นิยาย มังกรซ่อนเล็บ เนี่ยฟง
บทที่ 104
ทั้งสามเดินย้อนกลับมาที่ทางแยกเช่นเดิม เนี่ยฟงโบกสะบัดมือขวาเรียกเก ราะสายฟ้าออกมาหยางเวยโยนก้อนเนื้อลงพื้นพื้นที่เป็นทางเดินก็ยุบตัวลง ด้านล่างมีหอกแหลมตั้งอยู่เสียบก้อน เนื้ออยู่ด้านล่าง เนี่ยฟงโบกสะบัดมือขวาบังคับเกราะสายฟ้าต่อกันเป็นทางเดินข้ามพื้นที่แยกตัวออก ทั้งสามพุ่งทะยานไปตามเกราะสายฟ้าในที่สุดก็ข้ามมาอีกฝั่ง ชั่วน้ําเดือดก็พบประตูหินปิดกั้นทางเดินด้านหน้า มีรูปสลักมังกรหลายเผ่าพันธุ์ต่อสู้กับพวกปีศาจและมนุษย์เนี่ยฟงโบกสะบัดมือขวา ประกายสายฟ้า พุ่งออกจากมือ พุ่งทะยานออกไปด้านหน้า สองลมหายใจก็ปรากฎวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงที่ประตูหิน
เวลาไหลผ่านอย่างช้าๆในที่สุดอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่ประตูหินก็ถูกแก้ไข ตรงกลางของประตูหินที่เป็นรูปสลักค่อยๆถูกเปิดออกอย่างช้าๆเป็นช่องทางเดินลงไป ทันทีที่ทั้งสองก้าวเท้าเข้าไปในห้องตะเกียงไฟที่ติดบริเวณผนังห้องก็ส่องสว่างออกมา ห้องขนาดใหญ่ด้านหน้ามีสมบัติอยู่มากมาย แก่นพลังปราณอาวุธมากมายเงินทองกองอยู่เต็มพื้น ตรงกลางมีก้อนหินสีเขียวถูกแกะสลักเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ละด้านมีอักษรแปลกประหลาดสลักไว้ คล้ายกับศิลาจารึกขนาดใหญ่ที่ถูกจารึกไว้ด้วยภาษาโบราณ เนี่ยฟงเดินสํารวจอยู่นาน แต่ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเติม จึงมาสํารวจที่ศิลาจารึก 4
“ท่านลุ่ยกงขอรับ สิ่งนี้มันคือสิ่งใดขอรับ”
“มันเป็นศิลาจารึกบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ไว้ รวมทั้งเป็นสารจา กบุคคลในยุคโบราณว่ากันว่ามันถูกเก็บเงียบมานานหลายพันปี บางพื้นที่มันเป็นแผนที่บันทึกที่ชี้แนะหรือให้เบาะแสเกี่ยวกับที่ตั้งของศิลาจารึกอันต่อไป”
“อักษรที่ใช้มันคือภาษาใดกันขอรับ”
“เหตุใดเจ้าไม่ใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์แปลมันออกมาละ”
เนี่ยฟงโบกสะบัดมือขวา ประกายสายฟ้าพุ่งเข้าหาศิลาจารึก มันค่อยปรากฏเป็นอักษรอักขระศักดิ์สิทธิ์ออกมา มันค่อยๆถูกแปลเปลี่ยนเป็นภาษาที่เข้าใจ เนี่ยฟงจ้องมองวงอักขระศักดิ์สิทธิ์อยู่นานในแต่ละด้านจึงพอทราบเรื่องราวในบางส่วน
“เนี่ยฟง มีสิ่งใดข้าเห็นเจ้าจ้องมองวง อักขระศักดิ์สิทธิ์นั้นอยู่นานแล้ว”
“ข้ากําลังอ่านบันทึกบางอย่างอยู่ เจ้าสนใจหรือไม่”
หยางเวยไม่กล่าวสิ่งใดตอบเพียงแค่พยักหน้าให้เนี่ยฟงเท่านั้น
“มันเป็นบันทึกของอาณาจักรหนึ่งในพื้นที่แห่งนี้ ที่เราอยู่มันคือที่เก็บสมบัติของอาณาจักร อาณาจักรแห่งนี้ถูกปกครองโดยเผ่าอสูร ถูกเผ่าปีศาจเข้าสังหารทําลายอาณาจักรยึดเขตการปกครอง”
“มีเผ่าอสูรด้วยอย่างนั้น”
“ในบันทึกกล่าวเช่นนั้น”
ในระหว่างนั้นเนี่ยฟงยังคงอ่านบันทึกต่อไปเรื่อย ๆ เกือบหนึ่งชั่วยามก็อ่านบันทึกทั้งหมดเสร็จสิ้น
“หยางเวย เจ้าสนใจจะเดินทางไปกับข้าหรือไม่”
“เดินทางไปที่ไหนกัน เราต้องกลับสํานักไม่ใช่รี”
