มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ ตอนที่ 43 ผู้ค้ามนุษย์ในโรงงานร้าง(3)
แต่คนที่รอพวกเขาอยู่กลับกลายเป็นกลุ่มค้ามนุษย์ในโรงงานผลิตรถยนต์พวกเขาจับตัวพวกคยองซูบนรถบัสและส่งไปยัง โรงงา นร้าง
“ พวกมันทําเรื่องชั่วทุกอย่างเลย ไม่ใช่แค่เอาเงิน แต่ยังข่มขืนกินเนื้อคนด้วยกันไม่อยากจะเชื่อเลย…ต่อให้โลกมันบ้าคลั่งแต่พวกมันมาทําเรื่องแบบนี้ภายในไม่กี่วันได้ยังไง?”
“ชั้นเข้าใจ”
ซองอูพยักหน้า
“แต่พวกมันไม่ได้เพิ่งกลายเป็นแบบนี้ในวันนี้ คนบ้าพวกนี้แค่ซ่อนอยู่ในสังคมพวกเราเท่านั้น”
การปรับตัวและการปลดปล่อยตัวตนนั้นแตกต่างกัน
ซองอูมองแวมไพร์ที่คนยังไม่ฆ่า เขาเป็นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบปีที่ยืนนิ่งด้วยความกลัว
“จะให้โอกาสแกรอดชีวิต แกเห็นเจ้าหมาตรงนั้นใช่ไหม?”
“เจ้าหมา” ที่ซองอูชี้นั้นคือโครงกระดูกมนุษย์หมาป่า
กรร!
มันขบฟันอย่างแรง แวมไพร์ที่เหลือรอดหน้าซีดยิ่งกว่าเดิมเขาตัวสั่นด้วยความกลัวและเอาแต่พยักหน้า
“ชั้นจะบอกนายทุกอย่างเลย!”
“มีคนในโรงงานร้างเท่าไหร่? มีแวมไพร์กี่ตัว แล้วมีผู้เล่นกี่คนเลเวลเท่าไหร่บ้าง?”
“มีแวมไพร์สี่ตัว แต่หนึ่งตัวตายไปแล้ว กับผู้เล่นยี่สิบคน! มีเลเวล 5 เลเวล 4…”
“บอกคนที่เลเวลสูงสุดมา”
แวมไพร์กลืนน้ําลาย
“เท่าที่รู้ก็เลเวล 5.”
นอกจากนั้น ซองอูยังถามเรื่องอื่น ๆ อย่างเช่นการบุกเข้าไปในโรงงานร้างและถามเรื่องคนที่เฝ้าระวังกับเรื่องอื่น ๆ
“ดีมากที่แกพูดจริง”
“ขอบคุณครับ!”
ซองอพูดและหันหน้าไปทางอื่นเมื่อได้ยินเสียงดัง
ถั่วะ!
“อ๊ากกก!”
คยองซูกระโดดใส่แวมไพร์และแทงเข้าไปที่คอด้วยหอก
“อาาาาา…”
คยองซูก้าวถอยหลังพักหายใจ
“อย่าให้ไอ้สารเลวนรอดนะ มันฆ่าเพื่อนชั้น…”
“ทําดีมาก”
ซองอูกล่าว
เขาเองก็ไม่ได้อยากให้แวมไพร์รอดชีวิตอยู่แล้ว
เขาวางมือลงบนบ่าคยองซู สีหน้าคยองซูเปลี่ยนไป นอกเหนือจากความโกรธความอับอาย และการโทษตัวเองที่เขารู้สึกเขายังรู้สึกถึงความมั่นคงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“คยองซู นายคงรู้เรื่องในโรงงานร้างมาบ้างแล้ว มีอะไรจะบอกชั้นไหม?”
