ตอนที่ 2 กังขาไร้สิ้นสุด
หอมายา เป็นเวทยาฐานของมิติแห่งเทพ เด็กทุกคนที่กลับมาจากพิภพมารดาต้องเข้าเรียนที่นี่ไม่เว้นแม้กระทั่งเอียน ที่นี่เด็กทุกคนจะได้เรียนรู้มายาและมนตราขั้นพื้นฐานต่างๆ
เอียนมีเพื่อนสนิทสองคนนั่นคือ โจเซฟิน เจเนเวียฟ เพนทีล่าและออสติน เจฟานิฟ เพนทีล่า ซึ่งเป็นบุตรแห่งมหามนตรีเพนทีล่า พระญาติสนิทและองครักษ์แห่งองค์รายา น้อยคนนักที่จะรู้ว่าสองคนเป็นฝาแฝด เอียนคิดว่าทั้งสองคนชื่อยาวเกินไปจึงเรียกเจเจกับเอเจ ตามชื่อโจเซฟิน เจเนเวียฟ และออสติน เจฟานิฟ
วันหนึ่งในเวลาเรียน เอียนชวนเพื่อนสองคนหนีการฝึกไปที่ริมธาร เขาล้มตัวลงนอนใต้พฤกษาแห่งบรรพกาลมองดูสายน้ำใสไหลเอื่อยๆ ในลำธารที่ทอดยาวออกไปไกลสุดสายตา มองไปมองมาก็เพลินตาพาลหลับใหลไปในห้วงแห่งนิทรา…
เสียงดนตรีแว่วหวานกังวานขึ้นในโสตประสาท เอียนเผยอเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อดูว่าต้นเสียงมาจากไหน ภาพที่สะท้อนอย่างเลือนลางเสมือนไร้ความรู้สึกปรากฏร่างหญิงงามนางหนึ่งทอดกายยาวเหยียดลอยขึ้นมาจากใต้ลำธาร เรือนร่างนางปราศจากอาภรณ์แพรปกปิด นิ้วเรียวสะบัดเล็กน้อย สายน้ำก็พุ่งเข้าพันรอบกาย เมื่อเธอยืนขึ้นพ้นสายน้ำจึงได้เห็นว่าสายน้ำนั้นถูกใช้เป็นอาภรณ์ปกปิดร่างที่สูงโปร่งไปแล้ว
“ใครกัน…น่ะ” เอียนรำพึงเบา ๆ
หญิงสาวเดินห่างจากเขาทีละน้อย…แต่เรียกว่า ’เดิน’ คงไม่ได้ เพราะท่าทางแบบนั้นควรเรียกว่า ‘ลอย’ จะถูกต้องกว่า เมื่อเธอห่างออกไปเรื่อยๆ เสียงดนตรีก็เบาลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน
“เดี๋ยว! อย่า..เพิ่งไป” เอียนเปล่งเสียงเรียกและเริ่มขยับตัวแต่เขาไม่มีแรงแม้กระทั่งจะลืมตามองเธอผู้นั้นได้เต็มตา
หญิงสาวชำเลืองมองมาทางเขา ริมฝีปากขยับเพียงเล็กน้อย…
“อะไร…น่ะ เธอพูด…อะไร”
ไร้เสียงตอบรับใดๆ เธอสะบัดปลายนิ้วอีกครั้ง เปลวไฟก็พัดโหมกระหน่ำใส่เธอ เอียนตกใจมาก ร้องตะโกนเต็มเสียง
“อย่า! ” เด็กชายสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นยืน เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้าแววตาตื่นตระหนกกับสิ่งที่ได้เห็นในความฝัน
“เป็นอะไรไปเอียน ฝันร้ายรึไง” น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงของเจเจ เรียกสติเขาให้หันมาหาเพื่อนก่อนตอบรับด้วยการพยักหน้าเบาๆ
“ฝัน! ฮ่าๆ ฝันร้ายซะด้วย ตายล่ะ มหาบุตรแห่งโกล์ดอร์ริกผู้ที่มีแต่ความสุขุม เยือกเย็น ฮ่าๆ ถ้าเมื่อครู่มีใครมาเห็นมันแหกปากตะโกนลั่นแบบนี้จะรู้สึกอย่างไรหนอ…” น้ำเสียงหยอกล้อราวกับพบเจอเรื่องสนุกเห็นจะเป็นใครไปไม่ได้…
“เอเจ!”