“ข้าคิดว่าข้าจะออกตามหาศิลาจารึกที่เหลืออยู่ เจ้าสนใจจะไปกับข้าหรือไม่
“แน่นอนเพราะข้าเชื่อว่าที่ใดมีศิลาจารึก ที่นั่นต้องมีสมบัติเช่นที่นี่”
หยาง)
สิ้นเสียงกล่าวของหยางเวยทั้งสองก็หัวเราะออกมาดังลั่น
“ว่าแต่จุดหมายต่อไปที่เราจะไปมันคือที่ไหน”
“เขาพยัคฆ์ในเขตสายลม บ้านเกิดข้า”
หลังจากนั้นก็ค่อยๆเก็บสมบัติทั้งหมด ไว้ในแหวน หน้าแปลกที่ศิลาจารึกไม่สา มารถเก็บไว้ในแหวนได้ เนี่ยฟงค้นพบทางออกใหม่หลังจากเก็บกวาดทั้งหมดเสร็จสิ้น ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังทางที่พบใหม่เกือบสองเค่อก็ทะลุออกมาจากด้านหลังเขา ทั้งสองกระโดดขึ้นหลังหลันเซ่อมุ่งหน้ากลับสํานักอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงสํานักสิ่งแรกที่เนี่ยฟงจัดการ คือเข้าไปรายงานภารกิจที่หอภารกิจ หลังจากนั้นก็แยกกับหยางเวยและหลันเซ่อ มุ่งหน้าไปพบเจ้าสํานักที่บ้านพัก
“คารวะท่านอาจารย์ขอรับ”
“เจ้ากลับมาแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ไอ้บ้าเทาปู่หมิงมันใช้งานพวกเจ้าหนักหรือไม่”
เนี่ยฟงยกยิ้มแล้วกล่าวตอบ
“งานไม่ยากเท่าไรขอรับ สังหารสัตว์อสูรและแก้ไขอักขระศักดิ์สิทธิ์ เพียงแต่ว่าในระหว่างทางข้าพบเจอเรื่องบางอย่าง ไม่ทราบว่าท่านพอจะทราบเรื่องศิลาจารึกโบราณหรือไม่ขอรับ”
เจ้าสํานักจางหลิงนิ่งเงียบอยู่นาน หลังจากนั้นก็โบกสะบัดมือขวานําแผ่นหนังออกมามอบให้เนี่ยฟง
“ข้ารับรู้มานานแล้วว่าวันหนึ่งเจ้าจะต้องมาถามข้าในเรื่องนี้ ในอดีตข้าก็เป็นคนหนึ่งที่ออกตามหาศิลาจารึกโบราณด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่ามีเหตุจําเป็นบางอย่างที่ข้าต้องล้มเลิกไป แผ่นหนังที่เจ้าได้ไป มันเป็นแผนที่ศิลาจารึกอีกอันที่เขาพยัคฆ์ หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าคงรับรู้บางอย่างมาบ้างแล้ว”
“ขอรับ”
“เจ้าจะออกเดินทางเมื่อไหร่”
“อีกสามวันขอรับ”
“เช่นนั้นก็ดูแลตัวเองให้ดีก็แล้วกัน”
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนขอรับ”
หลังจากออกจากบ้านพักเจ้าสํานักเนี่ยฟงก็มุ่งหน้ากลับบ้านพักแจ้งเรื่องต่อหยางเวย
รุ่งเช้าวันต่อมาข่าวการออกจากสํานักของเนี่ยฟงและหยางเวยก็ดังทั่วสํานักหลายคนเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับการตัดสินใจออกจากสํานัก เนี่ยฟงกล่าวเพียงแต่ว่าอยากออกไปผจญภัยด้านนอกเท่านั้น เพราะหลายปีที่ผ่านมา ไม่สังหารสัตว์อสูรก็สังหารปีศาจจนรู้สึกเริ่มเบื่อหน่าย หลายคนเริ่มเข้าใจ เวลาสามวันที่เหลือเนี่ยฟงทําได้เพียงแวะเวียนกล่าว
ลาเหล่าผู้อาวุโสในสํานัก รวมไปถึงศิษย์สํานักจํานวนไม่น้อย ส่วนหยางเวยก็ไม่ต่างกันเท่าไรนัก มีเพียงศิษย์สํานักที่เปิดบ่อนรับพนันเท่านั้นที่ยกยิ้มอย่างดีใจที่ทั้งสองออกจากสํานัก
