มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 2437
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2437
เมื่อปีนั้นครั้นเมื่อใช้อภินิหารรวมร่างครั้งแรกในแท่นบูชาเทพมาร ผลการฝึกตนของหลัวซิวถูกยกระดับถึงแดนจ้าวมหาเทพขั้น 2 แค่อาศัยอานุภาพแห่งกระบี่ร่องฟ้า ทำให้เขามีกำลังรบที่สามารถข้ามขั้นสังหารจักรพรรดิเทพ
ปัจจุบัน ผลการฝึกตนของเขายกระดับถึงแดนเทพขั้น 6 แล้ว หลังจากดูดซับพลังของอสูรดูดจิต ผลการฝึกตนของเขาก็พุ่งขึ้นไปถึงจ้าวมหาเทพขั้น 4 อย่างรวดเร็ว!
ตู้มม!
พลังออร่าที่มากมายมหาศาลม้วนซัดท้องฟ้า อนัตตาดับสลาย แล้วแตกออกเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ มีเปลวแสงลุกโชนรอบกายหลัวซิว เหมือนดั่งเทพสงครามองค์หนึ่งที่ฟื้นตื่นขึ้นมา
ชัวะ!
แสงกระบี่ที่แวววาวจับตาฟาดฟันออกไป แสงกระบี่และกระดูกมือของมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิพุ่งชนกันกลางอากาศที่ว่างเปล่า จนมีมรสุมกฎที่บ้าระห่ำถึงขีดสุดระเบิดออกมา
โครมคราม……
พลังกฎที่บ้าระห่ำม้วนซัดไปทั่วทุกสารทิศ ปริภูมิถูกกดอัดจนแหลกสลายแล้วว่างเปล่าไปเลย ทำให้สนามรบที่ทั้งสองกำลังอยู่กลายเป็นสุญญากาศสีดำภายในพริบตา
มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิคาดไม่ถึงแน่นอนว่ากำลังรบของตนฟื้นฟูกลับมารุ่งโรจน์แล้ว แต่หลัวซิวยังสามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้ ต่อให้เขาใช้ปราณกระบี่ที่เคยจัดการตนเมื่อปีนั้น มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิรู้ตัวเองดีอยู่ว่าเมื่ออาศัยอุบาย ณ ปัจจุบันของตนแล้วก็สามารถต้านทานได้อยู่ ทว่าสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจคือหลัวซิวไม่ได้ใช้ปราณกระบี่ประเภทนั้น ก็สามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้แล้ว
นี่จึงทำให้จิตใจมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิตะลึงและสงสัยอย่างยิ่ง เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าจากศักยภาพ ณ ปัจจุบันของตน แม้นมองในมุมโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด ก็เป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับหกอยู่ ยิ่งกว่านั้นคือเทพมารระดับหกจำนวนมากในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปดยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตัวเองด้วย หลัวซิวนี่คือตัวประหลาดอะไรกันแน่ ถึงขั้นมีอุบายเช่นนี้ด้วยหรือ?
ทุกอย่างไม่ค่อยต่างอะไรจากการคาดเดาของหลัวซิวมากเท่าไหร่นัก มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิเคยเข้าไปในวังเทียนหมิงตั้งแต่หลายร้อยล้านปีก่อนแล้ว และเขาก็คิดว่าภายในวังเทียนหมิงมีโชคโอกาสที่น่าทึ่งคงอยู่ แต่เพิ่งเข้าไปได้ไม่นาน ก็ถูกเสี้ยวปณิธานของชางเทียนหมิงที่อยู่ภายในยับยั้ง
ชางเทียนหมิงคือสวรรค์องค์หนึ่งในยุคไท่ชู มาตรแม้นว่าเป็นเสี้ยวปณิธานหนึ่งที่อ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต้านทานได้
เดิมทีมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมินึกว่าตัวเองจะตาย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าตนจะมีชีวิตรอดออกมาจากวังเทียนหมิง อีกทั้งเสี้ยวปณิธานชางเทียนหมิงยังประทานโชคให้แก่เขาด้วย ซึ่งราคาที่ต้องแลกก็คือต้องบูชาชีวีดั้งเดิมของตนเอง หลอมรวมกฎความตายและพลังแห่งมหากาพย์เข้าด้วยกัน จนกลายเป็นลักษณะโครงกระดูกที่ไม่เหมือนมนุษย์ ไม่เหมือนผีสางเทวดา
ตลอดกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านพ้นมา เขาล้วนคลุมอยู่ภายใต้ชุดคลุมยาวดำ ไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงให้ผู้อื่นดู ราคาที่ต้องแลกเปลี่ยนนั้นสูงมาก ๆ แต่เขากลับมีชีวิตที่แทบจะใกล้เคียงกับอมตะ มีชีวิตคงอยู่มานานหลายร้อยล้านปี
การเข้าไปในวังเทียนหมิงเมื่อครั้งก่อน เขานำมหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนและจักรพรรดิเทพอีกจำนวนมากเข้าไปเป็นของบำรุงให้แก่ชางเทียนหมิงจริง ๆ เนื่องจากหากเสี้ยวปณิธานของชางเทียนหมิงอยากคืนสู่สภาพเดิม ก็จำเป็นต้องกลืนกินชีวีดั้งเดิมเป็นจำนวนมาก ชีวีดั้งเดิมของจอมยุทธ์ทั่วไปไม่มีประโยชน์ อย่างน้อยสุดก็ต้องใช้ชีวีดั้งเดิมของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพเป็นต้นไป
การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปได้อย่างราบรื่นมาก แต่กลับปล่อยให้ผู้คนในเผ่าจี้หนีรอดไปได้ และเขายิ่งได้รับคำเตือนจากเสี้ยวปณิธานของชางเทียนหมิงว่าหลัวซิวคือบำเพ็ญเซียนปีศาจปรปักษ์สวรรค์คนหนึ่ง!
อย่าว่าแต่ในมหาโลกาพันสามเลย ต่อให้เป็นโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด ก็มีคนรู้จักบำเพ็ญเซียนปีศาจปรปักษ์สวรรค์น้อยมาก ๆ แต่เขากลายเป็นคนรับใช้ของชางเทียนหมิงแล้ว จึงทราบว่าบำเพ็ญเซียนปีศาจปรปักษ์สวรรค์มีความหมายว่าอะไร และชางเทียนหมิงในตำนานที่มีอำนาจบารมีมากมายมหาศาลก็ถูกบำเพ็ญเซียนปีศาจปรปักษ์สวรรค์สังหารนี่แหละ
และเสี้ยวปณิธานชางเทียนหมิงทำให้กำลังรบของเขาฟื้นฟูกลับคืนสู่จุดสูงสุด ซึ่งภารกิจที่มอบให้เขาก็คือต้องสังหารหลัวซิวที่เป็นบำเพ็ญเซียนปีศาจปรปักษ์สวรรค์ ปณิธานของสวรรค์ไม่อาจปล่อยให้อสูรจิตที่อยู่เหนือจักรวาลฟ้าดินคงอยู่ มีเพียงต้องทำลาย กำจัดอสูรจิตเหล่านั้นทิ้ง
เพราะฉะนั้นหลังจากที่มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิออกมาจากวังเทียนหมิงแล้ว เขาก็มาถึงเผ่าจี้เลย
ขณะที่มีความคิดต่าง ๆ นานากระพริบผ่านไปในหัวมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ หลัวซิวกลับเป็นฝ่ายที่ลงมือโจมตีก่อนแล้ว ถึงแม้ผู้ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่จะเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ไร้เทียมทานที่ยิ่งใหญ่แห่งยุค เขาก็ยังมีความกล้าในการฟาดฟันกระบี่เทพในมืออย่างไร้ความพะวงอยู่เช่นเคย
ไม่เกรงกลัวไม่หวาดหวั่น แม้นต้องตายก็ไม่นึกเสียดาย ยอมตายดีกว่ายอมก้มหัวให้ และนี่ก็คือปณิธานดั้งเดิมของบำเพ็ญเซียนปีศาจปรปักษ์สวรรค์!
“ปรปักษ์สวรรค์!”
หลัวซิวปลดปล่อยพลังอมตะอย่างตราประทับปรปักษ์สวรรค์ออกมาผ่านวิถีกระบี่ วิถีไร้ลักษณ์ของเขาวิวัฒนาการสรรพสิ่งได้ จึงสามารถวิวัฒนาการวิชาวิถีกระบี่ออกมาได้เช่นกัน!
วิญญาณวีรบุรุษที่ล้นฟ้าปรากฏ มีปณิธานที่ไม่ยอมศิโรราบและไม่นึกเสียใจของบำเพ็ญเซียนปีศาจปรปักษ์สวรรค์ในแต่ละยุคแฝงซ่อนอยู่ภายใน กลายเป็นปราณกระบี่อันสว่างสดใสที่น่าทึ่ง พุ่งสับไปทางมหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิ