มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1976
เดิมทีแล้วเวลาสิบปีไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่แต่อย่างใดเลย นอกจากเรื่องที่ทุกคนรู้แล้วว่ากระบี่ตรีภพตกไปอยู่ในมือของหลัวซิวแล้ว สิ่งล้ำค่าอื่น ๆ อีกสองชิ้นก็ยังคงไม่สามารถพบเบาะแสได้
ในวันนี้ ดอกถานฮวาเทียนเต้าปรากฎขึ้นแล้ว!
โดยไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้าเลยแม้แต่น้อย ดอกถานฮวาเทียนเต้าก็ปรากฏขึ้นกลางห้วงดารา แม้ไม่มีใครเคยได้เห็นดอกไม้นี้ แต่เมื่อใดก็ตามที่มีคนเห็นมัน ต่างก็รู้ได้ในทันทีว่ามันคือดอกถานฮวาเทียนเต้าในตำนาน!
มันลอยอยู่กลางห้วงดารา แสงบานสะพรั่งไร้ที่สิ้นสุด ดอกมีเก้ากลีบ ล้อมด้วยใบเขียวขจีราวกับหยกห้าใบไม้
ไม่นาน ข่าวเรื่องดอกถานฮวาเทียนเต้าปรากฎขึ้น ก็ลอยไปแพร่สะพัดเข้าหูของทุกคนทั่วทั้งแดนเทวนิรันกาล
สถานที่ที่ดอกถานฮวาเทียนเต้าปรากฏขึ้นนั้น ห่างไกลกับดาราที่พวกของหลัวซิวหยุดอยู่ ดังนั้นเมื่อหลัวซิวมาถึงที่แห่งนี้ บริเวณโดยรอบของดอกถานฮวาเทียนเต้า ต่างก็ได้มีผู้คนเข้ามาชุมนุมอย่างมากมายอยู่ก่อนแล้ว
ดอกถานฮวา ปรากฏขึ้นที่ห้วงดารา สีขาวบริสุทธิ์ไร้ตำหนิใด เปล่งประกายแสงเทวะระยิบระยับ ดึงดูดให้ความสนใจจากผู้คน
ด้านหน้าของดอกถานฮวา ยังมีคำว่า “เทียนเต้า” สองคำปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งสอกคล้องกับกฎเทียนเต้า ดังนั้นใบไม้ทั้งห้าใบที่เกิดขึ้นภายใต้ดอกถานฮวา จึงเรียกว่า “เทียนเย่” เต็มไปด้วยความลึกลับของกฎเทียนเต้า
เมื่อหลัวซิวมาถึงที่แห่งนี้ ก็สัมผัสได้ถึงออร่าวันคืนอันเป็นนิรันดร์ได้ ออร่าชนิดนี้กำเนิดขึ้นจากกฎเวลา กระทั่งอยู่เหนือกว่ากฎเวลาเสียด้วยซ้ำ
สิ่งล้ำค่าที่สอดคล้องกับกฎเวลาหรือ?
