นิยาย มังกรซ่อนเล็บ เนี่ยฟง
บทที่ 103
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ทุกอย่างเกิดขึ้น อย่างรวดเร็วชายฉกรรจ์สี่คนถูกหยางเวยต่อยเข้าไปคนละหมัดแน่นอนว่าไม่ลืมที่จะปลดทรัพย์จากชายฉกรรจ์ทั้งสี่มาด้วยด้วยความสงสัยเนี่ยฟงจึงเดินเข้าไปเปิดผ้าดําที่ใช้ปกปิดใบหน้าถึงได้ทราบว่าเป็นคนของสํานักอักขระ เต่าดําเพราะหนึ่งในนั้นเนี่ยฟงจดจําได้ดีว่าเป็นอันสูหยางชายที่เคยขึ้นประลองเขตทั้งแปดเมื่อสี่ปีก่อน
“จะทําอย่างไรกับคนของสํานักอักขระเต่าดําทั้งสี่”
“คงอีกหลายวันกว่าจะรักษาพิษของ เจ้าในกายพวกมันได้พวกมันคงทรมานไม่น้อยทิ้งไว้ตรงนี้เถอะ”
สิ้นเสียงเนี่ยฟง ทั้งสองก็เดินออกมาจากบริเวณมุ่งหน้ากลับโรงเตี้ยมผู้คนมากมายยืนรออยู่เต็มหน้าโรงเตี้ยมด้วยความแปลกใจหยางเวยจึงเดินเข้าไปถามชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนอยู่
“พี่ชายเกิดเรื่องอันใดขึ้นขอรับ”
“เกิดการต่อสู้ในโรงเตี้ยมเห็นว่าเป็นจอมยุทธ์ระดับสีส้มขั้นกลางคนผู้หนึ่งเป็น ศิษย์สํานักอักขระเต่าดํานามว่าเผิงเตา กับจอมยุทธ์อีกคนที่ข้าไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด”
เสียงตะโกนด่าทอดังออกมาจากใน โรงเตี้ยม ไม่นานก็มีทหารสิบกว่านายมาที่นี่ทั้งหมดรีบเข้าไปในโรงเตี้ยมเพื่อระงับเหตุแต่ทว่าก็ไม่ทันการต่อสู้เกิดขึ้นอีกครั้งเครั้ง เครั้ง เครั้ง เครั้ง เสียงดาบปะทะกันเสียงดังลั่นออกมาทหารมากมายทําได้เพียงยืนดูชายหนุ่มทั้งสองเข้าปะทะกันโรงเตี้ยมโต๊ะเก้าอี้มากมายถูกทําลายลงเศษไม้จากโต๊ะและเก้าอี้กระเด็นปลิวว่อนเนี่ยฟงทําได้แต่ส่ายศีรษะไปมาแอบโบกสะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏขึ้นที่พื้นด้านหน้าของโรงเตี้ยมชั่วเดือดก็มีเถาวัลย์สีฟ้าที่มีประกาย สายฟ้าพุ่งเข้าหาชายหนุ่มทั้งสองมันรัดตัวของทั้งสองแน่นขนัด เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมาจากคนทั้งสอง
ทันทีที่เถาวัลย์สีฟ้าหายไปทหารทั้งหมดรีบพุ่งเข้าไปจับกุมชายหนุ่มทั้งสองอย่างรวดเร็วเสียงสบถดังลั่นออกมา
กมา
“บัดซบไอ้ลูกหมาเก่งแต่ลอบกัดแน่จริงออกมาสู้กันสิวะ”
เป็นเผิงเตาที่สบถออกมาเพราะเมื่อครู่ตัวมันเองกําลังจะเอาชนะชายหนุ่มอีกคนได้หน้าได้แต่ว่าถูกจัดการด้วยเถาวัลย์สีฟ้าเสียก่อน หลายคนนิ่งเงียบไม่มีใครกล้าที่จะแสดงว่าออกมาว่าเป็นฝีมือตน เนี่ยฟงยืนยกยิ้มมองอยู่ด้านหน้าพร้อมกับฝูงผู้คนทหารใช้เวลาจัดการ ไม่นานทุกอย่างก็เสร็จสิ้นค่าเสียหายในโรงเตี้ยมชายหนุ่มทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบหลังจากนั้นก็ถูกจับกุมตัวไปเนี่ยฟงและหยางเวยสั่งอาหารอีกสองสามอย่างมาทานสุดท้ายก็แยกย้ายกันเข้าห้องไป
