มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 2393
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2393
“พวกเจ้าอีกแล้ว พวกผีนรกน่ารำคาญ!”
เสียงคำรามเย็นยะเยือกดังขึ้นมาจากวังเทียนหมิง จากนั้นทั่วทั้งพระราชวังก็สั่นไหวอย่างรุนแรงขึ้นมา คลื่นพลังงานมหาศาลปะทุขึ้นมาจนฟ้าแยกดินสลาย หากไม่ได้เกิดขึ้นภายในวังเทียนหมิง เกรงว่าทั่วทั้งดารายอดอัมพรคงจะแหลกสลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว
สถานที่เส็งเคร็งนี้ หลัวซิวไม่อยากอยู่นานขึ้นแม้อีกเพียงเสี้ยววินาที เขาตัดสินใจรีบออกไปอย่างเด็ดขาด จากนั้นก็ออกมาจากหุบเขาทุคติทันที
หลังจากออกมาจากหุบเขาทุคติ หลัวซิวก็เริ่มจัดวางค่ายกล สถานที่แห่งนี้ถูกเขามองว่าเป็นที่ต้องห้าม เขาจะไม่อนุญาติให้ใครก็ตามบุกรุกเข้าไป ณ ที่แห่งนี้
สงครามภายในวังเทียนหมิงสุดท้ายแล้วมีผลลัพธ์เช่นไร หลัวซิวก็ไม่ทราบแน่ชัด เขาใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนในการจัดวางค่ายกล จัดการปิดผนึกตายหุบเขาทุคติอย่างสมบูร์ ใจกลางฐานค่ายของค่ายกลทุกแห่ง อย่างด้อยที่สุดก็คือใช้ของขลังนักยุทธ์ระดับจ้าวมหาเทพ แม้กระทั่งของขลังนักยุทธ์ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ก็ยังถูกนำมาใช้ด้วยเช่นกัน
แต่เขาก็รู้ดีว่า หากภูตสวรรค์ทมิฬขับเคลื่อนวังอัมพรพุ่งเข้ามา ค่ายกลเหล่านี้ที่เขาจัดวางเอาไว้มันก็ไม่สามารถต้านทานได้เลย แต่จุดประสงค์ของเขากลับไม่ใช่การกักขังวังเทียนหมิง แต่คือการป้องกันไม่ให้มีใครอื่นสามารถบุกรุกเข้าไปได้อีก
หลังจากที่จัดการทุกสิ่งอย่างเสร็จสิ้น หลัวซิวจึงได้ผ่อนคลายความตึงเครียดลง จากนั้นก็กลับไปยังแดนปริศนาเผ่าจี้ ปล่อยจ้าวแห่งเผ่าจี้และผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ออกมาจากตำหนักวัฏสงสาร
เรื่องที่เกิดขึ้นที่วังเทียนหมิง ทำให้ในใจของจ้าวแห่งเผ่าจี้และคนอื่น ๆ ต่างยังคงเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อหวนนึกถึง พวกเขาไม่ทราบแน่ชัดว่าหลังจากนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น และก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วหลัวซิวหนีออกมาได้อย่างไร แต่กลับได้รู้จากปากของหลัวซิวว่า มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิและมหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนทั้งสองท่านถูกขังเอาไว้ด้านใน รอดกลับมายาก
“หัวหน้าเผ่า เรื่องของวังเทียนหมิงไม่พูดออกไปจะเป็นการดีที่สุด สถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดมาก เป็นสถานที่ต้องห้ามทีเดียว” หลัวซิวพูดเสียงขรึม
ไม่ต้องให้หลัวซิวเตือนก็ได้ จ้าวแห่งเผ่าจี้ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งนี้ไม่สามารถพูดคุยได้ทุกที่ มหาจักรพรรดิยุทธ์แห่งนรกภูมิและมหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนทั้งสองท่านไม่รู้เป็นตายอย่างไร ผู้อาวุโสจักรพรรดิเทพมากมายของสองสำนักมหาจักรพรรดิยุทธ์ก็ตายกันหมดไม่เหลือแม้แต่คนเดียว เรื่องนี้หากถูกกระจายออกไป เกรงว่าจะต้องเกิดการแก่งแย่งชิงอำนาจขึ้นเป็นแน่!