“ไม่เอาน่า… ยอมรับเถอะ นายเองก็มีด้านที่อ่อนแอเช่นกัน”
“เฮ้! นายจะพูดอะไรก็ไว้หน้ากันบ้าง อย่าคิดว่าเป็นทั้งญาติทั้งเพื่อนแล้วฉันจะไม่สั่งลงโทษนายนะ” เอียนกระชากเสียงใส่อย่างหงุดหงิด
“เอเจ นายหยอกแรงไปแล้ว ว่าแต่นายฝันอะไรเอียน ปกติฝันทำนองนี้หรือเปล่า”
“ฉันว่าเอียนคงกดดันกับการฝึกมากไปก็เลยเก็บไปฝัน”
“นั่นไม่ขำเลยนะเอเจ…ฉันไม่ได้เอาเรื่องฝึกไปคิดหรอกนะ แต่มันแปลกที่ฝันแบบนี้”
“เล่ามาสิเอียน เรารอฟัง” …สองคนนิ่งฟังเอียนเล่าจนจบ…
“พี่ว่าไง…ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย”
“ไม่รู้สิ เรายังเด็กอยู่นะจะรู้อะไรเยอะๆ เท่าผู้ใหญ่ได้ไง”
“ฉันว่าจะไปถามเฒ่ามายา”
“เฮ้! รอด้วยสิ”
“อ่าว…ไปกันหมด รอฉันด้วย”
ทั้งสามเดินกลับไปยังหอมายา โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมาจากกลางลำธารก่อนจะผลุบหายไปกลางสายน้ำ…
“เฒ่ามายา! ข้ามีเรื่องอยากถามท่าน” ขณะที่เขาและเพื่อนกำลังเดินเข้ามาหาเฒ่ามายาอยู่นั้น จู่ ๆ บริวารขององค์รายาก็เข้ามาตามให้เอียนไปเข้าเฝ้าพระบิดาโดยด่วน…
เมื่อไปถึงองค์รายาบอกเขาว่า เมื่อใดที่เขาอายุครบ 18 ปี เขาจะต้องไปเรียนมหามนตราขั้นสูงจากมิติแห่งกาลเวลา ณ ดินแดนไทม์เมเรส ที่นั่นเขาจะได้เรียนรู้มหามนตราศักดิ์สิทธิ์และต้นกำเนิดของสรรพสิ่งในมายาพิภพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับพลังเวทย์ที่ตัวเขามีอยู่
องค์รายาเตือนบุตรชายในเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องนั่นคือ บุตรผู้สืบทอดบัลลังก์แห่งดาร์คดิโวพาร์ค เจ้าเหนือชะตาแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจ มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเอียนและจะถูกส่งจากมิติแห่งความมืดเข้าไปเรียนรู้มหามนตราศักดิ์สิทธิ์ที่ไทม์เมเรสเช่นกัน
เอียนกลับออกมาจากท้องพระโรงด้วยความกังขาว่าทำไมต้องระวังมหาบุตรแห่งดาร์คดิโวพาร์ค เขาจึงปรึกษากับสองพี่น้องฝาแฝด แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าเขาเลย ทั้งสามเลยตกลงกันว่าจะไปถามเฒ่ามายา
“เฒ่ามายา ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใดข้าต้องระวังมหาบุตรแห่งดาร์คดิโวพาร์ค” เอียนเอ่ยถามทันทีที่พบเฒ่ามายา
“มหาบุตร ท่านทราบเรื่องนี้มาจากผู้ใด”
“ตอบมาเถอะเฒ่ามายา มันจำเป็นไม่ใช่หรือที่ข้าต้องรู้”
“ข้าแต่องค์มหาบุตร ข้าไม่สามารถตอบท่านได้โดยปราศจากบัญชาแห่งองค์รายา”