รุ่งเช้าเนี่ยฟงและหยางเวยก็ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เนี่ยฟงสวมชุดสีเทา ส่วนหยางเวยสวมชุดสีเขียว ทั้งสองเดินออกจากสํานักในตอนรุ่งเช้า เนี่ยฟงมุ่งหน้าไปบอกกล่าวเนี่ยถึงที่ร้านยา หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกเดินทางไปที่เขาพยัคฆ์ การเดินทางสะดวกมากขึ้น เพราะทั้งสองนั่งอยู่บนหลังของหลันเซ่อ มีบางครั้งที่เนี่ยฟงแวะเก็บสมุนไพรตามทาง ทั้งสองใช้เวลาตระเวนไปมาบนเขา สองวันกว่าจะพบเจอที่ซ่อนของศิลาจารึกก้อนที่สอง มันถูกซ่อนอยู่หลังม่านน้ําตก จุดสังเกตหลายอันถูกทําลายลงตามกาลเวลา
เนี่ยฟงใช้เวลาอ่านศิลาจารึกอยู่นานเกือบชั่วยาม ก็ได้แต่ส่ายศีรษะไปมา ไม่มีสิ่งใดน่าสนใจ เพียงบอกกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรนี้เท่านั้นเอง ส่วนหยางเวยก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะสมบัติด้านในถูกนําออกไปหมดแล้ว ในระหว่างนั้นเองเนี่ยฟงก็รีบโบกสะบัดมือขวาออกมา เกราะสายฟ้าพุ่งออกมา ขว้างด้านหน้า เปรี้ยง มีบางอย่างพุ่งผ่านม่านน้ําตกเข้ามาปะทะเกราะสายฟ้าของเนี่ยฟง ทั้งสองรีบพุ่งทะยานออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว พบชายฉกรรจ์สองคนสวมชุดดําปกปิดใบหน้าถือดาบ ไว้ในมือ จ้องมองชายหนุ่มทั้งสองและพยัคฆ์สายฟ้าอย่างไม่วางตา
“หลายปีมานี้ไม่พบพวกท่านเลย คิดว่าถูกสังหารไปหมดแล้ว ไม่คิดว่าจะได้พบเจอพวกท่านอีก”
“ปากดีนักไอ้ลูกหมา หากไม่เพราะเกิดหอคอยปีศาจับัดซบนั้น พวกข้าคงสังหารเจ้าไปแล้ว”
“อย่างกล่าวสิ่งใดเลยเสียเวลา”
สิ้นเสียงเนี่ยฟงก็เรียกมีดสั้นมาถือไว้ ในมือเช่นเดียวกับหยางเวยที่เรียกมีดอัน แปลกประหลาดมาถือไว้ในมือเช่นกัน ปราณดาบสีขาวพุ่งเข้าหาชายหนุ่มทั้ง สองอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เปรี้ยง เกราะสายฟ้ายังคงทําหน้าที่ได้เป็นอย่างดี หยางเวยเร่งพิษออกมาเต็มกําลังพร้อม กับฟาดฟันมีดออกไป ปราณมีดสีม่วงพุ่งเข้าปะทะปราณดาบเสียงดังสนั่น เปรี้ยง ฝุ่นควันพิษสีม่วงฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ มีดสั้นกลายเป็นดาบไม่ถึงครึ่งลมหายใจ เครั้ง เครั้ง เครั้ง เครั้ง เครั้ง เสียงดาบปะทะกันดังลั่น
“บัดซบไอ้ลูกหมา มันมีลมปราณพิษ”
“ช้ไปแล้วพี่ชาย”
หยางเวยพุ่งเข้าประชิดตัวชายฉกรรจ์ผู้ หนึ่ง จ้วงมีดในมือแทงเข้าที่หน้าท้องอ ย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงสดไหลออกจากบาดแผล เช่นเดียวกับที่เนี่ยฟงใช้ความเร็ววาดดาบผ่านลําคอชายฉกรรจ์อีกผู้หนึ่ง ศีรษะหลุดกระเด็นร่วงลงพื้น หยางเวยดึงมีดสั้นออกอย่างช้าๆ หลังจากที่ทั้งสองตกตายไป หยางเวยไม่ลืมที่จะปลดทรัพย์มาจากชายชุดดํา ในระหว่างที่ตรวจสอบแหวนของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง หยางเวยก็สะดุดกับของบางอย่าง เมื่อนําออกมามันเป็นจดหมาย หยางเวยรีบเปิดอ่านพร้อมกับสบถออกมาเสียงดัง
“บัดซบ”
เนี่ยฟงกําลังจะเอ่ยถามหยางเวยก็ส่งจดหมายมาให้ เมื่อเปิดอ่านเนี่ยฟงก็เอ่ย วาจาออกมา
“เอาเถอะถึงอย่างไรบ้าก็ยังไม่มีข้อมูลศิลาจารึกก้อนต่อไป เราไปเยี่ยมเยียนผาไม้ดํากันหน่อยดีหรือไม่”
MANGA DISCUSSION