อีกทั้งจ้าวแห่งเผ่าจี้ก็ยังยอมรับฟังคำแนะนำของหลัวซิว ส่งบรรดาผู้แข็งแกร่งในเผ่า ไปประจำการอยู่ที่บริเวณใกล้เคียงของหุบเขาทุคติ ทำให้ทุกที่ของหุบเขาทุคติกลายเป็นเขตต้องห้าม ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้
หลังจากพูดคุยกับจ้าวแห่งเผ่าจี้และคนอื่น ๆ อยู่ชั่วครู่ หลัวซิวก็มายังค่ายใหญ่สีมาเพลา ทุกคนต่างก็กำลังพยายามเพ็ญตนกันอย่างสุดชีวิต ซึ่งมันทำให้หลัวซิวพึงพอใจอย่างมาก
เขาประเมินไว้ว่าค่ายใหญ่สีมาเพลาแห่งนี้ยังสามารถฝืนทนไปได้อีกราว ๆ สิบปี เวลาสิบปีของโลกภายนอก ท่ามกลางค่ายใหญ่สีมาเพลา ก็จะผ่านพ้นกาลเวลาไปอีกสองร้อยกว่าปี เมื่อถึงเวลานั้นซิงเฉิน จี้เสี่ยวจื่อ เหยียนซีโรว่ และเหยียนเยว่เอ๋อร์ ผลการฝึกตนของพวกนางจะต้องเติบโตขึ้นไปถึงขั้นใหม่อย่างแน่นอน
ภายในใจของหลัวซิว เขาก็มีแผนการของตนเอง รอให้ถึงวันหน้าที่ผลการฝึกตนของตนสูงขึ้น เขาสามารถนำแดนปริศนาเผ่าจี้ทั้งหมดครอบไว้ในค่ายใหญ่สีมาเพลา เมื่อถึงเวลานั้นตระกูลเทพสงครามและคนข้างกายของตน รวมถึงคนของเผ่าจี้ก็จะสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพลังของตนเอง หรือจะเป็นความแข็งแกร่งด้านพลังของมรดกก็ตาม ต่างก็จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรสมบัติและเวลา สำหรับหลัวซิวแล้ว การตบะต่อไปภายในค่ายใหญ่สีมาเพลา ถึงแม้จะทำให้ผลการฝึกตนสามารถเพิ่มขึ้นได้ แต่ก็จะเป็นการเข้าแดนอย่างเชื่องช้า เมื่อถึงเวลาสิบปีให้หลัง ผลการฝึกตนของเขาก็สามารถบรรลุได้ถึงมกุฎเทพช่วงปลายซึ่งถือว่าถึงขีดจำกัดแล้ว
ความเร็วในการฝึกตนประเภทนี้ ไม่สามารถทำให้หลัวซิวพึงพอใจได้ ดังนั้นเขาวางแผนว่าจะออกไปฝึกฝนเก็บประสบการณ์ด้านนอก ตามหาโอกาสอื่น ๆ เพื่อยกระดับความเร็วในการเพิ่มพลังผลการฝึกตน
มหาโลกาพันสาม ในยุคสมัยไท่ชูและวัฏสงสาร สองช่วงยุคสมัยใหญ่ที่ผ่านไปในอดีต ถูกเรียกว่าจักรวาลกันดาร ว่ากันว่าดาราจักรวาลแห่งนี้แต่เดิมดินแดนไม่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ เป็นเพราะเกิดมหาสงครามการนองเลือดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน จึงได้ขาดแคลนทรัพยากร ดังนั้นอย่างมากสามารถฝึกตนได้ถึงแดนเทพมารระดับหก ก็ไม่สามารถไปต่อได้แล้ว