มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1605
สิ่งนี้สามารถยืนยันได้ว่า สำนักทองเหลืองโบราณก็ยังคงมีความอันตรายอยู่ไม่น้อย สิ่งนี้ทำให้เหล่าผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพของกองกำลังต่าง ๆ เผยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดออกมา
เมื่อใดก็ตามที่เข้าสู่เขตพื้นที่รัศมีหมื่นลี้ของสำนักทองเหลืองโบราณ ผลการฝึกตนจะถูกระงับไว้ที่แดนเทพมาร ภายใต้สมมติฐานที่ว่าคนส่วนใหญ่อยู่ในระดับแดนเดียวกัน นั่นก็หมายความว่าต่อให้เป็นราชาเทพหรือจะเป็นมกุฎเทพ ต่างก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยที่จะตายไป
ราชาเทพยังดีกว่าเล็กน้อย แต่มกุฎเทพทุกคนภายในโลกะอัมพรเทวต่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น ไม่มีที่ว่างสําหรับความผิดพลาด โดยทั่วไปแล้วย่อมไม่เลือกที่จะมีส่วนร่วมในความเสี่ยงดังกล่าว
เริ่มเดินทางจากเมืองสู่ฟ้า หลัวซิวก็ตรงไปยังทิศทางของเหวญาณปีศาจ การเดินทางไปครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อค้นหาโอกาสและโชคลาภ เพียงแต่วางแผนว่าจะเดินสำรวจไปทั่ว ๆ โลกะอัมพรเทว และทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟ้าดินแห่งนี้เสียหน่อย
ระหว่างทาง เขาเห็นว่ามีนักยุทธ์จำนวนมากรวมกลุ่มบินผ่านท้องฟ้าไป เมื่อเข้าใกล้ตำแหน่งของเหวญาณปีศาจมากขึ้นเรื่อย ๆ ความเร็วของหลัวซิวกลับช้าลงมา สีหน้าก็เคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะเขารับรู้ได้ถึงการสั่นสะท้านของวิญญาณดั้งเดิมของตน!
การสั่นประเภทนี้ ไม่ได้มีที่มาจากตัวของวิญญาณดั้งเดิมเอง แต่มันมากจากลูกแก้วความเป็นตายที่ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณดั้งเดิมมาเนิ่นนานแล้ว
โดยการสอบถามของเขา ดูเหมือนการปรากฏตัวของสำนักทองเหลืองโบราณ ก็เป็นช่วงเวลาพอดีกับที่เขามาถึงยังโลกะอัมพรเทว
สิ่งนี้ทำให้หลัวซิวรู้สึกว่า การปรากฏขึ้นของสำนักทองเหลืองโบราณ มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา พูดให้ชัดเจนก็คือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกแก้วความเป็นตายท่ามกลางวิญญาณดั้งเดิมของเขา
การคาดเดานี้ ทำให้หลัวซิวตั้งการ์ดขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ มันเหมือนกับที่เขามักจะรู้สึกถึงวิกฤตครอบคลุมขั้วหัวใจของเขาอยู่ในช่วงนี้
“บางทีวิกฤตที่รู้สึกเมื่อเร็ว ๆ นี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับสำนักทองเหลืองโบราณ มันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยปัญหา ข้าไม่ควรเข้าไป”
หลัวซิวเกิดความกังวลขึ้นในใจ โชคดีที่หยุดฝีเท้าลง ล้มเลิกแผนการที่จะตรงไปยังเหวญาณปีศาจเพื่อเข้าไปสำรวจดูสำนักทองเหลืองโบราณแห่งนั้น
