มอบรัก บำเรอใจ - ตอนที่ 41 เขาแต่งงานใหม่เดือนหน้า
“เอาล่ะๆ ฉันตกลงกับเธอ!” เฉินเสี่ยวเฟิงรั้งเธอไว้อย่างหมดหนทาง “เอางี้แล้วกัน เธอไปเป็นเพื่อนฉันก่อน ดูว่าฉันพูดยังไง จากนั้นพอกลับบ้านไป ฉันจะช่วยเธอคิดสำนวนคำพูด สอนวิธีการพูดให้เธอ เธอจะได้……”
“ไม่ต้อง” ซูหนานจือขมวดคิ้ว ส่ายหน้ากับเขา “นายคิดว่าฉันความจำสั้นจริงๆ เหรอ? ฉันไปกับนายหนึ่งรอบ เรียนรู้สักหน่อย ต่อจากนั้นนายไม่ต้องยุ่งแล้ว”
“เธอ……” เฉินเสี่ยวเฟิงลังเล
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ซูหนานจือก็ไม่เคยทำธุรกิจนี้ และเธอเป็นผู้หญิงด้วย ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่น่าไว้วางใจเกินไป
ประธานปั๋วผู้น่ารำคาญนั่น ดันอยากเจอซูหนานจือ ไม่อย่างนั้นเขาไม่ยินยอมเซ็นสัญญา
“ฉันไม่มีเวลามาลังเลกับนายนะ” ซูหนานจือยกหางตาขึ้น ยิ้มแล้วพูด
“ก็ได้ๆ” เฉินเสี่ยวเฟิงรีบจับเธอไว้ เพียงมีข้อบกพร่องหรือผิดพลาดแล้วปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม “ออกเดินทางวันศุกร์ เอาบัตรประชาชนเธอให้ฉัน วันมะรืนฉันจะส่งคนเอาตั๋วเครื่องบินมาให้เธอ”
ซูหนานจือยิ้ม พยักหน้าพอใจ “คอยดูเถอะ”
เห็นซูหนานจือเดินจากไป เฉินเสี่ยวเฟิงก็ถอนหายใจกับตัวเองเงียบๆ ครั้งนี้เป็นธุรกิจครั้งใหญ่ที่ชนะยาก คาดว่าต้องล้มเหลว
——
ค่ำคืนย้อมบนท้องฟ้า ซูหนานจือลงจากรถแท็กซี่ มาที่บาร์โรส
มาดามกู่สวมเกาะอกหนัง นั่งอยู่ประตูทางเข้าบาร์อย่างเห็นได้ชัด ทักทายแขกด้วยรอยยิ้ม
พอหันศีรษะกลับมาเห็นซูหนานจือมาถึงแล้ว มาดามกู่ก็โบกมือให้เธอ “หนานจือ อยู่นี่”
ซูหนานจือเม้มปากเดินไป มาดามกู่โอบไหล่เธออย่างใกล้ชิด พาเธอเดินเข้าไปห้องแต่งตัว
ในเวลานี้ ซูหนานจือถึงพบว่าภายในห้องแต่งตัวมีชายอีกคนหนึ่ง
เขาดูเหมือนจะสี่สิบปี ท้วมเล็กน้อย แว่นขอบทอง มองซูหนานจือด้วยสายตารอคอย
ซูหนานจือตกตะลึงเล็กน้อย หันศีรษะกลับไปมองมาดามกู่ “ท่านนี้คือ……”
มาดามกู่ยิ้มกว้างพูดขึ้น “หนานจือ จะแนะนำให้เธอรู้จักนะ นี่คือประธานหลิว ก่อนหน้านี้นัดเธอตั้งหลายครั้งแล้ว แต่เธอไม่มา คืนนี้บริการประธานหลิวให้ดีล่ะ รู้ไหม?”
