองทัพเพื่อแก้ไข สถานการณ์ ผู้ชายอย่างเธอจะกลายเป็นทหารเกาหลีใต้และฮีโร่ได้ กําลังจะเกิดเรื่องเลวร้ายที่เธอคิดไม่ถึง เริ่มจากที่ควางฮามุน…”
เขาหยุดพูดในทันที
ควางฮามุน? เขาจะพูดอะไร?
พัคแทยองเพิ่งจะเรียกเขาว่าฮีโร่เหรอ? เขาไม่เข้าใจเลย
“ชั้นไม่คิดแบบนั้นนะ กลุ่มหุ่นเชิดเหรอ? มีหลักฐานรึเปล่า?”
“ว่าไงนะ?”
“ตั้งแต่เรื่องนี้เกิดขึ้น หลายคนก็อยากจะได้ความช่วยเหลือจากรัฐและกองทัพ ในตอนที่รอคอยก็ถูกมอนสเตอร์ฆ่าตายกันหมด มีแค่ไม่กี่คนที่รอดมาได้และช่วยกันเอาตัวรอดด้วยตัวเอง”
“ชั้นไม่ชอบคนอย่างอัยการยองดึงโพ แต่อย่างน้อยพวกมันก็ปรับตัวกับระบบนี้ได้ดี”
“ระบบอะไร?”
“อย่างที่รู้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือเกม มอนสเตอร์โผล่ออกมา มีไอเทม มีภารกิจถูกสร้างให้ทํา และภารกิจส่วนใหญ่ก็จะให้แต่ละคนในเงื่อนไขที่แตกต่างกัน มันไม่ใช่ปัญหาที่กองทัพหรือรัฐบาลจะช่วยได้หรอก”
เกมนี้สร้างขึ้นเพื่อทําลายสังคมมนุษย์ให้เป็นเสี่ยง ๆ การเอาตัวรอดเป็นสิ่งสําคัญของโลกใบใหม่ และทุกคนจะต้องทําภารกิจของตัวเองให้สําเร็จเพื่อเอาตัวรอด
และมันมิอาจเป็นไปได้ด้วยวิถีทางสังคมหรือระบบการเมือง และการคิดนอกกรอบอย่างอัยกายยองดึงโพก็เป็นเรื่องดีเสียอีก
“บอกว่าชั้นเป็นฮีโร่ใช่ไหม? ชั้นขอเป็นอย่างทหารรับจ้างจะดีกว่า ถ้าอยากให้ช่วยก็จ่ายมาให้สมน้ําสมเนื้อ”
พันโทพัคงุนงง เขาแทบจะพูดไม่ออก
“นี่แกกาลังขอเงินอยู่เรอะ?”
MANGA DISCUSSION