มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 2037
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2037
ดาราทั้ง 36 ดวงที่อยู่ในจุดตันเถียนชี่ไห่แวววาวจับตามากยิ่งขึ้น ภายใต้การชุบและการขัดเกลาจากทัณฑ์สายฟ้า พลานุภาพที่แฝงซ่อนอยู่ในดาราเหล่านี้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น มาตรแม้นว่าบรรลุไม่ถึงระดับศัตราวุธราชาชั้นยอด แต่ก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่อย่างแน่นอน
ในขณะเดียวกัน พลังแห่งโลกาในจุดลมปราณทั้ง 36 จุดบนแขนซ้ายขวาของเขาก็แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นด้วย พลังและเลือดเปี่ยมล้นไปด้วยพลังที่มากกว่าเดิม
ทัณฑ์สายฟ้าดำเนินการอยู่นานมาก กระทั่งหลังจากแสงอัสนีสลายหายไปหมดแล้ว เงาร่างของหลัวซิวถึงจะค่อย ๆ ปรากฏ
เสื้อผ้าบนตัวเขาถูกผ่าจนแหลกสลายเป็นฝุ่นผงตั้งนานแล้ว หุ่นเขาสูงชะลูดสมบูรณ์แบบ กล้ามเนื้อและผิวหนังทุกส่วนล้วนเหมือนดั่งผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฟ้าดินผืนนี้
มีปรากฏการณ์ประหลาดปรากฏรอบกายเขาอย่างต่อเนื่อง หมื่นจักรวาลไร้รูปได้รับการวิวัฒนาการอย่างไม่หยุดหย่อน วิวัฒนาการการเวียนว่ายตายเกิดห้วงเวลาเป็นครั้งคราว วิวัฒนาการวิชาล้ำเลิศอย่างพลังอมตะต่าง ๆ เป็นระยะ ซึ่งทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม อัสนี หยินและหยางล้วนครอบคลุมอยู่ภายใน
ราชาเทพ!
หลัวซิวค่อย ๆ หลบตาลง สัมผัสกับพลังเทพอันมากมายมหาศาลอย่างไร้ขอบเขตที่ซัดสาดอยู่ภายในร่างกาย การตระหนักรู้ในแดนกฎก็ได้รับการยกระดับจนถึงขีดสุด ย่างเข้าสู่แดนขั้น 6!
อดีต ผลการฝึกตนของเขาสามารถก้าวข้ามสองแดนใหญ่ต่อกรกับคู่ต่อสู้ แต่ปัจจุบันเขาบรรลุถึงแดนราชาเทพแล้ว ทว่ากลับไม่มีศักยภาพในการต่อกรกับจ้าวมหาเทพ
ยิ่งถึงช่วงหลังของแดนยุทธ์ ระยะความต่างของแต่ละแดนก็จะยิ่งอยู่ยิ่งมาก ระดับความยากในการบรรลุก็ยิ่งมาก โอกาสในการท้าประลองและเอาชนะผู้ที่อยู่เหนือกว่าตนก็จะต่ำลง
ในดาราจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพยึดกุมสิทธิ์และอำนาจในระดับที่แน่นอนแล้ว สามารถควบคุมกฎดั้งเดิมขั้น 8
ทว่าหลัวซิวไม่ได้ถอดใจเพราะเรื่องนี้แต่อย่างใด แม้ในจักรวาลมีเพียงผู้ที่อยู่ระดับจ้าวมหาเทพเป็นต้นไปถึงจะถือเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง แต่เขาเพิ่งบรรลุสู่แดนเทพฟ้า ให้เวลาเขาอีกระยะหนึ่ง เขาเชื่อว่าใช้เวลาอีกไม่นาน ตนก็สามารถต่อกรกับจ้าวมหาเทพได้แล้ว
ใช้เวลาหกสิบกว่าปีถึงจะบรรลุจากเทพฟ้าขั้น 9 สู่ราชาเทพ ระดับความเร็วในการเลื่อนขั้นเช่นนี้ของหลัวซิว พูดได้เลยว่าช้ามาก ๆ แล้ว
ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ จีเสี่ยวจื่อสตรีทั้งสามนางต่างไม่ได้เฉยเมยต่อการฝึกตนของตัวเอง แม้อยู่ในโลกแสงดาวจะถูกกฎเทียนเต้ากดอัด ทว่าพวกนางกลับสามารถมุ่งหน้าไปฝึกตนบนห้วงดาราได้
ปัจจุบันฉียู่หรงก็บรรลุถึงแดนมกุฎเทพแล้ว จีเสี่ยวจื่อยิ่งบรรลุถึงมกุฎเทพขั้น 4 มีเพียงหนิงหานยู่เท่านั้น เนื่องจากสิ่งที่นางฝึกคือกฎชีวิต บวกกับแดนผลการฝึกตนที่ไม่สูงตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงบรรลุไม่ถึงแดนมกุฎเทพ แต่ก็มีผลการฝึกตนกึ่งมกุฎเทพแล้ว
หากถามว่าผู้ใดได้ดอกผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดละก็ ต้องเป็นหนิงหานยู่อย่างแน่นอน หลัวซิวได้สืบทอดหินนิรันดร์ให้นาง เนื่องจากความสามารถในการตระหนักรู้ในกฎชีวิตของนางสูงมาก ๆ ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่เกิดมาเพื่อฝึกกฎชีวิต นางเข้ากับหินนิรันดร์ได้ดีมาก ๆ ความเร็วในการพัฒนาน่าทึ่งอย่างยิ่ง
จัดการบ่วงกรรมในโลกแสงดาวเสร็จเรียบร้อย หลังจากหลัวซิวบรรลุแล้ว เขาก็เตรียมพร้อมที่จะจากไปเช่นกัน บางทีชั่วชีวิตนี้เขาอาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว
ในขณะเดียวกัน ระลอกคลื่นหลุมดำจักรวาลก็ยิ่งอยู่ยิ่งไม่มั่นคง ราวกับสามารถหายไปได้ตลอดเวลา
การปรากฏของหลุมดำจักรวาลไม่ได้คงอยู่ตลอดไป หลังจากคงอยู่ในระยะเวลาที่แน่นอนแล้ว มันก็จะสลายหายไปเองโดยธรรมชาติ บางทีหลังจากวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างนับไม่ถ้วน มันก็จะปรากฏในห้วงดาราอื่น ๆ ซึ่งไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ เลยแม้แต่น้อย
“ออกเดินทางกัน……”
เรือรบทองคำบินเข้าไปในหลุมดำและถูกส่งไปยังทิศทางตรงกันข้าม หลัวซิวและจีเสี่ยวจื่อร่วมมือกันโคจรกฎปริภูมิ ทำให้ระลอกคลื่นหลุมดำได้รับผลกระทบอย่างมาก หลังจากพวกเขาถูกส่งมายังโลกะอิมเอี๊ยงแล้ว ระลอกคลื่นหลุมดำก็หายวับไปภายในพริบตา ราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อนยังไงอย่างนั้น
เดิมทีคิดว่าหลังจากถูกส่งกลับมาแล้วจะเกิดศึกการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสิ่งที่ทำให้หลัวซิวแปลกใจคือจุดวาร์ฟทางโลกะอิมเอี๊ยงว่างเปล่ามาก เดิมทีกำลังคนของสมาคมเฟยหยางที่ตั้งมั่นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็ถอนกำลังออกไปตั้งนานแล้ว