มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 348 ความขัดแย้ง
“ตาบ้าเหว้ย ดูสิ่งที่นายทำสิ!”
อาจารย์หงหมิงโมโหมาก หัวไหล่ของเขาถูกลำแสงของค่ายกลสังหารสาดส่อง กลายเป็นบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ เวลานี้เลือดรินไหลไม่หยุด
จักรพรรดิยุทธ์คนอื่น ต่างมองไปทางเหว้ยห้าวหรานด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขาคือนักค่ายกลเพียงคนเดียวในคณะ ด้านหน้ามีค่ายกล แต่เขากลับไม่ร้องเตือน ทำให้คนอื่นๆ เคลือบแคลงสงสัย
“ค่ายกลสังหารนี้ซุกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี พวกนายพุ่งตัวออกไปเร็วเกินไป ตอนที่ฉันรู้ว่ามีค่ายกล อยากจะเตือนทุกคนก็ไม่ทันแล้ว” เหว้ยห้าวหรานพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“นายพูดแบบนี้ ใครจะเชื่อ? ฉันว่านายอยากจะอาศัยเหตุการณ์นี้ในการฆ่าคนมากกว่า เมื่อถึงเวลาของล้ำค่าทั้งหมดจะได้ตกอยู่ในมือนายแค่คนเดียว” อาจารย์หงหมิงพูดประชดประชัน
คล้ายว่า ปรมาจารย์หลอมอาวุธคนนี้กับเหว้ยห้าวหรานปรมาจารย์ค่ายกล ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง ไม่ถูกกันมาก
ก่อนหน้านี้ไม่ได้แสดงออกมาอย่างเด่นชัด แต่ตอนนี้มีเรื่องขัดแย้งทางผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ปัญหาจึงถูกกระตุ้นขึ้นมา
“ไอ้หน้าเงินเหว้ย นายจะอธิบายยังไง” สีหน้าของจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงก็เคร่งขรึมขึ้นมาเหมือนกัน ตรงแผงอกมีเลือดไหล เจ็มจนเขาขมวดคิ้วเป็นเส้นตรง
“อธิบาย? ทำไมฉันต้องอธิบาย? ที่นี่คือสถานที่ฝึกตนของผู้แข็งแกร่งสมัยโบราณ ฉันไม่ใช่ปรมาจารย์ค่ายกลขั้น9สักหน่อย ความสามารถด้านค่ายกลของฉันไม่ถึงขั้นที่จะสังเกตเห็นทุกอย่างได้ง่ายดาย”
เหว้ยห้าวหรานพูดถึงความว่า “ว่าแต่ที่พวกนายบาดเจ็บ และมีอีกสองคนตายเพราะความซวย ล้วนเป็นเพราะละโมบโลภมากกับกลิ่นหอมของยาวิเศษ”
“เจ้าคนแซ่เหว้ย นายคิดว่าพูดแบบนี้แล้วจะสามารถผลักความรับผิดชอบได้อย่างนั้นเหรอ? พวกเราไม่เคยไม่ให้ค่าตอบแทนในการทำลายค่ายกล ถ้านายยังมีใจคิดจะทำร้ายคนอื่น ฉันแซ่ฝานเป็นคนแรกที่จะไม่ยอม!” ฝานไท่เต๋อพูดเสียงเยือกเย็น
เดิมทีผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ที่เข้ามาในคีตโลกาถ้ำเทพสถิตมีทั้งหมดยี่สิบคน เหยียนเยว่เอ๋อร์ไม่อยู่ ว่านเหลียนเฉิงตายไปแล้ว ร่วมกับหน้าประตูตำหนักและเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่สูญเสียจักรพรรดิยุทธ์ไปทั้งหมดสามคน ตอนนี้เหลือแค่สิบห้าคนเท่านั้น
ตอนนี้ จักรพรรดิยุทธ์สิบห้าคนก็แบ่งเป็นสามฝ่าย เบื้องหลังของฝานไท่เต๋อมีอาจารย์ของหลายตระกูลใหญ่ในประเทศเทียนหวูคอยสนับสนุน