รุ่งเช้าข่าวศิษย์สํานักอักขระเต่าดําเพิ่ง เตาถูกจับกุมเป็นที่ถูกคุยกันอย่างสนุกสนานเพียงแต่ว่าข่าวของอันสูหยางเงียบหายไปชายหนุ่มทั้งสองยังคงเดินเข้าออกร้านสมุนไพรและร้านขายตําราเช่น เดิมหลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จสิ้นก็ตระเวนเข้าออกร้านขายอาวุธแทนเนี่ยฟงเลือกซื้อกระบหลายสิบเล่มส่วนหยางเวยเลือกซื้อกระบอกอาวุธลับในแขนเสื้อมาหลายสิบชิ้นเช่นกันหลังจากนั้นก็พากันกลับโรงเตี้ยมเนี่ยฟงแยกตัวเข้ามาในห้องพร้อมกับหลันเซ่อกระบี่หลายสิบเล่มที่ซื้อมาใหม่ถูกนําออกมาวางไว้ในพื้น เสียงโบกสะบัดมือ ขวาดังขึ้น ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาก่อตัวเป็นวงอักขระศักดิ์สิทธิ์มันค่อยๆถูกบีบอัดลงอย่างช้าๆเกือบหนึ่งเค่อเด็ก หนุ่มก็ชี้นิ้วชี้มือขวาไปที่กระบี่เล่มหนึ่งที่วางอยู่ด้านหน้าวงอักขระศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้าไปสลักที่กระบี่เวลาค่อยๆไหลผ่านกระบี่ทั้งหมดก็ถูกสลักจนเสร็จสิ้น
รุ่งเช้าทั้งสองหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จสิ้นก็มุ่งหน้าไปที่ท่าเรือเพื่อเดินทางกลับทั้งสองยังคงนั่งเรือส่งสินค้าลําเดิมกลับเมื่อขึ้นมาถึงฝั่งทั้งสองก็เข้าพักที่เมืองท่าเรืออีกหนึ่งวันทั้งสองเดินเที่ยว ชมในตลาดผู้คนมากมายต่างออกมาจับจ่ายหลายคนเดินหลบให้ชายหนุ่มทั้งสองเพราะพยัคฆ์สายฟ้าตัวใหญ่ที่เดินตามด้านหลัง ในระหว่างที่เดินชมร้านต่างๆสองข้างทาง
“ไอ้หนู เจ้าเห็นร้านค้าที่มีชายชราสวมชุดสีเทาด้านหน้าหรือไม่
เนี่ยฟงรีบหันไปมองตามเสียงกล่าวที่ได้ยิน
“ข้าเห็นแล้วขอรับท่านลุ่ยกงมีสิ่งขอรับ”
“เจ้าลองเข้าไปดูซิว่าชายแก่ผู้นั้นขายสิ่งใดข้าสัมผัสบางอย่างจากด้านหน้าของชายแก่ผู้นั้นได้”
“เหอะ ท่านจะหลอกข้าส่งใดอีก ทุก ครั้งที่ท่านกล่าวเยี่ยงนี้ นับพาปัญหาอันปวดหัวมาให้แก่ข้าไม่น้อยตลอดเวลา
“ครั้งนี้แน่นอนเจ้าเชื่อใจข้า”
เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมาแล้วก็เดินไปที่ ร้านของชายชราผู้นั้น ด้านหน้าขายสมุนไพรตําราแปลกๆสามเล่มและแผ่นหนัง เก่าๆหนึ่งผืน เนียฟงหยิบจับตําราออกมาเปิดอ่านพบว่าเป็นตําราสมุนไพรทั่วไป จึงวางตําราลงแล้วหยิบแผ่นหนังออกมา
“เจ้าลองโคจรลมปราณไปที่แผ่นหนัง
เนี่ยฟงรีบโคจรลมปราณไปที่แผ่นหนังทันทีไม่นานก็ปรากฎแผนที่ออกมา เด็ก หนุ่มรีบยกยิ้มขอซื้อแผ่นหนังจากชายชราหลังจากนั้นก็เดินดูสินค้าอื่น ๆอีกหลายร้านในระหว่างนั้นเองหนางเวยก็ เอ่ยถามบางอย่างออกมา
“ไอ้บ้าเนี่ยฟง เราจะกลับสํานัก เลยหรือไม่
“ข้าเจอแผนที่บางอย่างเจ้าสนใจจะไปสํารวจกับข้าหรือเจ้าจะกลับสํานัก” :
หยางเวยได้ยินเช่นนั้นตื่นตกใจดวง ตาเบิกโพลง
“แน่นอนว่าข้าต้องไปสํารวจกับเจ้าแน่ คุณชายตัวนําโชคของข้า”
หลังจากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าออกจากเมืองท่าเรือมุ่งหน้าไปตามแผนที่ที่ระบุเอาไว้นับว่าเป็นโชคดีของทั้งสองที่หาจุดสังเกตแรกของแผนที่ได้ก่อนนั้นคือเมืองท่าเรือการเดินทางไปตามแผนที่ไม่ยากลําบากเท่าไรนักเพราะนั่งอยู่หลังหลันเซ่อทั้งสองพุ่งทะยานไปตามเขาต่างๆเพื่อหาจุดสังเกตบางครั้งก็พบเจอ กับสัตว์อสูรและสมุนไพรต้องเสียเวลาจัดการและเก็บสมุนไพรอีกทั้งสองใช้ เวลาถึงเจ็ดวันถึงจะพบทางเข้ามันเป็นเสาหินขนาดใหญ่อยู่ด้านในของถ่ำมันถูกฝั่งติดกับผนังถ่ำที่ถูกปิดบังโดยอักขระศักดิ์สิทธิ์
ในระหว่างที่เนี่ยฟงกําลังแก้ไขวงอักข ระศักดิ์สิทธิ์ที่เสาหินหยางเวยและหลันเซ่อก็ทําหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันอย่างดีเวลาไหลผ่านอย่างช้าๆในที่สุดอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่เสาหินก็ถูกแก้ไขตรงกลางของเสาหินที่เป็นผนังหินถูกเปิดออกอย่างช้าๆเป็นช่องทางเดินลงไปกลิ่นเหม็นอับพุ่งโพยออกมาหยางเวยยกยิ้มรีบโบกสะบัดมือนตะเกียงไฟออกมาจุดทั้งสองพยักหน้าให้แก่กันแล้วก็เดินเข้าไปในช่องทางเดินเนี่ยฟงแผ่ลมปราณตรวจสอบอยู่ตลอดเวลาไม่นานก็ตะโก นเรียกหยางเวย
“หยางเวยหยุดก่อนด้านหน้ามันเป็ นกับดัก”
หยางเวยรีบหยุดฝีเท้าก้าวถอยหลัง
ออกมา
“มีสิ่งใดไอ้บ้าเนี่ยฟง ด้านหน้าข้าไม่เห็นสิ่งใดนอกจากพื้นแข็งๆ”
เนี่ยฟงไม่กล่าวสิ่งใด โบกสะบัดนําก้อนเนื้อสัตว์อสูรออกมาแล้วโยนไปตามทางเดินด้านหน้าฟื้ว ฟื้ว ฟื้ว ลูกหน้าไม้แล้วลูกธนูพุ่งเข้าหาก้อนเนื้อเสียบจนทะลไม่มีชิ้นดีหยางเวยกลืนน้ำลายลง
คออย่างยากลําบาก
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ระวังตัวหน่อยกับดักพวกนี้ยังมีอีกเยอะ
“ขอบใจเจ้ามาก”
“เอาเป็นว่าเจ้าส่งตะเกียงไฟมาข้าจะนําเองเจ้าคอยตามหลังมาก็พอ”
เนี่ยฟงถือตะเกียงไฟค่อยๆเดินนําทาง ระหว่างนั้นก็เอ่ยวาจาให้หยางเวยโยนก้อนเนื้อไปข้างหน้า ฟื้ว ฟื้ว ฟื้ว ฟื้ว พอหมดลูกธนูและลูกหน้าไม้ก็กลายเป็นหอกปลายแหลมไม่นานเนี่ยฟงก็หยุดย นอยู่กับที่มีทางแยกออกไปสองทางเด็กหนุ่มยืนนิ่งอยู่นานเกือบหกลมหายใจก็เดินไปทางขวาเป็นหยางเวยเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เหตุใดเจ้าถึงเดินไปทางขวากัน”
“เจ้าลองโยนก้อนเนื้อไปที่ทางซ้ายมือ
ทันทีที่หยางเวยโยนก้อนเนื้อออกไปพื้นที่เป็นทางเดินก็ยุบตัวลง ด้านล่างมีหอกแหลมตั้งอยู่เสียบก้อนเนื้ออยู่ด้านล่าง
“เจ้าหายสงสัยหรือยัง รีบไปเถอะเราคงใกล้สมบัติที่อยู่ที่นี่แล้ว”
ทั้งสองเดินเข้าไปในทางแยกน่าแปลกที่ไม่มีกลไกกับดักใดๆซ่อนอยู่เลยเกีอบหนึ่งเค่อทั้งสองก็เดินทะลุออกมาเป็นห้องกว้างขนาดใหญ่มองลงไปด้านล่างมีสมบัติมากมายกองอยู่เต็มพื้นอีกฝั่งหนึ่งก็เป็นแก่นพลังปราณและอาวุธต่างๆตรงกลางมีหีบเหล็กขนาดใหญ่อยู่หลายสิบใบหยางเวยแทบจะพุ่งทะยานลงไปเพียงแต่ว่าถูกยกมือห้ามเสียก่อนเนี่ยฟงโบกสะบัดมือขวาประกายสายฟ้าพุ่งออกจากมือก่อตัวเป็นวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าพุ่งทะยานออกไปด้านหน้าชั่วเดือดภาพที่ปรากฏด้านหน้าก็หายไปเป็นเพียงห้องขนาดใหญ่เหมือนเดิมเพียงแต่สมบัติที่เห็นเป็นหอกแหลมแทน
MANGA DISCUSSION