คยองซูพักหายใจ
“ที่นั่นมีการป้องกันแน่นหนามาก มีคนคอยคุ้มกันมอนสเตอร์อยู่เต็มไปหมดคงเข้าไปไม่ได้หรอก เพราะมันมีลวดหนามบนกําแพง หิน”
คยองซูคิดว่าการจู่โจมโรงงานร้างนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเพราะมันมีการคุ้มกันในขั้นที่ซองอูอาจคาดไม่ถึง
ซึ่งอันที่จริงคยองซูกับเพื่อนนั้นใช้ชีวิตเยี่ยงทาสและเป็นตัวประกันจนได้เจอกับซองอูอีกครั้ง
หลังจากครุ่นคิด ซองอูเงยหน้ามองรอบ ๆ
“ชั้นมีแผน”
โรงงานร้างมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มันเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่ดําเนินงานมานานแล้วและถูกใช้เป็นที่เก็บของในภายหลังหลังจากที่บริษัทล้มละลายตั้งแต่นั้นมามันก็กลายเป็นโกดังที่โล่ง
ฝูงแวมไพร์ใช้ที่นี่เป็นที่กบดาน พวกมันคิดจะสร้างที่นี่ขึ้นใหม่โดยการรวบรวมไอเทมที่มีประโยชน์ อาหาร และเชื้อเพลิงภายในห้าวันและทําให้ทุกที่มีแต่แวมไพร์ภายใต้คําสั่งของบอสแวมไพร์ลอร์ด” หรือ “ตัวแทน
“คุณผู้จัดการ ผมมาบอกว่าพวกเขาต้องระวังผู้บุกรุก แต่เรื่องหัวหน้าพักที่ถูกฆ่าน่ะ จริงใช่ไหม?”
“ใช่ ชั้นรู้สึกได้ คุณตัวแทนบอกกับชั้นเอง การสื่อสารทางจิตของเขากับชั้นต้องใช้ “เลือด” จํานวนมาก เจ้าพัคนั่นตายไปแล้วจ ริง ๆ”
ชายที่ถูกเรียกว่า “ผู้จัดการ” ยืนอยู่ที่รางเหล็กบนชั้นสองของโรงงานเขาก้มลงมองด้านล่าง
ที่นี่เต็มไปด้วยของทุกชนิดและศพมอนสเตอร์ แม้แต่ “มนุษย์ก็ปะปนอยู่กับไอเทมผู้รอดชีวิตคือค่าประสบการณ์และอาหารที่จําเป็นที่จะเพิ่มสเตตัสของพวกแวมไพร์และแวมไพร์ลอร์ดยังบอก ให้พวกเขาเน้นไปที่การ “ลักพาตัวมนุษย์”เป็นหลักด้วย
“คุณผู้จัดการ ตัวแทนจะคิดยังไงอยู่…เราจะต้องจับคนไปอีกนานแค่ไหน?”
มีแวมไพร์หลายคนสงสัยเหมือนกับเขาพวกเขาเข้าร่วมกับกลุ่มนี้ก็เพื่อความอยู่รอด แต่ความจริงคือพวกเขาไม่รู้เลยว่าจะทําอะไรในอนาคตและเรื่องอื่นนอกจากจับตัวคน แม้แต่ตัวผู้จัดการเองก็ไม่ รู้เหตุผลของแวมไพร์ลอร์ด
แต่เขาเชื่อในตัวแวมไพร์ลอร์ด
“นี่เป็นการแข่งกันเพื่อเอาชีวิตรอด เราต้องพัฒนาสิ่งที่เราทําอยู่เราคือคนที่ต้องดูแลที่นี่ ชั้นเชื่อในความคิดเขา เขาเป็นนักปรัชญา เลยนะ”
อันที่จริงเขานั้นไม่รู้เรื่องปรัชญามากนัก แต่เขาก็คิดแบบนั้นอยู่ดี
ในความคิดของเขานั้น แวมไพร์ลอร์ดเป็นคนหน้าตาดีที่ มีตัวตนเป็นปริศนาและแวมไพร์ลอร์ดก็เปลี่ยนชีวิตเขาจากคนต้อยต่ําเป็นคนที่ดูแลโรงงานร้างแห่งนี้
ในตอนนั้นเอง ประตูโรงงานบานใหญ่เปิดออก คนแปลกหน้าเดินเข้ามา
คนคุ้มกันสองคนปรากฏตัว เขาลากชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามา
“ผู้จัดการ!”
