มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 2427
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2427
“ไสหัวไป!”
หลัวซิวเบื่อที่จะเสวนากับเขา ยกมือโบกทีหนึ่ง ชี่จิ้งที่เกะกะระรานก็ระเบิดออกมา ปัดกวาดจอมยุทธ์ราชาเทพคนดังกล่าวกระเด็นออกไปจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น กลายเป็นจุดดำตรงขอบฟ้า กระทั่งหายไปในที่สุด
“เจ้า……”
สีหน้าของสตรีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนไป นางนึกไม่ถึงเลยว่าคนดังกล่าวจะจองหองเช่นนี้ บังอาจลงมือบนอาณาบริเวณของตระกูลหลี่แห่งดาวเทียนเชี่ยน
“เจ้าคือผู้ใดกันแน่?”นางก้าวถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าวอย่างระมัดระวังขฌ ฝ่ายตรงข้ามบังอาจจองหองพองขนเช่นนี้ เห็นได้ชัดเจนมากเลยว่าเขาไม่ใช่คนทั่วไป
“เจ้าไม่มีสิทธิ์มาถามข้า หากข้าต้องการฆ่าเจ้า ข้าไม่ต้องใช้แม้แต่นิ้วเดียว”หลัวซิวพูดอย่างเยือกเย็น ส่วนอสูรดูดจิตก็ปลดปล่อยอาณาจักรของตนเองออกมา ทำการพันธนาการสตรีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไว้โดยตรง
เวิ่ง!
วินาทีต่อไป หว่างคิ้วของหลัวซิวก็สั่นเทิ้ม มีกระบี่แห่งตัวสำนึกเล่มหนึ่งตัดสับออกมา ทะลวงตัวหยั่งรู้ของสตรีดังกล่าวภายในชั่วลมหายใจเดียว เริ่มสอดแนมความทรงจำของนาง
จากความทรงจำของนางหญ หลัวซิวก็พอจะทราบแล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตระกูลหลี่แห่งดาวเทียนเชี่ยนนี่กันแน่ จะว่าไปเรื่องนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับเขาเช่นกัน
ครั้นเมื่อขณะที่เขาทิ้งหลี่ยู่และเย่ห้าวหรานไว้ที่นี่ เขาได้รับเศษฎีกาค่ายและคัมภีร์โอสถแล้ว อีกทั้งข้อมูลวรยุทธ์จำนวนมากที่ได้รับจากเงาสะท้อนวัฏสงสาร
และเป็นเพราะทั้งหมดนี้นี่เอง ถึงได้ทิ้งรากเหง้าแห่งภัยพิบัติไว้ให้หลี่ยู่และเย่ห้าวหราน มีผู้อื่นต้องการสิ่งเหล่านั้นจึงส่งผลให้ความหายนะมาเยือน
เคลื่อนไหวตัวสำนึก ก็ทำให้สตรีนางนี้หมดสติไปในทันที อสูรดูดจิตคำรามทีหนึ่ง เสียงคำรามที่ดังก้องกังวานเหมือนดั่งเสียงคำรามมังกร ดังก้องอยู่บนนภาทั้งดาวเทียนเชี่ยน
เพียงชั่วขณะเท่านั้น อสูรดูดจิตก็มาถึงเหนือนภาตระกูลหลี่เป็นที่เรียบร้อย ฟาดหางที่เหมือนสร้างมาจากเหล็กสีดำแรง ๆ กระแทกลงบนมหาค่ายคุ้มกันของตระกูลหลี่อย่างรุนแรง
แคว็ก!
เพียงการโจมตีเดียว มหาค่ายคุ้มกันของตระกูลหลี่ก็แตกออกเป็นรอยร้าวหนึ่งจุด อสูรดูดจิตแดนจ้าวมหาเทพขั้นสูง แท้จริงแล้วศักยภาพของมันในปัจจุบันไม่ด้อยกว่าจักรพรรดิเทพทั่วไปเลย ค่ายกลคุ้มกันนี่ของตระกูลหลี่เป็นเพียงระดับสี่ชั้นยอด หลัวซิวไม่ต้องลงมือ อสูรดูดจิตก็สามารถใช้แรงฮึดทลายมันได้อย่างสบายมือมากแล้ว
ตราบใดที่หลัวซิวยังไม่เอ่ยปาก อสูรดูดจิตก็จะไม่หยุดโจมตี กรงเล็บทั้งแปดตะปบลงค่ายกลคุ้มกันที่อยู่ด้านล่างแรงญห ๆ ม่านแสงมหาค่ายสั่นไหวอย่างรุนแรง และมีเสียงแคว็ก ๆ ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่นานนัก มหาค่ายคุ้มกันของตระกูลหลี่ก็แตกสลายเป็นฝุ่นผง และบัดนี้ผู้คนในตระกูลหลี่ถึงจะตอบสนองกลับมาได้ เงาดำสิบกว่าร่างพุ่งบินออกมาจากตระกูลหลี่
“ผู้ใดบังอาจทำลายค่ายกลคุ้มกันตระกูลหลี่ของเรา?”
เงาดำสิบกว่าร่างล้วนเป็นผู้อาวุโสมกุฎเทพของตระกูลหลี่ เมื่อเห็นว่ามหาค่ายคุ้มกันของตระกูลหลี่ถูกโจมตีจนแตกสลายบภ แต่ละคนจึงโกรธเกรี้ยวอย่างมาก จิตสังหารเข้มข้น
ทว่ามีผู้อาวุโสไม่กี่คนที่สีหน้าอารมณ์ดูตึงเครียดอย่างยิ่ง เนื่องจากพวกเขานึกถึงปัญหาที่เป็นกุญแจสำคัญเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือค่ายกลคุ้มกันของตระกูลหลี่คือระดับสี่ชั้นยอด ซึ่งเพียงพอที่จะต้านทานการโจมตีจากจ้าวมหาเทพขั้นสูง ฝ่ายตรงข้ามสามารถทำลายมหาค่ายคุ้มกันได้โดยที่พวกเขายังตอบสนองกลับมาไม่ได้ แล้วจักเป็นบุคคลธรรมดาได้อย่างไรเล่า?
“หุบปาก!”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งตะคอกเสียงดัง ผู้ที่เขาตำหนิไม่ใช่หลัวซิว แต่เป็นผู้คนฝั่งตระกูลหลี่
ผู้อาวุโสคนดังกล่าวอยู่ในชุดคลุมยาวสีม่วง เขามองหลัวซิวและอสูรดูดจิตรอบหนึ่ง ก่อนจะทำท่าคารวะพลางพูดอย่างเกรงใจมาก “ข้าน้อยหลี่จิ่งเฟย ไม่ทราบว่าตระกูลหลี่ของเรามีบุญคุณความแค้นอะไรกับผู้เพื่อนยุทธ์หรือ เหตุใดจึงต้องลงมือทำลายค่ายกลคุ้มกันของตระกูลหลี่เราด้วย?”
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าผู้อาวุโสคนดังกล่าวก็ทราบเช่นกันว่าฝ่ายตรงข้ามสามารถทลายค่ายกลคุ้มกันระดับสี่ชั้นยอด จึงเป็นศัตรูตัวฉกาจที่รุกรานไม่ง่ายอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นละก็เขาคงลงมือตั้งนานแล้ว จักพูดคำพูดที่ไร้สาระเช่นนี้ได้อย่างไร?