มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) - ตอนที่ 35 : ความผิดพลาดครั้ง มหันต์
ตอนที่ 35 : ความผิดพลาดครั้ง มหันต์
เวลา 14.01 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้าบาคัวร์ ฝั่งตกวันตก, ทางเดินพนักงาน
มาร์คได้นทางคนในกลุ่มไปยังทางเดินทุกๆคนก็ได้เดินตามหลังเขาไปยกเว้นแองเจ เหมย เรห์ยา และลูกสาวของเธอ
หลังจากปล่อยให้แองเจได้ชื่นชมอยู่กับเสื้อชุดเกราะที่ มาร์คให้เธอไป มาร์คก็ได้บอกคนอื่นๆถึงสถานการณ์ข้างใน โซนขายสินค้าไอทีและสิ่งที่เขาได้ทําตอนอยู่ข้างในทางเดิน
ในตอนแรกพวกเขาคิดว่ามาร์คนั้นกลับมาเพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยจัดการฆ่าซอมบี้ที่อยู่ข้างในแต่ความคิดพวกนั้นก็ถูกไล่ออกไปเมื่อมาร์คกล่าวว่า
“ฉันควรจัดการกับพวกซอมบี้ด้วฉันเองคนเดียวดีกว่า”
จริงๆแล้วมาร์คกลับไปเพื่อที่จะอย่างน้อยให้เบอนาร์ดและเฟอร์นานตามเขามาไม่ใช่เพื่อช่วยฆ่าซอมบี้แต่เพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตในโซนสินค้าไอทีหลังจากที่เคลียพื้นที่ในโซนสินค้าไอ ที่เรียบร้อยแล้ว
แต่จากนั้นแคลวินก็ได้ให้คําแนะนาให้พวกเขาช่วยจัดการกับพวกซอมบี้ข้างในโซนสินค้าไอที แต่ มาร์คนั้นก็ได้ปฏิเสธคําแนะนํานั้นไป แคลวินกล่าวว่าความเป็นไปได้ของจํานวนซอมบี้นักกัดข้างในโซนนั้นน้อยมาก ถ้าหากมันมีเพียงแค่ซอมบี้นักกระหายถ้างั้นมันก็ดีกว่าถ้าพวกเขา ได้ไปจัดการด้วยเพื่อเป็นการฝึกซ้อมกับการฆ่าซอมบี้ไปในตัว
เมื่อได้ยินแคลวินพูดแบบนั้น มาร์คก็ทําอะไรไม่ได้นอกจากเห็นด้วยกับวิธีนั้น พวกคนอื่นๆในกลุ่มจําเป็นจริงๆที่จะต้องได้รับการฝึกซ้อมและได้รับประสบการณ์ในการจัดการกับ พวกมันและนี่เป็นโอกาสที่ดีและอย่างไรในโซนสินค้าไอทีก็ยังไม่อันตรายมากเท่าไหร่ ถ้าหากข้างในนั้นมีซอมบี้นักกัด ถ้าหากจํานวนของพวกมันเยอะเกินกว่าที่จะจัดการได้พวกเขาก็สามารถปรับใช้แผนการในการที่จะรับมือกับพวกมันได้อยู่ดี ถ้าอย่างนั้นก็คงจะไม่เป็นไร
ชายทุกคนล้วนเห็นด้วยกับสิ่งที่แคลวินกล่าวและพวกเขาก็มุ่งมั่นพร้อมที่จะทําตามวิธีนั้นและเป็นที่ประหลาดใจอย่าง มากเพราะว่าพอลลานั้นต้องการที่จะไปด้วยกับพวกเขา และรับประสบการณ์การต่อสู้กับซอมบี้ด้วยตัวเองบ้าง แองเจก็ดูเหมือนว่าต่อต้านกับการที่จะปล่อยให้พอลลาไปโดยไม่มี เธอแต่พอลลาบอกแองเจไปว่าเธอนั้นทนไม่ไหวกับการ ที่เธอนั้นไม่สามารถช่วยหรือทําอะไรได้เลยอีกต่อไปแล้ว ที่ผ่านมาเธอปล่อยให้แองเจช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด
เพราะเหตุนั้น บุคคลที่จะถูกเลือกให้ไปหรือให้อยู่ต่อบนดาดฟ้านั้นก็ได้ตัดสินใจมาแล้ว เรห์ยาไม่สามารถทิ้งลูกของเธอที่นอนหลับอยู่ลงได้ มาร์คบังคับให้เหมยอยู่ที่นี่เพราะ ร่างกายของเธอเองนั้นก็ยังไม่ฟื้นตัวดีและรอยฟกช้ําที่เธอได้รับมาก็ยังเจ็บปวดเพิ่มขึ้นไม่หยุด แองเจผู้ซึ่งยังไม่พร้อมกับการเผชิญหน้าในการฆ่าได้อีก เธอจึงอาสาที่จะอยู่ที่นี่เพื่อเป็นคนดูแลคนที่อยู่บนดาดฟ้า
พวกเขาเข้าไปยังทางเดินผ่านประตูทางออก ฉุกเฉินออกไปโดยใช้บันไดปีนเมื่อพวกเขาเข้าไปยังทางเดิน แล้วก็ได้ต่างตกใจอึ้งกับสิ่งที่เห็นความตกใจของพวกเขาไม่ใช่ เพราะว่าภาพฉากอันน่าชวนสยดสยองเนื่องจากร่างกายที่ ถูกตัดศรีษะออกไป แขนขาและเลือดที่กระจัดกระจายอยู่ ตามพื้น แต่เป็นเพราะมีผ้าม้วนสีแดงขนาดพอๆกับไซส์ของมนุษย์ซึ่งดูเหมือนซูชิสีแดงที่โปะด้วยผ้าที่ถูกมัดเอาไว้กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ที่พื้น สิ่งๆนั้นยังคงกลิ้งไปมาและสกปรกบนพื้นก็เริ่มเกาะติดอยู่กับผ้านั้น
“เอ่อ…มาร์ค? นั่นคืออะไร?”
พอลลาได้ถามมาร์คออกไปเพราะมาร์คคงเป็นคนเดียวที่ ตอบได้
“นั่นน่ะหรอ? เธอคือซอมบี้นักกัดที่ฉันจับได้นะ ตัวที่ฉันเล่าให้ฟังไง เมื่อฉันมัดมันไว้มันก็ไม่ยอมหยุดกลิ้งไปมา ฉันก็เลยม้วนเธอด้วยผ้าขี้ริ้ว”
“เพื่อให้มันถูทําความสะอาดพื้นงั้นหรอ?”
“ใช่ มันก็ดีอยู่นะ ใช่มั้ยล่ะ? แต่ก็นะ มันไม่ได้ทําความสะอาดพื้นอย่างดีเท่าไหร่หรอก”
มาร์คมองไปที่พื้นซึ่งล่องรอยส่วนของการทําความสะอาดแต่ยังไงก็ยังดูสกปรกอยู่ดี
“แน่นอน มันคงไม่ทําให้ดีหรอก!!”
พวกเขาต่างก็ตะโกนใส่มาร์คออกไปในใจ
มาร์คนทางพวกเขาผ่านซอมบี้นักกัดนั้นไปพร้อมกับใช้นิ้วชี้ปิดปากเป็นการส่งสัญญาณว่าให้เงียบมากที่สุด
ขณะที่พวกเขากําลังเดินไปตามทางเดิน สีหน้าของโจเซฟก็เปลี่ยนเป็นซีดทันที เลือดสาดกระจายเลอะไปทั่วพื้นมันทําให้ท้องไส้ของเขาปั่นปวนเกือบจะอ้วกออกมา โจเซฟนั้นไม่แม้กระทั่งสามารถได้กลิ่นใดๆได้นอกจากกลิ่นเลือด
แคลวินและเบอนาร์ดดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรแต่พวกเขาทั้งสองคนต่างก็ทําหน้านิ่วคิ้วขมวด
ในขณะที่พอลลานั้นก็ได้มองไปรอบๆอย่างเคร่งเครียดเธอดูเหมือนจะชินชากับภาพฉากแบบนี้ไปแล้วและกําลังพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้สติหลุด และเธอเคยเห็นอะไรที่แย่กว่านี้มาแล้ว