นัยน์ตาเรียวรี่ลงเล็กน้อย หลัวซิวมองไปยังที่ที่ห่างไกล ท่ามกลางกฎเทียนเต้ามากมาย สี่กฎใหญ่ชั้นยอดก็ยังคงเป็นที่ยอมรับว่าเป็นกฎที่แข็งแกร่งที่สุด และหนึ่งในสี่กฎนั้นกฎที่ลึกลับมากที่สุด ฝึกตนยากที่สุด ตระหนักรู้ยากที่สุด ก็คือกฎเวลา
อย่างน้อย ๆ วันคืนที่ผ่านมานับตั้งแต่สมัยโบราณกาลจนถึงปัจจุบัน มหาจักรพรรดิยุทธ์ไร้เทียมทานในห้วงดารารุ่นแล้วรุ่นเล่า ไม่มีสักคนที่อาศัยการฝึกตนกฎเวลาจนบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์
ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็สังเกตพบว่า ภายในรัศมีขอบเขตที่ดอกถานฮวาเทียนเต้าส่องประกายแสงเทวะออกมานั้น ได้มีนักปราชญ์อัจฉริยะจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ แต่ทว่าท่าทางและสีหน้าของแต่ละคนนั้น ต่างก็หยุดอยู่ที่วินาทีนั้น
วินาทีที่ดอกถานฮวาปรากฏขึ้น ความงดงามของสรรพสิ่งหายไปเพียงชั่วพริบตา ทว่ายังคงอยู่ชั่วนิรันดร์ราวกับดอกไม้ไฟ ซึ่งสิ่งนี้ได้สอดคล้องกับ พลังอมตะการหยุดเวลา
ใจกลางของดอกถานฮวาเทียนเต้า แสงเทวะสีขาวครอบคลุมอาณาบริเวณ ราวกับเป็นอาณาจักรของกฎเวลา ไม่ว่าจอมยุทธ์ผู้ใดที่บุกรุกเข้าไปภายในขอบเขตอาณาจักรแห่งนี้ ต่างก็จะถูกตรึงเอาไว้ในห้วงเวลาที่หยุดนิ่ง
คนเหล่านี้ต่างก็เป็นกลุ่มคนที่พบเจอดอกถานฮวาเทียนเต้าเป็นกลุ่มแรก ๆ เดิมคิดว่าตนได้บังเอิญประสบเข้ากับโอกาสและโชคลาภอันยิ่งใหญ่เข้าให้แล้ว แต่ในความเป็นจริง แม้แต่จะเข้าไปใกล้ ๆ ดอกถานฮวาเทียนเต้าก็ยังทำไม่ได้
“ดาวสังหารชุดดำมาแล้ว! ”
เมื่อกลุ่มหลัวซิวปรากฏตัวขึ้นที่นี่ นักปราชญ์อัจฉริยะมากมายต่างแสดงสีหน้าที่เคร่งขรึมและวิตกกังวล
ในเวลานี้ภายในแดนเทวนิรันกาล ชื่อเสียงของดาวสังหารชุดดำดังกระฉ่อนไปทั่วทุกสารทิศ ก่อนนี้คือมู่ช่าวหวงแห่งตระกูลมู่สรรพสิทธิ์ จากนั้นก็เป็นโชคลาภแห่งโอรสสวรรค์แย่งชิงกระบี่ตรีภพมาได้ ทั้งสองอัจฉริยะไร้เทียมทานต่างก็ตายด้วยน้ำมือของเขา หล่อหลอมจนชื่อเสียงความดุร้ายที่โด่งดัง!
ฝูงชนที่พากันห้อมล้อมดอกถานฮวาเทียนเต้าอยู่ใกล้ ๆ หลีกทางให้พวกของหลัวซิวก้าวเข้าไปด้านหน้าอย่างราบรื่น ไม่มีใครกล้าขัดขวางพวกเขา
หลัวซิวสองมือไพร่หลังเดินก้าวเข้าไปข้างหน้า หญิงสาวสามคนเดินตามเขาอยู่ด้านหลัง จีเสี่ยวจื่อที่สวมชุดสีม่วง มีนิสัยแตกต่างจากคนทั่วไป ยังมีเสิ่นปิงหยูที่มีใบหน้าเยือกเย็นราวกับเทพเซียน ครอบครองความงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้
เมื่อเทียบกันกับทั้งสองคนนี้ เชี่ยนหยุนค่อนข้างจะถูกกลืนไปมากทีเดียว แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นหนึ่งในเทพธิดาท้ายแถวแห่งวังมหาวาล อ่อนโยนราวกับสายน้ำ อากัปกิริยานุ่มนวลชวนมอง
ที่บริเวณนอกเขตอาณาเวลาของดอกถานฮวาเทียนเต้า หลัวซิวมองเห็นพระโอรสจ้านเทียน อีกฝ่ายก็มองกลับมาทางเขาด้วยสายตาเฉียบคมเช่นเดียวกัน
ถึงแม้จะเคยเสียเปรียบในการต่อสู้ระหว่างโชคลาภแห่งโอรสสวรรค์และหลัวซิว แต่พระโอรสจ้านเทียนไม่ว่าจะไปแห่งหนใด เขาก็ยังเป็นความภาคภูมิใจของทุกสายตา รอบตัวเขารวบรวมบุคคลที่โดดเด่นมากมายจากสำนักจักรพรรดิแดนศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกแห่งหน