มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1928
ฮู้หลบซ่อนขึ้นชื่อว่าสามารถทำให้หนีรอดจากการไล่ล่าของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพได้ เช่นนั้นหลังจากที่บีบมันจนแตกสลายแล้ว ระยะห่างที่ถูกส่งไปต้องห่างกันไกลมากแน่นอน อย่างน้อยก็สามารถหนีพ้นจากขอบเขตที่ใหญ่ที่สุดที่ตัวสำนึกของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพสามารถตรวจสอบได้
หลัวซิวคาดการณ์ว่าสถานที่ตนอยู่ ณ บัดนี้ อย่างน้อยก็ห่างจากสถานที่ที่เข่นฆ่ากับมู่ช่าวหวงหลายสิบล้านไมล์ หรืออาจจะไกลกว่านั้น
“ศิษย์พี่ ท่านได้รับบาดเจ็บ!”
จีเสี่ยวจื่อก็เกิดอาการตระหนกตกใจอยู่เล็กน้อยเช่นกัน พลานุภาพของแสงกระบี่สีเลือดที่ถูกกระตุ้นโดยฮู้เทวโจมตีสรรพสิทธิ์นั่นสูงเทียมฟ้า ณ เสี้ยววินาทีนั้น นางคิดว่าตนและศิษย์พี่ต้องเสียชีวิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้แน่นอน
ถึงแม้จะอาศัยฮู้หลบซ่อนหนีรอดมาได้ ทว่าก็ยังถูกจิตสังหารที่น่าทึ่งนั่นโจมตีจนบาดเจ็บอยู่ดี มีการคุ้มกันจากหลัวซิว จีเสี่ยวจื่อจึงไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ แต่ทว่าบนตัวหลัวซิวกลับไม่มีผิวหนังส่วนใดที่สมบูรณ์เลย
ยิ่งกว่านั้นคือเลือดเนื้อบนตัวเขาก็ระเนระนาดย่ำแย่สุด ๆ กลายเป็นเนื้อเละ ๆ ทุกจุดจนเผยให้เห็นกระดูกที่อยู่ภายใน แม้แต่บนกระดูกก็เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยร้าว
“ข้าไม่เป็นไร หาสถานที่รักษาบาดแผลก่อนเถิด”
หลัวซิวส่ายหน้า เขาฝึกยุทธ์จนถึงปัจจุบัน บาดแผลที่ได้รับมีมากจนไม่รู้ตั้งกี่หน ในอดีตเคยมีหลายครั้งที่บาดเจ็บสาหัสจนเกือบตาย สภาพอาการบาดเจ็บเช่นนี้มากสุดก็แค่ทำให้เขารู้สึกเจ็บจนขมวดคิ้วเพียงครู่เดียวเอง
“อ้อ เจ้าค่ะ……”
หลัวซิวไม่สนใจสภาพอาการบาดเจ็บบนร่างกายตัวเอง แต่ทว่าจีเสี่ยวจื่อกลับรู้สึกเจ็บใจมาก ๆ เนื่องจากนางทราบอยู่ว่าหากไม่ใช่เพื่อคุ้มกันตนเองละก็ ศิษย์พี่ไม่มีทางบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้แน่นอน
“ยัยซื่อบื้อ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก กฎที่ศิษย์พี่เจ้าฝึกน่ะคือกฎชีวิตเชียวนะ บาดแผลแค่นี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก”
เมื่อเห็นว่าเบ้าตาของจีเสี่ยวจื่อแดงก่ำ บนใบหน้าก็มีอารมณ์ที่ตำหนิตัวเอง หลัวซิวจึงยิ้มพลางปลอบใจนาง
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ทั้งสองก็เจอภูเขาที่รกร้างลูกหนึ่ง หลัวซิวทำการจัดวางค่ายกลไว้ที่นี่อย่างแน่นหนาก่อน จากนั้นก็บุกเบิกถ้ำแห่งหนึ่งบนภูเขาที่รกร้างลูกนี้ แล้วรีบปิดขังรักษาบาดแผลอย่างรวดเร็ว!