“เฒ่ามายา พระบิดาข้าให้ท่านเป็นผู้สอนในสิ่งที่ข้าควรจะรู้ใช่หรือไม่ และพระบิดาเองที่เป็นผู้เตือนข้าให้ระวังมหาบุตรแห่งดาร์คดิโวพาร์ค แล้วเช่นนี้ท่านจะไม่แก้ข้อกังขาให้ข้าเลยหรือ แล้วข้าจะรู้ได้ไงว่าข้าควรจะระวังอะไรบ้าง”
เฒ่ามายาอมยิ้มเล็กน้อย …นี่ขนาดมหาบุตรยังไม่ถึงสิบขวบเลยนะ วาจายังฉะฉานถึงเพียงนี้เชียวหรือ…
“เฒ่ามายา บอกพวกข้ามาเถอะ วันหนึ่งพวกข้าก็ต้องรู้ จะรู้ช้ารู้เร็วความได้เปรียบเสียเปรียบมันต่างกันนะ” เอเจพูดขึ้นเมื่อเห็นเฒ่ามายานิ่งเงียบไป
“นั่นสิ ข้าว่าทางพวกดาร์คดิโวพาร์คก็คงเล่าเรื่องพวกเราให้มหาบุตรแห่งดาร์คดิโวพาร์คฟังแล้วเหมือนกัน แล้วถ้าเขามีสิทธิ์รู้เรื่องเรา ทำไมเราจะไม่มีสิทธิ์รู้
เรื่องเขาบ้าง” เจเจรีบเสนอข้อสนับสนุนทันที
“ว่าไง เฒ่ามายา ท่านจะบอกข้าได้รึยัง? หรือว่าข้าต้องไปหาพระบิดาเพื่อให้พระบิดามอบบัญชาแก่ท่านก่อน”
เฒ่ามายาส่งเสียงหัวเราะทันที …ดูเอาเถอะ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย หนำซ้ำยังรู้จักใช้วาจาบีบความรู้สึกคนซะด้วย สมแล้วที่เป็นถึงองค์มหาบุตรและราชองครักษ์ทั้งซ้ายขวา…
เมื่อเอียนเห็นเฒ่ามายายังคงหัวเราะไม่หยุดก็รู้สึกหงุดหงิดจึงหันหลังจะเดินออกไป แต่เอเจก็คว้าแขนเขาไว้ แถมเจเจยังส่งสายตามาปรามเขาอีกด้วย
“ฮ่าๆ ใจเย็นก่อนเถอะ องค์มหาบุตร คำตอบข้อกังขาทุกอย่างของท่านมันมีอยู่แล้วในที่ที่สมควร ที่นั่นท่านจะได้รู้ทุกสิ่งที่ต้องการรู้” เฒ่ามายาตอบแล้วเดินจากไป เอียนจะเดินตามแต่สองพี่น้องจับแขนเขาไว้
“เดี๋ยวสิเฒ่ามายา ท่านจะเดินหนีข้าแบบนี้ไม่ได้นะ เฒ่ามายา!” เอียนเรียกเฒ่ามายาเสียงดังด้วยความงุนงงปนหงุดหงิดที่เฒ่ามายาไม่ยอมไขข้อข้องใจให้เขา
วันรุ่งขึ้นหลังร่วมโต๊ะเสวยกับพระบิดาและพระมารดาแล้ว…
“เอียน นั่นเจ้าจะออกไปไหนลูก” องค์รายีน่าตรัสถามขึ้นเมื่อเห็นมหาบุตรจะเดินออกจากห้องเสวย
“ข้าจะไปหามหามนตรีเพนทีล่าเพื่อเรียนการต่อสู้เจ้าข้า”
“เดี๋ยวค่อยไปสิลูกรัก แม่มีเรื่องจะคุยกับเจ้า”
“โธ่ พระมารดา ข้านัดเจ้าแฝดไว้ ผิดนัดจะหาว่า ‘ข้า’ มหาบุตรไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อวาจาแห่งตน”
องค์รายาแย้มสรวลเล็กน้อยให้ความหมายที่แฝงในวาจาของผู้สืบสายเลือด…
“หากเจ้าอยากตำหนิพ่อ เหตุใดจึงไม่พูดตรง ๆ ล่ะ เอียน”
เอียนเหลือบมองเจ้าของเสียงเล็กน้อยก่อนจะหันมาก้มศีรษะให้ แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ขออภัยพระบิดา แต่ข้าไม่ได้สื่อความเพื่อกล่าวหาท่านเลยแม้แต่น้อย ข้าเพียงต้องการฝึกฝนให้แข็งแกร่งพึงจะรักษาตนให้พ้นจากภัยที่อาจจะเกิดจากมหาบุตรแห่งดาร์คดิโวพาร์คเท่านั้น ถึงจะมิรู้ต้นสายปลายเหตุใด ๆ เลยก็ตามที”