มาร์คชูมือขวาของเขาขึ้นมาเพื่อส่งสัญญานว่า เป็นการหยุดเดินมาร์คชี้ไปที่ประตูที่อยู่ตรงหน้าเขา มันคือประตูที่ไม่ได้ล็อคซึ่งเชื่อมไปยังโซนขายสินค้าไอที จริงๆแล้วมัน มีหลายประตูที่สามารถเชื่อมไปยังโซนขายสินค้าไอทีได้บางประตูก็สามารถเชื่อมไปยังร้านค้าต่างๆได้ แต่มาร์คเลือกประตูบ้านนี้เพราะว่าประตูบานนี้นั้นอยู่บริเวณมุมสุดในโซนขาย สินค้าไอที
ประโยชน์ของประตูบานนี้คือการจํากัดให้พวกฝูงซอมบี้มาได้ทางเดียว ประตูบานนี้คือบานเดียวกันกับที่ซึ่งซอมบี้ข้างในได้ใช้เป็นทางออกไปก่อนหน้านี้ รอยเท้าเปื้อน เลือดที่อยู่ตามพื้นนั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าพวกมันใช้ประตูบานนี้เป็นทางออกไป
มาร์คบิดลูกบิดประตูและพยักหน้าให้สมาชิกในกลุ่ม พวก เขาต่างก็พยักหน้าเป็นการโต้ตอบกลับในขณะเดียวกันพวกเขา ก็จับอาวุธอย่างแนบแน่นไว้ข้างกาย ในขณะที่ทุกคนกําลังมีสีหน้าท่าทางเคร่งเรียด มาร์คสังเกตุเห็นได้ว่าโจเซฟนั้นได้กลืนน้ําลายไปอีกใหญ่
เมื่อมาร์คนั้นแน่ใจแล้วว่าเปิดประตูออกไปจะไม่เจอพวกฝูง ซอมบี้ ประตูก็ค่อยๆถูกผลักเปิดออกไปอย่างช้าๆ มาร์คเปิดป ระตูออกไปกว้างมากขึ้นและเดินเข้าไป สมาชิกทุกคนที่อยู่ ตามหลังมาร์คก็ได้เดินตามไปในทันที แต่พวกเขาต่างก็ตัว แข็งที่อเมื่อเห็นถึงภาพสถานการณ์ข้างใน มาร์คนั้นได้อธิบาย ให้พวกเขาไปแล้วถึงสถานการณ์ข้างในนี้แต่เมื่อได้เห็นด้ว ยตาตัวเองแล้วมันทําให้รู้สึกช็อคยิ่งกว่า ภาพฉากข้างในโซน สินค้าไอทีนั้นแย่และน่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าสถานการณ์ตาม ทางเดินข้างนอกเสียอีก
เลือดสาดกระจายเปอะเปื้อนไปทั่วพื้น ส่วนร่างกายของมนุษย์ก็ได้ขาดท่อนเกลื่อนเต็มพื้น แถมยังมีศพที่โดนกินร่างกายไปครึ่งหนึ่งก็นอนเกลื่อนอยู่ทั่วพื้นที่ร่างกายของพวกเขาถูกฉีกขาดเผยให้เห็นถึงกระดูกและอวัยวะภายในร่างกาย มีทั้ง ศพที่คอฉีกขาดลูกตาทะลุออกมาจากเบ้าตา ขา แขนก็ฉีกขาดออกจากกัน สายตาและใบหน้าของพวกเขานั้นแสดงให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานรวมถึงความกลัวและความ เจ็บปวดก่อนที่พวกเขาจะได้เสียชีวิตลงไป สิ่งที่แย่กว่านั้นคือนอกเหนือจากเด็กและเหล่าวัยรุ่น ยังมีศพของเด็กเล็กเป็นจํานวนมากและสภาพ ศพของพวกเด็กๆนั้นก็ดูไม่ได้เท่าไหร่ เนื้อหนังมังสาของพวกเขาถูกฉีกออกไม่เหลือสภาพใดๆ
กลิ่นเลือดเข้มข้นอันน่าสะอิดสะเอียนโชยเข้าจมูกของพวก เขาเต็มๆ
แอวะะะะะ!!!