ประธานหลิวรีบเดินมาข้างหน้า ยื่นมือออกมาอย่างสุภาพ “สวัสดีครับ คุณซู”
“สวัสดีค่ะประธานหลิว” ซูหนานจือเสียงอ่อนลง ยิ้มเล็กน้อยจับมือเขา
ในใจแอบไตร่ตรอง ประธานหลิวท่านนี้แตกต่างจากประธานคนอื่นๆ ที่เธอเคยต้อนรับมาก่อน ทั้งร่างมีนิสัยซื่อสัตย์สุจริต แรงที่จับฝ่ามือเธอก็สุภาพมาก ไม่ได้กระทำตั้งใจแต๊ะอั๋ง
โดยภาพรวมแล้ว ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสุภาพ น่าจะเป็นนักวิชาการผู้รู้หนังสือ
“คืนนี้ ฝากคุณซูด้วยนะครับ” ประธานหลิวยิ้มเล็กน้อยพูดขึ้น
“ไม่มีปัญหาค่ะ ฉันแต่งหน้าก่อนนะคะ ประธานหลิวไปรอพักผ่อนที่ห้องพักวีไอพีเถอะค่ะ” ซูหนานจือรายงานด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน
ประธานหลิวพยักหน้าช้าๆ
ขณะที่เขาหันตัวออกไป เขายิ้มจางๆ นิ้วกดเข้าไปข้างในหูฟังบลูทูธ มันซ่อนใต้เส้นผมรางๆ เห็นได้ยากมาก
“คุณลู่ ครั้งนี้นัดซูหนานจือสำเร็จแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ คืนนี้ให้ผมจัดการเอง” ประธานหลิวยิ้มเล็กน้อยกล่าวกับปลายสายหูฟัง
“อืม รู้แล้ว” ทางนั้น เสียงสง่างามเย่อหยิ่งของหญิงสาวดังขึ้น “ถ้าจัดการได้สำเร็จ จะให้รางวัลคุณอย่างงาม”
ประธานหลิวยิ้มเล็กน้อยวางสายไป ถอดหูฟัง เดินเข้าไปเขตวีไอพี
ภายในห้องแต่งตัว ซูหนานจือส่องกระจกเขียนคิ้ว ยืนขึ้นมาจัดการผมสักหน่อย ด้านหลัง มาดามกู่ผลักประตูเข้ามา
ซูหนานจือเหลือบมองเธอเรียบๆ เสียงไม่แยแส “มีอะไรเหรอ?”
“ได้ยินแม่เธอหลูฮุ่ยบอกว่า ช่วงไม่กี่วันนี้เธอไม่ได้มาที่บาร์ เพราะเธอทำงานพาร์ทไทม์ที่โรงพยาบาลเหรอ?” น้ำเสียงมาดามกู่เย็นชา มีความเกลียดชังชัดเจน
ซูหนานจือหันศีรษะไปอย่างใจเย็น “หล่อนไม่ใช่แม่ฉัน”
มาดามกู่ขมวดคิ้ว จ้องใบหน้าเย่อหยิ่งของเธอเล็กน้อย กำหมัดอย่างไม่พอใจ “ซูหนานจือ เธอทำแบบนี้มันละเมิดสัญญา”
“ฉันโดนโรงพยาบาลไล่ออกแล้ว” สายตาซูหนานจือมองผ่านดวงตาโกรธเคืองของเธอ
เธอรู้ หลูฮุ่ยจะเอาปัญญามาจากไหน ไม่คิดว่าจะสืบได้ว่าเธอทำงานที่โรงพยาบาล ที่แท้มาดามกู่ก็แอบสืบนี่เอง
“ทางที่ดีเธออย่าท้าทายขีดจำกัดกับฉัน ซูหนานจือ เพราะเธอ เราถึงได้เสียลูกค้าอย่างประธานหนิงไป” มาดามกู่กัดฟันกรอดจ้องมองเธอ
“หนิงอวี้เฉิงจะแต่งงานใหม่กับอดีตภรรยาเดือนหน้า เรื่องนี้ มาดามกู่ไม่มีทางไม่รู้”
ซูหนานจือยกปากขึ้นอย่างไม่แยแส “อีกอย่าง คุณอยากเป็นศัตรูกับลู่ซูอวิ๋นคุณหนูตระกูลลู่เหรอ?”