“เอาเถอะ หากเจ้าปรารถนาเพียงเช่นนั้น พ่อจะไม่ฝืนใจเจ้า จงไปตามที่เจ้าต้องการเถอะ” องค์รายาเปรยจบก็ก้มหน้าก้มตาอ่านสาส์นจากมหามนตรีที่เพิ่งได้รับจากบริวาร
“พระบิดา!” เอียนเอ่ยขึ้นอย่างขัดใจแล้วผลุนผลันออกไปจากห้องเสวย
“ท่านพี่! เหตุใดจึงทำกับบุตรแห่งเราเยี่ยงนี้ ท่านควรอธิบายให้เหตุผลที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง” องค์รายีน่าเอ่ยขึ้นทันที
“น้องพี่ บุตรแห่งเรานับวันก็เจริญวัยขึ้นทุกวัน หากเราให้ทุกอย่างที่เขาต้องการโดยไม่ต้องพยายามขวนขวายตั้งแต่เยาว์วัย เจ้าว่าบุตรแห่งเราจะเป็นอย่างไรต่อไปในกาลอนาคต”
รับฟังเพียงประโยคเดียวองค์รายีน่าก็พยักหน้าเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ผู้เป็นสวามีอธิบาย แต่ก็ยังไม่คลายกังวลนัก กลัวว่าบุตรแห่งตนจะไม่เข้าใจแล้วเก็บเรื่องนี้ไปขุ่นเคืองให้เศร้าหมอง…
“ข้าไม่เข้าใจ! ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ พระบิดาทำกับข้าเยี่ยงนี้ทำไม ถ้าเรื่องนี้มันสำคัญกับข้านัก ก็ควรบอกที่มาที่ไปของเรื่องให้ข้าเข้าใจสิ นี่อะไร ไม่มีใครเล่าหรือเกริ่นอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นพระบิดาหรือเฒ่ามายา แม้แต่พระมารดาก็ไม่อาจอธิบาย” เอียนมาบ่นเสียงดังใส่เพื่อนแฝด
“ใจเย็นสิเอียน เจ้าเป็นถึงมหาบุตรนะ แหกปากเสียงดังแบบนี้มันดูไม่ดีเลยนะ”
“เก็บปากเจ้าเถอะ เอเจ” เจเจเอ่ยปรามผู้เป็นพี่ ก่อนเอ่ยต่อเสียงเรียบ
“เรื่องแบบนี้ต้องใจเย็นนะเอียน เรื่องนี้คงมีความสำคัญระดับหนึ่ง องค์รายาคงไม่มาเอ่ยให้เจ้าฟังเล่น ๆ หรอก” ทั้งสามหยุดการสนทนาเพื่อฝีกการต่อสู้ต่อไป
Chapters
Comments
- ตอนที่ 9 วายชนม์ชาติภุมภีร์ ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 8 ภัยร้ายไม่ผ่านพ้น ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 7 รู้จักกันพลันร่วมใจ ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 6 สั่งสอนก่อนสร้างสรรค์ ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 5 จุดกำเนิดชาติมังกร ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 4 ฉับพลันการณ์บังเกิด ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 3 ดุจฝันกลางตะวัน ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 2 กังขาไร้สิ้นสุด ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 1 พิภพมารดา ธันวาคม 2, 2021
MANGA DISCUSSION