มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1129
ทันทีที่สุดฝึกกฎใหญ่ทั้งสี่ถึงแดนที่สูงและลึกพร้อมกัน ความเป็นตายและห้วงเวลารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแข็งแกร่งมากถึงระดับไหนกันนะ
อย่างไรก็ตามการตระหนักรู้ในทุก ๆ กฎชั้นยอดล้วนทำได้ยากมาก ๆ ยิ่งถึงช่วงหลัง ๆ การเลื่อนระดับแดนกฎก็จะยิ่งยาก และนี่ก็เป็นสาเหตุที่จอมยุทธ์ทุกคนล้วนทราบกันว่ากฎชั้นยอดทรงพลัง แต่กลับมีน้อยคนมากที่ยอมฝึกกฎชั้นยอด
ยกตัวอย่างเช่นคนสองคนที่มีพรสวรรค์และปัญญาเท่ากัน คนหนึ่งฝึกกฎชั้นยอด คนหนึ่งฝึกกฎธรรมดา หลังจากที่ผ่านไปหลายร้อยปี คนที่ฝึกกฎชั้นยอดฝึกตนอย่างลำบากยากเข็ญถึงจะฝึกถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ส่วนคนที่ฝึกกฎธรรมดานั้นกลับใกล้จะกลายเป็นเทพมารได้อย่างง่ายดายแล้ว
หลังจากที่ผ่านไปหลายหมื่นปี คนที่ฝึกกฎชั้นยอดจะพันธนาการติดอยู่ในแดนใดแดนหนึ่ง ไม่สามารถเลื่อนขั้นไปไหนได้แล้ว ส่วนคนที่ฝึกกฎธรรมดานั้น บางทีเขาอาจจะฝึกตนจนกลายเป็นเทพฟ้าไปแล้ว
เพราะฉะนั้นกฎชั้นยอดทรงพลังมากก็จริง แต่ความยากในการฝึกตนก็ยากมาก ๆ เช่นกัน ส่วนหลัวซิวนั้นกลับนำสี่กฎชั้นยอดรวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วฝึกตนไปพร้อมกัน เรียกได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เคยพบเห็นในประวัติศาสตร์โลกมาก่อนเลย
“โครม!”
เตาเทพบินกลับมาแล้ว ในส่วนของไอ้อ้วนจูเฟยเฉียวนั้น ถูกกลั่นแปรเป็นเถ้าธุลีตั้งแต่ตอนที่ถูกดูดเข้าไปในเตาเทพแล้ว
“อัญมณีแห่งเทพมาร ร่างปีศาจเทพ ไอ้อ้วนที่แซ่จูนี่น่าจะได้รับโอกาสดี ๆ มาไม่น้อยเลยนะ”
หลัวซิวเปิดแหวนเก็บของของจูเฟยเฉียวออกอย่างสนใจใคร่รู้ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในก็ทำให้เขาตกใจจนสะดุ้งจริง ๆ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
แม้ผลการฝึกตนของจูเฟยเฉียวจะอยู่แค่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 7 แต่จำนวนแก้วเทวที่อยู่ในแหวนเก็บของกลับมีเกือบหนึ่งแสนชิ้น ต้องท้าวความก่อนว่าภายในโลกเสวียนเทียน ทรัพย์สินของเทพมารธรรมดาทั่วไปก็มีแก้วเทวแค่หมื่นกว่าชิ้นเท่านั้น
นอกจากนี้แล้วยังมีวัตถุดิบต่าง ๆ อีกมากมาย กองสูงเป็นภูเขาอยู่ในแหวนเก็บของ
แต่สิ่งที่ทำให้หลัวซิวให้ความสำคัญมากที่สุดกลับเป็นยาเซียนที่วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบอยู่ในกล่องหยกที่ดูประณีต หลังจากที่ลองนับดูอย่างละเอียดแล้ว พบว่ามี 40 กว่าต้นเลย
“มหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งมีทรัพย์สินเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เจ้าอ้วนจูนี่ไม่ธรรมดานะ”หลัวซิวพูดอย่างตกตะลึง
พูดได้เลยว่าถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเจ้าอ้วนจูนี่ได้พบเจอกับหลัวซิว หากเปลี่ยนเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 1 คนอื่นที่ถูกเขาวางแผนทำร้ายละก็ คาดว่าคนคนนั้นต้องได้ตายอย่างไร้ข้อสงสัยแน่นอน
เมื่อก่อนถังหยุนเคยบอกว่าบรรดาลูกศิษย์ทั้งหมดในสำนักศักดิ์สิทธิ์ เจ้าอ้วนจูนี่เป็นคนที่มนุษย์สัมพันธ์แย่ที่สุด อาศัยที่ตัวเองเป็นนักกลั่นยามหาจักรพรรดิยุทธ์ระดับ 9 ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เขาไถรีดทรัพย์สินไปได้ไม่น้อยเลย
ทางสำนักไม่ได้ห้ามลูกศิษย์กลั่นยาเป็นการส่วนตัว เนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดที่เจ้าอ้วนจูไปไถรีดมานั้นเป็นจำนวนที่ยากที่จะจินตนาการได้สำหรับคนอื่น แต่สำหรับสำนักศักดิ์สิทธิ์แล้ว มันเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีค่าที่จะพูดถึงเลยด้วยซ้ำ
“วิชายาชิงเสวียน?”
ทันใดนั้นเองแววตาของหลัวซิวก็เป็นประกายขึ้นมา หยิบหนังสือสีเหลืองเล่มหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บของของจูเฟยเฉียว
วิชายุทธ์และเคล็ดวิชาส่วนมากในโลกนี้ล้วนบันทึกอยู่ในม้วนหยก เคล็ดวิชาที่บันทึกอยู่ในหนังสือแบบนี้มีอยู่น้อยมาก ๆ
เมื่อเห็นคำว่าวิชายา หลัวซิวจึงรีบเปิดหนังสือออกอย่างอดใจไม่ไหว ก่อนจะพบว่าเนื้อหาที่อยู่บนหนังสือเหมือนคำลวงโลกยังไงอย่างนั้น บันทึกวิชากลั่นยาที่ขั้นตอนซับซ้อนเอาไว้
“วิชายาชิงเสวียนนี่ ปราณีตสวยวิจิตรกว่าวิชายาที่ข้าได้รับจากความทรงจำของปรมาจารย์กลั่นยาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ในกฎปริภูมิมาก”
หลัวซิวเปิดอ่านอยู่สักพักและอดยิ้มไม่ได้ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเริ่มฝึกตระหนักรู้ในรายละเอียดของนักยาเซียน เขาพบว่าวิชากลั่นยาของตนยังมีพื้นที่ให้พัฒนาอีกเยอะ หลังจากที่มีวิชายาชิงเสวียนนี่แล้ว เขาเชื่อมั่นว่าวิชากลั่นยาของตัวเองต้องก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแน่นอน โอกาสที่จะบรรลุกลายเป็นนักยาเซียนก็มีมากขึ้น!
แต่ทว่าไม่นานนักหลัวซิวก็ต้องถอนหายใจ และทำหน้ารู้สึกเสียดาย เนื่องจากวิชายาชิงเสวียนเล่มนี้ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ เนื้อหาส่วนหลังขาดหายไป ไม่ได้บรรยายถึงวิธีการเป็นนักยาเซียน รวมไปถึงวิชากลั่นยาหลังจากที่กลายเป็นนักยาเซียนแล้ว