พวกเขามองไปข้างหลังและเห็นว่าโจเซฟนั้นได้ยืนหันหน้าเข้ากําแพงและกําลังสํารอกอาเจียนออกมา แต่อย่างไรก็ไม่มีใครไปโทษอะไรเขา คนอื่นๆก็ได้หน้าซีดเพราะว่าพวกเขาก็มีท่าทางจะอาเจียนเช่นกัน
มีซอมบี้นักกัดกระโจนเข้าไปหามาร์ค มาร์คได้ถลงตาขึ้นและกระโดดหลบมันได้ทันพอดี ใช่แล้ว! มันคือซอม
นักกัด! มาร์คนั้นก็ได้ตัดหัวของซอมบี้นักกระหายที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นด้วยใช่กัน และได้ออกมาจากที่หลบซ่อนที่พวกเขาได้ยืนอยู่ในเวลานี้นั้นมันไม่จําเป็นจะต้องซ่อนตัวอีกต่อไปแล้ว เขาก้าวเข้ามาทางหลักของโซนขายสินค้าไอทีและมองไปที่ฝูง ซอมบี้ทั้งหมดที่กําลังเข้ามา
ฝูงซอมบี้ทั้งหมดกําลังเข้ามาในทิศทางของที่พวกเขายืนอยู่ เสียงอ้วกของโจเซฟนั้นมันดังพอขนาดทําให้พวกซอมบี้ในโซน สินค้าไอที่ทั้งหมดนั้นได้ยิน
มาร์คก็ได้ตัดหัวซอมบี้นักกระหายไปอีกตัวและมองไปที่ฝูงซอมบี้ที่กําลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วกว่าตัวอื่นๆมันมีอยู่ ด้วยกันแปดตัว
ซอมบี้นักกัดแปดตัว!
มาร์คจ้องเขม็งไปที่โจเซฟอย่างเย็นชาก่อนที่จะได้หันไป ทางฝูงซอมบี้ ก่อนหน้านั้นเขาได้คิดแผนการที่แยบยลเอาไว้แล้ว แต่ชายคนนั้นก็ทํามันพังทุกอย่าง
โจเซฟไม่เห็นว่ามาร์คนั้นจ้องเขม็งไปทางเขา แต่ สมาชิกคนอื่นๆก็เห็นและสัมผัสได้ถึงความโกรธของมาร์คที่ มีต่อโจเซฟ
มาร์คไม่สนใจสมาชิกที่อยู่ข้างหลังเขาอีกต่อไปแล้วมันมีฝูง ซอมบี้นักกระหายกําลังพุ่งเข้ามาทางพวกเขาอย่างมากมาย และพวกเขาต่างก็บอกว่าอยากฝึกฝนการต่อสู้อยู่แล้ว พวกเขา ควรมีศักยภาพและความกล้าหาญที่จะจัดการกับพวกมันให้ได้ ส่วนมาร์คนั้นคิดว่าเขาควรที่จะจดจ่อตั้งสติสมาธิเพื่อต่อสู้กับ พวกซอมบี้นักกันดีกว่า
การที่ต้องยอมแพ้และถอยกลับไปก็ได้โผล่เข้ามาในความคิดของมาร์คอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยขาอันสั่นเทาของโจเซฟที่คงไม่สามารถมีแรงวิ่งหรือหนีไปได้ มาร์คยังคงต้องจัดการกับพวกฝูงซอมบี้นักกัดหากว่าพวกเขานั้นต้องการที่จะได้หนีออกไปได้
แววตาของมาร์คก็ได้เปลี่ยนไปในทันที เขามีแววตาที่กล้าหาญเฉียบคมส่องประกายออกมาเขาเริ่มที่จะจัดการสติและจิตใจของเขาให้กลับมารับมือได้อีกครั้ง สายเลือดในร่างกาย ของเขาก็เริ่มเดือดดาลขึ้นและหัวใจของเขาเริ่มที่จะเต้นเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้นเขาก็เริ่มเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและหยิบหูฟังออกมาใส่หูทั้งสองข้างของเขาและได้กดปุ่มเล่นเพลงที่หูฟัง ของเขา
มาร์คพุ่งเข้าไปหาซอมบี้นักกัด ในเวลานี้นั้นเขาจะไม่หลบหนีอีกต่อไปแล้ว เขาจําเป็นที่จะต้องสู้กับมันให้ได้
จิตวิญญานการต่อสู้ของเขาก็เริ่มพุ่งสูงขึ้น เมื่อดนตรีการต่อสู้แนวอนิเมะเริ่มบรรเลงเล่นอยู่ในหูทั้งสองข้างของเขา