มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 742
“ทำลายมันเสีย!”
หลัวซิวตะโกน ตราธรรมจุติมรณะก็ถูกใช้ออกไป ถึงแม้จะเป็นวิชาตราประทับที่ย่อมาแล้ว แต่ก็ยังมีพลังที่น่าตกใจ
ตราประทับที่เกิดจากการรวมตัวกันของเพลิงดำบดขยี้สุญญากาศในพริบตา เป็นเหมือนกับโม่หินขนาดใหญ่ บดขยี้กฎเพลิงอัคคีบนตัวของเขาจะแหลก
ฟุบ!ฟุบ!ฟุบ!………
เทพหงส์ถูกตราวัฏสงสารมรณะกักขังไว้ ทุกครั้งนี้ตราวัฏสงสารหมุน กฎเพลิงอัคคีบนตัวของเขาก็จะลดน้อยลงไปหนึ่งส่วน
ไม่นาน ตราทวยมรณะก็เคลื่อนไปได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ ทำลายกฎเพลิงอัคคีบนตัวของเทพหงส์ไปจนหมด แล้วเผยร่างที่แท้จริงของเทพบุตรเผ่าหงส์ออกมา
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
พอเห็นว่าเทพบุตรเผ่าหงส์มีอันตราย เจ้ายุทธจักรหงส์ก็ไม่มีทางนั่งอยู่เฉย เคลื่อนตัวเข้ามา แล้วก็มาอยู่ด้านล่างของตราทวยมรณะ จากนั้นก็เอาตัวเทพบุตรเผ่าหงส์ไปหลบไว้ด้านหลังตนเอง
หลัวซิวเห็นว่าเจ้ายุทธจักรหงส์ปรากฏตัวขึ้น สายตาก็มองอย่างเย็นชา ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากจะเอาตราทวยมรณะอันนี้ซัดใส่ตัวของยัยแก่เจ้ายุทธจักรหงส์คนนี้เหมือนกัน
“เหอะ ไม่รู้อะไรเสียแล้ว!”
ประสาทสัมผัสของนางดีมาก สัมผัสได้ว่าหลัวซิวคิดฆ่าตนเอง เลยส่งเสียงไม่พอใจออกมา แล้วก็ซัดฝ่ามือใส่ตราวัฏสงสารที่เกิดจากเพลิงดำ
พอเจ้ายุทธจักรหงส์ซัดฝ่ามือไป ก็เกิดรอยฝ่ามือขนาดใหญ่เป็นไฟขึ้นบนท้องฟ้า เสียงดังตูม ทำลายตราทวยมรณะแตกเป็นเสี่ยงๆ
คลื่นพลังกระเด็นกลับออกมา ทำให้หลัวซิวสะอึกไป แล้วได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
“กล้ามาลงมือกับข้า สมควรตาย!”
เจ้ายุทธจักรหงส์คนนี้จิตใจอำมหิต เรื่องเล็กน้อยก็จะแก้แค้น ไม่เล่นตามกติกา โดยไม่สนใจฉายาเจ้ายุทธจักรของตนเองเลย ฝ่ามือไฟขนาดใหญ่ก็โจมตีไปยังหลัวซิว
เห็นได้ชัดว่า นางคิดจะอาศัยโอกาสนี้กำจัดอัจฉริยะอย่างหลัวซิว ที่ในอนาคตอาจจะเป็นภัยต่อนางได้
“เจ้ายุทธจักรหงส์ ไม่เห็นหัวข้าเลยหรือไง?”
เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวก็ไม่มีทางให้เจ้ายุทธจักรหงส์ได้สมดั่งใจ เขามาปรากฏตัวขึ้นข้างๆ หลัวซิว แล้วก็ใช้ดาบฟันฝ่ามือไฟนั้นออกไป
“เหอะ วันนี้ถือว่าพวกเจ้าชนะ พวกเรากลับ!”
มีเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวอยู่ด้วย เจ้ายุทธจักรหงส์ก็รู้ดีว่าจะทำอย่างที่คิดไม่ได้ ก็เลยส่งเสียงไม่พอใจ แล้วก็พาเทพบุตรเผ่าหงส์ขึ้นไปด้านบนเรือรบเทพหงส์
จากนั้นเรือรบเทพหงส์ก็พุ่งทะยานตัดอากาศออกไป ไม่นานก็ไม่เห็นเงาแล้ว
พอเห็นว่าเจ้ายุทธจักรหงส์พาคนกลับออกไป หลัวซิวก็โล่งอก อย่างน้อยอันตรายของแดนตำหนักจื่อ ก็ผ่านไปได้ชั่วคราว
“ขอบคุณผู้อาวุโสมาก” หลัวซิวโค้งคำนับให้กับเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิว
“จะว่าไปก็ไม่ต้องมาขอบคุณข้าหรอก ข้าเองก็รับคำไหว้วานจากคนอื่นมาเท่านั้นแหละ” เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวยิ้มพยักหน้าตอบ
รับคำไหว้วานคนอื่นมางั้นหรือ?
หลัวซิวอึ้งเล็กน้อย เขารู้ดีว่าคนที่สามารถให้เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวมาทำงานได้ ฝั่งนั้นจะต้องไม่ธรรมดา แต่ในโลกแสงดาว ดูเหมือนว่านอกจากเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวแล้ว ตนเองก็ไม่ได้รู้จักคนใหญ่คนโตอื่นๆ เลย
ทันใดนั้น หลัวซิวก็นึกถึงเทวทูตจื่อเยียนกับเจ้าแดนหลิวหงเทียนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าจะเป็นผู้อาวุโสสองคนนี้ที่คอยแอบช่วยเหลือ?
เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวก็ดูเหมือนจะไม่ได้อยากอธิบายอะไร และหลัวซิวก็ไม่กล้าถามเพิ่ม
“ถึงแม้เผ่าหงส์จะถอยกลับออกไปแล้ว แต่จากที่ข้ารู้จักเผ่านี้ เกรงว่าจะไม่ยอมรามือง่ายๆ แน่ ช่วงนี้ข้าจะไปฝึกวิชาที่โลกแสงดาวเกณฑ์กฎ พอถึงตอนนั้นเจ้าก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน” เจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิวกล่าว
หลัวซิวเคยได้ยินโลกแสงดาวเกณฑ์กฎ และที่มาของโลกแสงดาว ก็เป็นเพราะการมีอยู่ของโลกแสงดาวเกณฑ์กฎนี่แหละ
ได้ยินมาว่า พอได้เข้าไปในโลกแสงดาวเกณฑ์กฎจะทำให้สามารถเข้าใจความลึกล้ำของพลังกฎเกณฑ์มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าใจผังกฎดั้งเดิม
ผู้แข็งแกร่งเทพมารทุกคนที่ปรากฏในโลกแสงดาว ล้วนบรรลุในโลกแสงดาวเกณฑ์กฎทั้งหมดทุกคน