มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1474
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1474
“ทลายซะ!”
หลัวซิวจิ้มนิ้วออกไปหนึ่งนิ้ว พลังเทพกฎความตายผนึกรวมกันเป็นมังกรกระบี่สีดำแล้วพุ่งคำรามออกไป ค่ายกลจำนวนมากที่กำลังปล่อยพลานุภาพออกมาต่างถูกทำลายจนแตกสลาย
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
ในตำแหน่งที่ห่างออกไปไกล สีหน้าของนักค่ายเทพจำนวนมากต่างเปลี่ยนไป ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งราชาเทพ ก็ไม่มีทางทำลายค่ายกลที่มากมายขนาดนี้ได้ง่ายดายเช่นนี้อย่างแน่นอน
“โฮก!”
เสียงคำรามที่ดังเลือนลั่นจนสะเทือนฟ้าสะเทือนดินดังก้องกังวานขึ้น อสูรดูดจิตโบราณพุ่งฆ่าไปข้างหน้าโดยที่ไม่เกรงกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย
อสูรดูดจิตโบราณที่วิวัฒนาการถึงระดับเทพฟ้า สามารถข่มเทพฟ้าทั่วไปได้อย่างแน่นอน สรีระที่เกะกะระรานทำให้มันสามารถมองข้ามการโจมตีของเทพฟ้าทั่วไปได้โดยสิ้นเชิง และทุกครั้งที่มันแยกเขี้ยวตะปบเล็บ ล้วนสามารถสังหารเทพฟ้าคนหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
การดับสลายสูญสิ้นและการเสียชีวิตของเทพฟ้าแต่ละคนมิได้ทำให้มันรู้สึกหวาดกลัวเลย จำนวนคนที่รุมโจมตีเข้ามายิ่งอยู่ยิ่งมาก รังสีของพลังอมตะต่าง ๆ รวมไปถึงพลังออร่าที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวนักยุทธ์ได้อบอวลไปทั่วทั้งห้วงดารา
ความเหิมเกริมของอสูรดูดจิตโบราณสูงเทียมฟ้า มันคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายหลัวซิวอย่างจงรักภักดี สังหารศัตรูทุกคนที่บุกเข้ามาโจมตี ช่วยเขาต้านทานการโจมตีไปได้เยอะมากจนหาที่สุดไม่ได้
ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็ปลดปล่อยกำลังรบออกมาหมดเช่นกัน โคจรพลังจุติมรณะ เคล็ดวิชาจุดลมปราณและเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าพร้อมกัน!
ด้านหลังเขามีวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพขนาดใหญ่ปรากฏ และบนวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพนี้ มีดวงดาวสองดวงเป็นประกายระยิบระยับ มีรัศมีเทวที่ไร้ขอบเขตเปล่งประกาย
ถัดจากนั้นเขาก็โบกมือทีหนึ่ง มีแผนที่ดาวรูปหนึ่งปรากฏกลางอากาศ บนแผนที่ดาวมีดวงดาวที่มืดมัว 18 ดวง มีพลังออร่าที่เรียบง่ายและโบราณแผ่กระจายออกมาจากดวงดาวทั้ง 18 ดวง
“ผังดาวตก!”
หลัวซิวตวาดเสียงทุ้ม ดวงดาวทั้ง 18 ดวงในแผนที่ดาวบินลอยขึ้น ก่อนจะพุ่งชนเหล่าเทพฟ้าที่บุกเข้ามาฆ่าเขา
ดาวตกที่ว่านั้น เป็นสิ่งที่วิวัฒนาการมาจากภาพเหตุการณ์และพลานุภาพเมื่อดาวตกนั่นเอง ซึ่งไม่ใช่พลังที่เทพฟ้าจะสามารถต้านทานได้
และผังดาวตกที่แสดงออกมานั้น ดวงดาวที่อยู่บนแผนที่ยิ่งเป็นดาราชีวีที่ผนึกรวมขึ้นมาโดยผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพ มาตรแม้นว่าจากระดับผลการฝึกตนของเขาจะแสดงพลานุภาพออกมาได้เพียงเสี้ยวเดียว แต่ทว่ามันก็เป็นพลังที่น่าสยดสยองมากถึงมากที่สุดแล้ว
ยึดหลัวซิวและอสูรดูดจิตโบราณเป็นจุดศูนย์กลาง พื้นที่โดยรอบสามร้อยกว่าเมตรกลายเป็นเขตต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นเทพฟ้าหรือเจ้านภา ขอเพียงย่างกรายเข้ามาในเขตต้องห้ามดังกล่าว ก็จะถูกสังหารในทันที
ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่อยู่ในศึกสงครามอันยาวนาน กำลังและผลการฝึกตนที่สูญเสียไปนั้นจะเยอะมาก ๆ แต่ทว่าหลังจากหลัวซิวฝึกเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าสำเร็จแล้ว ดวงดาวที่ผนึกรวมอยู่ในจุดตันเถียนชี่ไห่เหมือนมีพลังที่มากมายมหาศาลอย่างไร้ขอบเขตแฝงอยู่ยังไงอย่างนั้น ทำให้เขาสัมผัสไม่ได้ถึงผลการฝึกตนที่แห้งเหือดเลยแม้แต่น้อย
ในช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว ดวงดาวที่ผนึกรวมอยู่ในจุดตันเถียนชี่ไห่ ราวกับสามารถดึงดูดพลังที่มากมายมหาศาลในจักรวาลมาทดแทนได้ยังไงอย่างนั้น!
นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก พลางนึกในใจว่าสมแล้วที่วรยุทธ์นี้เป็นพลังอมตะที่อยู่ในระดับเดียวกันกับกฎจักรวาลดั้งเดิม
เนื่องจากวรยุทธ์ดังกล่าวอยู่ในระดับเดียวกันกับกฎจักรวาลดั้งเดิม ด้วยเหตุนี้ขอเพียงเป็นพลังที่อยู่ในจักรวาลแห่งนี้ ล้วนสามารถถูกมันดึงดูดมาใช้งานได้
หลัวซิวยิ่งสู้ยิ่งฮึกเหิม ดูไม่สูญเสียพลังใด ๆ เลยแม้แต่น้อย เทพฟ้านับพันถูกเขาสังหารไปกว่าครึ่งแล้ว
คนอื่นที่เหลือต่างกลัวสุดขีด ไม่กล้าเข้าไปอีก
มีหมอกเลือดจำนวนมากล่องลอยอยู่กลางห้วงดารา รวมไปถึงซากศพที่เละเทะ นี่มันเป็นการสังหารหมู่ที่เอียงไปทางหลัวซิวฝ่ายเดียว ไม่มีการโจมตีของผู้ใดเข้าใกล้หลัวซิวได้เลย
“อ๊ากก! ……”
เสียงกรีดร้องโหยหวนอันน่าเวทนาดังขึ้น เจ้านภาที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของตำหนักหลักเมืองถูกหลัวซิวใช้มือใหญ่บีบร่างไว้ และถูกบดละเอียดเป็นเนื้อเละ ๆ
“ตราธรรมจุติมรณะ!”
หลัวซิวใช้มือทั้งสองข้างประสานอินอย่างซับซ้อน วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่อยู่ด้านหลังหมุนอย่างบ้าคลั่ง จนก่อเป็นพลังแห่งการดูดกลืนที่ยิ่งใหญ่
ร่างกายของนักยุทธ์เทพฟ้าทุกคนล้วนอยู่เหนือการควบคุม ต่างบินตรงไปทางวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