ข้างกายจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงมีอาจารย์หงหมิง และจักรพรรดิยุทธ์นิรนามท่านหนึ่ง
นอกเหนือจากนี้คือคนของเฒ่าประหลาดฉิวสองคน ที่สนิทสนิมกับเหว้ยห้าวหราน
ตอนนี้เหว้ยห้าวหรานกลายเป็นคนที่ทุกคนพุ่งเป้าไปหา เฒ่าประหลาดฉิวเดินออกมา พูดยิ้มเสียงเยือกเย็น:”ฉันว่าไอ้หน้าเงินเหว้ยพูดถูก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเรารีบวิ่งเข้าไป ค่ายกลสังหารที่ซ่อนตัวอยู่ก็คงไม่ทำให้พวกเราบาดเจ็บ”
เห็นเฒ่าประหลาดฉิวพูดเข้าข้างตน เหว้ยห้าวหรานมองเขาด้วยแววตาขอบคุณเล็กน้อย ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันโดยไม่จำเป็นต้องพูดออกมา
เรื่องค่ายกลสังหาร สุดท้ายก็จบลง ถึงแม้อาจารย์หงหมิงและฝานไท่เต๋อมีเจตนาคิดอยากจะหาเรื่องเหว้ยห้าวหราน แต่ว่าขั้นตอนการหาของล้ำค่าหลังจากนี้ ก็ยากที่จะรับประกันว่าจะไม่มีค่ายกลมาคุกคามอีก เวลานี้ยังไม่สามารถขัดแย้งกันได้
เรื่องนี้จบลงไปโดยปริยาย อาจารย์จักรพรรดิยุทธ์สองคนที่ตายไป ก็ถือว่าตายฟรี
นี่คือความโหดร้ายของโลกแห่งการฝึกยุทธ์ ถึงแม้จะเป็นอาจารย์จักรพรรดิยุทธ์ เป็นคนที่เก่งกาจ อายุขัยเกือบสองพันปี แต่เมื่อไม่ระวังตัวเพียงเล็กน้อย ก็จบลงด้วยการตาย
การเดินทางหลังจากนี้ ทุกคนล้วนระมัดระวังตัวมากขึ้น เหว้ยห้าวหรานเองก็ตั้งสติ พบร่องรอยค่ายกลที่ถูกวางเอาไว้ไม่น้อย เพียงแต่ค่ายกลเหล่านี้ล้วนอยู่ในสถานะปิด ไม่ได้เปิด ทำให้คนตกใจ
ในที่สุด พวกเขาก็เดินไปถึงสวนยา มองเห็นยาวิเศษมากมายที่ถูกปลูกไว้ในนายา แววตาของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคน แดงขึ้นมาทันที
“หญ้างูดอกมรกต!”
“ดอกขนมชั้นรวมจิต!”
“……”
ในนายา มียาจำนวนไม่น้อยที่แห้งแห้วไปแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็ผ่านมากว่าหมื่นปี มียาวิเศษน้อยชนิดมากที่จะอยู่ได้นานขนาดนี้
แต่ว่าการเหี่ยวเฉาของยาวิเศษ ก็ทิ้งเมล็ดพันธุ์บางส่วนเอาไว้ ยาทั้งหมดล้วนเป็นยาหายากระดับหกขึ้นไป
มียาวิเศษหลายต้น ที่แม้แต่ฝานไท่เต๋อปรมาจารย์กลั่นยาขั้น6 ยังไม่รู้จัก
ยาวิเศษในนายา มีประมาณหนึ่งร้อยต้น โดยนมากล้วนเหี่ยวเฉาไปนานแล้ว
ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์แบ่งยาวิเศษกัน ทางด้านหลัวซิวยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกคนอื่นจับพิรุธได้ แล้วฉวยโอกาสจัดการตน
สวนยานี้มีขนาดใหญ่มาก พวกเขาเดินตรงไปข้างหน้า เดินอยู่นานมาก ท่ามกลางพลังฟ้าดินจิตเข้มข้นที่กลายเป็นหมอกหนา เห็นกระท่อมมุงจากรางๆ
ด้านนอกตำหนัก ฝึกตนกลางเขา แววตาของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคน แปรเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นขึ้นมา เห็นชัดว่ากระท่อมมุงจากหลังนี้ น่าจะเป็นที่บำเพ็ญตนที่แท้จริงของผู้แข็งแกร่งโบราณ!
