มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1920
“อ๊ากก!”
ศิษย์สนิทคนดังกล่าวของหอยอดอัมพรกรีดร้องอย่างน่าเวทนา เขาเบิกตาจนดวงตากลมโต ผวาจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง
ฟึ่บ!
หลัวซิวสะบัดหอกมังกรแดงเลือดมืดในมือทีหนึ่ง แรงฮึดที่เกะกะระรานปะทุ ร่างกายของศิษย์สนิทคนดังกล่าวของหอยอดอัมพรก็กลายเป็นหมอกเลือดปกคลุมท้องฟ้าภายในชั่วพริบตาเดียว ตายโดยสิ้นซาก
“ไอ้สารเลว ไปตายซะ!”
หยุนเทียนหยูตวาดเสียงดัง แสงเขียวที่อยู่ด้านหลังเขาทะลักมารวมตัวกัน กลายเป็นไม้โบราณยอดอัมพรต้นหนึ่ง ใบไม้ทุกใบใสพร่างพราว ใบไม้พัดโบกเหมือนดั่งกระบี่ที่เฉียบคม ทะลวงอนัตตา ครอบผืนฟ้าและปฐพี
สีหน้าของหลัวซิวไร้อารมณ์ กวัดแกว่งหอกมังกรแดงมืด เปลวไฟที่ลุกโชนเต็มท้องฟ้าซัดสาดคำราม แผดเผาพลังโจมตีทั้งปวงจนว่างเปล่า
อัคคีเทพซิวหลัวของเขาคือเปลวไฟขั้นดำชั้นสูง ซึ่งมีกฎเพลิงอัคคีขั้น 7 แฝงซ่อนอยู่ และมีเพียงผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพช่วงปลายเท่านั้นถึงจะสามารถยึดกุมพลังแห่งกฎระดับนี้ได้
อีกฝั่งหนึ่ง ในขณะที่ตวนมู่ชางกำลังจะลงมืออยู่นั้น จีเสี่ยวจื่อก็พุ่งตรงเข้ามาแล้ว อาศัยผลการฝึกตนมกุฎเทพที่เพิ่งบรรลุในเมื่อครู่นี้ ตวนมู่ชางที่อยู่ในเงื้อมมือนางไม่ได้เปรียบใด ๆ เลยด้วยซ้ำ
หลัวซิวโคจรกฎปริภูมิ ทุกครั้งที่เงาร่างเขาหายวับไป ก็จะไปปรากฏตรงหน้าลูกศิษย์คนหนึ่งของหอยอดอัมพรเสมอ จากนั้นเขาแค่แทงหอกออกไปทีเดียว ก็จะไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานมันไว้ได้
ศิษย์สนิทในหอยอดอัมพรเหล่านี้ ชะตาชีวิตของทุกคนล้วนไม่ธรรมดา เป็นอัจฉริยะที่สติปัญญาล้ำเลิศ ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับหลัวซิวแล้ว คนเหล่านี้ก็น้อยนิดจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึงเลยด้วยซ้ำ
“หมื่นจักรวาลไร้รูป!”
หลัวซิวโคจรพลังอมตะ ด้านหลังเขาก็มีไม้เซียนยอดอัมพรปรากฏหนึ่งต้นเช่นกัน
“เจ้า……เจ้าใช้พลังจักรพรรดิในหอยอดอัมพรของเราได้อย่างไร?”
หยุนเทียนหยูตกตะลึงมากจนหน้าถอดสี ปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดจากไม้เซียนยอดอัมพร มีเพียงผู้ที่ฝึกพลังจักรพรรดิเท่านั้นถึงจะสามารถแสดงออกมาได้ และสิ่งที่ยิ่งทำให้เขายอมรับไม่ได้คือปรากฏการณ์ประหลาดจากไม้เซียนยอดอัมพรของหลัวซิวสูงส่งกว่าเขามาก อำนาจบารมีแข็งแกร่งกว่าเขา
หรือว่าเขารู้ซึ้งในพลังจักรพรรดิของหอยอดอัมพรมากกว่าตัวเองที่เป็นศิษย์สืบทอดแท้จริงของหอยอดอัมพร?
หลัวซิวเบื่อที่จะพูด สาเหตุที่เขาริเริ่มพลังอมตะของหมื่นจักรวาลไร้รูปนั้น ก็เพื่อจะใช้วิชาไร้รูปมาวิวัฒนาการวิชามีรูปทั้งปวงในจักรวาลฟ้าดิน
ภายในลูกแก้วความเป็นตายมีเงาสะท้อนของวัฏสงสาร ภายในบรรจุวรยุทธ์และเคล็ดวิชาของผู้แข็งแกร่งในอดีตชาติ ซึ่งพลังจักรพรรดิยอดอัมพรก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน หลัวซิวจึงสามารถใช้พลังอมตะของหมื่นจักรวาลไร้รูปมาวิวัฒนาการมันได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ยิ่งกว่านั้นคือในพลังอมตะเหล่านี้ มีแดนยุทธ์และการตระหนักรู้ของตัวหลัวซิวเองรวมอยู่ด้วย จึงทำให้พลานุภาพของมันทรงพลังกว่าพลังอมตะที่ผู้อื่นปลดปล่อยออกมา
ตู้มม!
ไม้เซียนยอดอัมพรทั้งสองต้นพุ่งชนเข้าด้วยกัน เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นที่น่ากลัวม้วนซัดไปทั่วทุกสารทิศ เหมือนดั่งดาวหางพุ่งชนโลก
หยุนเทียนหยูแหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วกระอักเลือด ร่างกายเขาลอยกระเด็นออกไป ปรากฏการณ์ประหลาดจากไม้เซียนยอดอัมพรที่เขาผนึกรวมโดยพลังจักรพรรดิ ถูกหลัวซิวโจมตีจนแตกสลายไปแล้ว
“เผ่น”
เมื่อเห็นว่าหยุนเทียนหยูยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซิวเลยด้วยซ้ำ ศิษย์สนิทสองคนสุดท้ายที่เหลือของหอยอดอัมพรตกตะลึงพรึงเพริด หันหลังแล้วหนีเอาชีวิตรอด
หลัวซิวกางฝ่ามือข้างหนึ่งออก แผนที่ดาวก็ปรากฏ ก่อนจะมีดาราที่เต็มท้องฟ้าร่วงหล่นลงมา เสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาดังขึ้นติดต่อกันสองครั้ง ศิษย์สนิทสองคนนั้นของหอยอดอัมพรที่อยากหลบหนี ถูกดาราจำนวนมากพุ่งชนจนร่างกายกลายเป็นเนื้อเละโดยตรง
เมื่อตวนมู่ชางเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวจึงตกใจมากจนใบหน้าขาวซีด เขานึกอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าศักยภาพของหลัวซิวจะแข็งแกร่งเช่นนี้ ศิษย์สนิทเหล่านั้นของหอยอดอัมพร มีผู้ใดบ้างที่ไม่ใช่ผู้มีสติปัญญาล้ำเลิศ มีผู้ใดบ้างที่ผลการฝึกตนไม่ถึงกึ่งมกุฎเทพ?
แต่ทว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ในกำมือของหลัวซิว กลับถูกสังหารง่ายดั่งฆ่าหมูฆ่าไก่ ฆ่าสังหารได้อย่างสบายมือ
ต้องท้าวความก่อนว่าศิษย์สนิทเหล่านั้นของหอยอดอัมพร ทุกคนล้วนเป็นผู้ที่สามารถปะทะกับผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิ ยิ่งกว่านั้นคือยังเป็นอัจฉริยะที่กล้าเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพช่วงปลาย!
ภายใต้สถานการณ์ที่จิตใจของตวนมู่ชางไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขากลับพบว่าจีเสี่ยวจื่อที่อยู่ตรงหน้าตัวเองหายวับไปกะทันหัน แล้วปรากฏด้านหลังเขาโดยตรง