หลักการที่ว่าแมวมักจะตายเพราะความขี้สงสัยนั้นเขารู้ดีกว่าใคร เขาตระหนักดีถึงความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา มันยังอ่อนแอมากสำหรับการมีอยู่ของความเก่าแก่ที่แอบซ่อนอยู่ในความมืด
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่หลัวซิวหยุดฝีเท้าลงและกำลังจะหมุนตัวจากไป วิญญาณดั้งเดิมที่อยู่ภายในตัวหยั่งรู้ของเขาก็พลันสั่นไหวอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม เทพแห่งวัฏจักรชีวิตภายในลูกแก้วความเป็นตาย น้อยครั้งเหลือเกินที่จะมีความคิดที่จะเป็นฝ่ายเริ่มรสื่อสารกับเขาก่อน
“ที่แห่งนั้นเจ้าจำต้องไปสักครั้ง มันคือที่แห่งโอกาสของเจ้า” เสียงของเทพแห่งวัฏจักรชีวิตดังก้องอยู่ภายในตัวหยั่งรู้ของหลัวซิว
“เจ้าแน่ใจหรือว่ามันคือโอกาส ไม่ใช่ความตาย?” หลัวซิวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
เขาเชื่อว่าเทพแห่งวัฏจักรชีวิตจะไม่ทำร้ายเขา แต่ที่เขาสามารถเปลี่ยนจากความอ่อนแอมาจนเดินมาถึงทุกวันนี้ได้ ก็เพราะนิสัยที่ระแวดระวังนั้นช่วยชีวิตของเขาเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง
“เป็นโอกาสแน่แท้ เพราะข้าสัมผัสได้ถึงออร่าของตำหนักวัฏจักรชีวิต” เทพแห่งวัฏจักรชีวิตตอบกลับมาเช่นนี้
“ตำหนักวัฏจักรชีวิต?” หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงข่าวลือของสำนักทองเหลืองโบราณ หรือว่าสำนักทองเหลืองโบราณนั่น ก็คือตำหนักวัฏจักรชีวิต?
วัฏจักรชีวิตสองคำนี้ เต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะคาดเดาได้ ว่ากันว่ากฎการเวียนว่ายตายเกิดดั้งเดิมถูกสร้างขึ้นเป็นวงล้อ กฎห้วงเวลาดั้งเดิมสร้างขึ้นเป็นรอบที่สมบูรณ์แบบ เมื่อรวมเข้าด้วยกัน นั่นก็คือวัฏจักรชีวิต
รอบที่สมบูรณ์แบบนั้น ประกอบไปด้วยประตูสองบาน แบ่งเป็นตัวแทนของเวลาและปริภูมิ เปรียบได้ว่าเวลาอยู่ภายในปริภูมิ ส่วนภายในปริภูมิก็ประกอบไปด้วยเวลา ห้วงเวลากลายเป็นจักรวาล
หลัวซิวฝึกตนด้วยพลังจุติมรณะ ใช้กฎการเวียนว่ายตายเกิดหลอมรวมเป็นวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ สิ่งที่ฝึกนั้นก็คือหนึ่งในวงล้อของวัฏจักรชีวิต
เขาได้รับรู้ถึงวัฏจักรชีวิตในตอนที่อยู่ในโลกแสงดาว และก็เคยสร้างตำหนักวัฏสงสารไว้ที่สำนักไท่เสวียนอีกด้วย แต่คาดไม่ถึงว่า บนโลกจะยังมีตำหนักแห่งนี้อยู่จริง ๆ นั่นก็คือตำหนักวัฏจักรชีวิต
“ตำหนักวัฏจักรชีวิตสำหรับข้า เป็นโอกาสเช่นไร?” หลัวซิวเอ่ยถามต่อ
“วัฏจักรชีวิตดำรงอยู่ระหว่างฟ้าดิน ฟ้าดินเมื่อพูดถึงส่วนที่เล็กที่สุดก็คือโลกาดาราดวงหนึ่ง หากพูดถึงส่วนที่ใหญ่ขึ้นมาก็คือทั่วทั้งดาราจักรวาล ยังมีอีกคำอธิบายหนึ่ง ร่างกายมนุษย์ก็คือฟ้าดิน สามารถเป็นได้ทั้งดวงดารา และก็สามารถเป็นได้ทั้งจักรวาล”