ในขณะที่รักษาโดยการใช้ร่างอมตะควบคู่กับกฎชีวิต หลัวซิวก็ยื่นมือเข้าไปในอก แต่ทว่าเขากลับหยิบจับอะไรไม่ได้เลย
หินนิรันดร์หายไปแล้ว!
นี่จึงทำให้สีหน้าของหลัวซิวหม่นหมองลงไปภายในพริบตา เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะเขามีร่างอมตะ เปลี่ยนเป็นผู้อื่นถ้าไม่ตายก็ต้องสูญเสียชีวิตไปเกือบครึ่ง หรือว่าเป็นการคว้าน้ำเหลว ไม่ได้รับผลสำเร็จหรือสิ่งตอบแทนใด ๆ กลับมา?
ยิ่งกว่านั้นคือเขายังทิ้งดาราโบราณมกุฎเทพสี่ดวงเพื่อการนี้อีก นั่นมันสมบัติสำคัญที่จ้าวมหาเทพแสงดาวถ่ายทอดสืบสานให้เขาเชียวนะ!
แต่ทว่าไม่นานนักหลัวซิวก็พบว่าเกิดความผิดปกติกับร่างกายตัวเอง ซึ่งดูเหมือนกับว่าความผิดปกติเช่นนี้จะไม่ใช่เรื่องร้ายอะไร นั่นก็คือราวกับว่าความเร็วที่สภาพอาการบาดเจ็บของเขาฟื้นฟูเร็วกว่าอดีตหลายเท่าตัว
ความสามารถในการฟื้นฟูของร่างอมตะวิปริตมาก ๆ ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ความเร็ว ณ ปัจจุบันกลับเร็วขึ้นหลายเท่าตัว นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
ใช้ตัวสำนึกพิเคราะห์ภายในร่างกาย จากนั้นหลัวซิวก็ค้นพบหินนิรันดร์ในจุดตันเถียนของเขา
ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกขี้ประจบก็ปรากฏในตัวหยั่งรู้ของเขา ซึ่งก็คือความรู้สึกที่มนุษย์หินมดที่กลายมาจากหินนิรันดร์ประสานกับเขา ในขณะเดียวกันก็มีการถ่ายทอดข่าวคราวในการยอมรับเป็นนายด้วย
ยอมรับเป็นนาย?
ในจุดตันเถียนชี่ไห่ของเขามีดาราสีทอง 18 ดวง ดารากฎ 16 ดวงลอยขึ้น ๆ ลง ๆ ส่วนหินนิรันดร์นั้นกลับปรากฏบนดารากฎชีวิตดวงหนึ่ง อีกทั้งมีออร่ากฎชีวิตที่บริสุทธิ์มากกว่าทะลุออกมาจากหินนิรันดร์ ทำให้หลัวซิวรู้สึกว่าตัวเองสามารถรับรู้ได้ถึงความเร้นลับของกฎชีวิตได้ทุกวินาที
ในขณะเดียวกัน จากข่าวคราวที่ส่งตรงมาจากหินนิรันดร์ ทำให้หลัวซิวรู้แจ้งอย่างฉับพลัน ไม่นึกเลยว่าจะมีความเร้นลับของการมีชีวิตคงอยู่ชั่วนิรันดรแฝงซ่อนอยู่ภายในหินนิรันดร์จริง ๆ
ในส่วนของคำว่านิรันกาลที่อยู่ในชื่อของหินนิรันดร์นั้น สื่อเป็นนัยว่าสิ่งที่อยู่เหนือกฎชีวิตก็คือเกณฑ์นิรันดร์!
กฎก็คือฟ้าดิน เมื่อนักยุทธ์ฝึกกฎถึงแดนขั้น 10 บริบูรณ์ ก็จะเป็นผู้ไร้เทียมทานในเก้าสวรรค์สิบปฐพี เสมอภาคกันกับจักรวาลฟ้าดิน