ถ้ามีมรดกตกทอดชั้นดีที่ผู้แข็งแกร่งโบราณทิ้งเอาไว้ เช่นนั้นไม่ว่าใครได้ครอบครอง ล้นวพูดได้ว่าเป็นการพลิกชะตาชีวิต เป็นโอกาสที่ดีมาก!
ตอนที่ทุกคนเดินเข้าไปใกล้ เห็นประตูกระท่อมมุงจากปิดอยู่ บริเวณโดยรอบก็ปกคลุมด้วยม่านลำแสงสีดำทอง
ม่านลำแสงสีดำทอง คือค่ายกลอย่างไม่ต้องสงสัย สายตาของจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงและทุกคน มองไปทางเหว้ยห้าวหรานพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ไอ้หน้าเงินเหว้ย ครั้งนี้ต้องพึ่งพานายแล้ว” จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงพูดขึ้น
“ฉันไม่มั่นใจเท่าไหร่” เหว้ยห้าวหรานไม่ได้ตอบทันที แต่กลับพูดอย่างรู้ตัวเป็นอย่างดี “ความสามารถด้านค่ายกลของฉันเป็นแค่ขั้น6เท่านั้น บางทีตอนอยู่ในประเทศเทียนหวูถือว่าเป็นขั้นที่สูง แต่เมื่อเทียบกับการวางค่ายกลของผู้แข็งแกร่งโบราณแล้วนั้น กลับไกลห่างมาก”
“ฉันได้แต่พูดว่า ฉันจะทำสุดความสามารถ ถ้าหากสามารถทำลายค่ายกลแล้วได้ของล้ำค่าอะไร ต้องให้ฉันเป็นคนเลือกก่อนหนึ่งอย่าง!”
จักรพรรดิยุทธ์ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างขมวดคิ้วเป็นปม จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง อาจารย์หงหมิง ฝานไท่เต๋อ และยังมีเฒ่าประหลาดฉิว เจ้าสำนักเสวียนหยาง เจ้าตำหนักจื่อและพวกใช้ตัวสำนึกในการหารือกัน สุดท้ายเลือกที่จะยอมรับข้อเรียกร้องของเหว้ยห้าวหราน
เพราะถึงอย่างไรค่ายกลโบราณก็ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะค่ายกลในที่ฝึกตนที่ผู้แข็งแกร่งวางเอาไว้ พลานุภาพย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ตอนทำลายค่ายกล จำเป็นต้องอาศัยเหว้ยห้าวหราน
หลังจากจบสมัยโบราณ ตลอดหนึ่งหมื่นกว่าปีที่ผ่านมานี้ มีร่องถ้ำแดนปริศนาปรากฏขึ้นไม่น้อย
ขั้วอำนาจใหญ่ในปัจจุบันมากมาย รวมถึงผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์สูงสุด ได้รับโอกาสที่ดีจากร่องโบราณมากมาย
ในโอกาสดีๆ มากมาย การสืบทอดของผู้แข็งแกร่งโบราณ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างไม่ต้องแปลกใจ โดยเฉพาะสำหรับขั้วอำนาจใหญ่ การสืบทอดสำคัญกว่าทุกอย่าง
การสืบทอดระดับสูง สามารถทำให้สำนักของตระกูลใหญ่มีชีวิตนิรันดร์ สามารถสร้างผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ได้
เวลานี้ทุกคนต่างหวั่นไหว แต่สิ่งสำคัญคือ ค่ายคุ้มกันในกระท่อมมุงจาก ด้วยความสามารถของเหว้ยห้าวหราน สามารถทำลายได้หรือไม่
นักค่ายกลทำลายค่ายกล นอกจากรู้หลักการของค่ายกลแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ทำได้เพียงใช้ค่ายกลทำลายค่ายกล
เหว้ยห้าวหรานหยิบธงค่ายโบราณหกด้านออกมาอีกครั้ง