คนคุ้มกันดันหลังชายหนุ่มที่ถูกมัดมือเอาไว้
“ผมจับผู้บุกรุกได้อย่างที่คุณบอกเลย เจ้านี่มาแอบดูที่ทางเข้าโรงงาน”
จับตัวได้แล้วหรือ?
ผู้จัดการบอกให้คนของเขาระวังตัวเอาไว้เพราะคนที่ฆ่า หัวหน้าพัค” นั้นอาจบุกเข้ามาในโรงงานได้ แต่เป็นไปได้อย่างไรที่มือสังหารคนนั้นถูกจับได้ง่ายดายอย่างนี้?
“ให้ตายสิ…ที่ตัวแทนกังวลมันเรื่องแค่นี้เอง”
ผู้จัดการหัวเราะเยาะ เขามองผู้บุกรุกที่ถูกลากเข้ามาเขาเป็นชายหนุ่มธรรมดา แต่น่าแปลกที่เขาดูผ่อนคลาย
ชายหนุ่มไม่มองเขาแต่มองรอบ ๆ โรงงานราวกับว่ากําลังมาเที่ยว
“เฮย!”
ผู้จัดการตะโกน ชายหนุ่มเงยหน้ามองเขา เขารู้สึกแปลกใจมากกว่าหงุดหงิด
“แกเป็นใคร? หา? แกฆ่าหัวหน้าพักใช่ไหม?”
ชายหนุ่มเอียงคอ
“หัวหน้าพัคเหรอ?”
“ใช่ หัวหน้าพัค”
ชายหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะ มันเหมือนกับเสียงหัวเราะเยาะมากกว่า
“ไอ้คนตายนั่นแปะตําแหน่งไว้ที่หน้าผากรีไง?”
“ว่าไงนะ?”
“ชั้นจะไปรู้ได้ยังไงถ้าแกมาถามเรื่องคนที่มีตําแหน่งที่พวกแกรู้จักอยู่ฝ่ายเดียวนะ? พวกแกกําลังทําการค้าขายสินะแกตําแหน่งอะไรล่ะ?”
“ผู้จัดการสาขา!”
ชายหนุ่มหัวเราะอีกครั้งและถามกลับ
“ผู้จัดการสาขาอะไรเหรอ?”
“ให้ตายสิ แกคงเป็นผู้จัดการสาขาในจินตนาการของตัวเองใช่ไหม?”
บรรยากาศในโรงงานเริ่มหนักอึ้งและเยือกเย็นขึ้น
คนในโรงงานกําลังมองดูสีหน้าของผู้จัดการและสับสนว่าจะทําอย่างไรต่อไป แต่ผู้จัดการกัดฟันด้วยความโกรธแค้น
“ชั้นถามว่าแกเป็นใค…”
แต่ชายหนุ่มหัวเราะอีกครั้ง
“เจ้าคนที่แกเรียกว่าตัวแทนยังไม่บอกอีกเหรอ?”
คําเตือนของแวมไพร์ลอร์ดที่ว่าคนฆ่าหัวหน้าพัคจะบุกเข้ามาในโรงงานนั้นเป็นเรื่องจริง
แต่ผู้จัดการไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นการบุกรุกแบบนี้
ในขณะเดียวกัน เสียงกระซิบก็เริ่มดังขึ้นในหมู่ตัวประกันในโรงงาน
“นายรู้จักคนนั้นใช่ไหม?”
“ชั้นจําได้ เขาคือคนที่ชั้นเห็นในมหาลัย”
“เขาเป็นใคร?”
“คนที่ช่วยพวกเราทุกคนในมหาลัย”
เมื่อเสียงพูดคุยเกี่ยวกับชายหนุ่มดังขึ้น ผู้จัดการเริ่มรู้สึกแปลก
“หุบปาก! เฮ้ย ปิดปากพวกมันซะ”
ผู้จัดการเดินลงมาจากบันไดเหล็กและมาอยู่ที่หน้าชายหนุ่มด้วยความแค้น
“แกคิดจะบุกเข้ามาตรง ๆ สินะ?”
“อืม ชั้นถูกพามาต่างหาก”
ผู้จัดการมองแขนของชายหนุ่ม เห็นอยู่ชัด ๆว่าแขนของเขาถูกมัดไว้ข้างหลัง
MANGA DISCUSSION