มหากาพย์ดาบเทวะ! - ตอนที่ 126
ตอนที่ 126 ช่างน่ารักนัก!
ดวงตาหยางเย่หรี่ลงเมื่อเห็นดาบถูกหยุดไว้เพียงแค่ปลายนิ้วแข็งแกร่งอะไรขนาดนี้!”
เขาทราบว่าไม่สามารถสู้นางได้และคิดจะใช้ไข่มุกโลหิตมาร
ทันใดนั้นดูเหมือนดวงตาของนางเปิดกว้างอย่างตกตะลึง ”เป็นได้อย่างไรเป็นไปได้อย่างไรกัน…”
เมื่อยังกล่าวไม่จบ นางพยายามจะพุ่งเข้าไปในตัวหยางเย่
ทันใดนั้น พลังที่มองไม่เห็นโคจรออกมาจากร่างหยางเย่มันผลักให้สตรีจิ้งจอกกระเด็นไป
หยางเย่ชะงัก ฉินเยว่ที่กําลังจะลงมือก็ชะงักไปเช่นกัน
ประกายแสงสีม่วงปรากฏขึ้นตรงหน้าหยางเย่ จากนั้นแรงกดดันที่สามารถสยบได้ทั้งสวรรค์และปฐพี่ได้แผ่พุ่งไปยังสตรีจิ้งจอก
รอเดี๋ยว!” นางรีบเอ่ย “ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย!”
หยางเย่รีบไปกอดมิงค์ม่วงที่กําลังโกรธอย่างมาก จากนั้นเขามองไปที่นาง ”มันหมายความยังไง!?”
ถึงแม้นางจะลงมือกับเขาแต่ก็ไม่ได้มีจิตสังหารใด เห็นได้ชัดว่านางไม่มีเจตนาร้าย
นางมองไปที่หน้าท้องของหยางเยู่ด้วยความกลัวเล็กน้อย ”เป็นความผิดของข้าเอง ได้โป รดอภัยให้ด้วย!”
เมื่อเห็นท่าที่หวาดกลัวผ่านดวงตานาง ใจหยางเย่เต้นรัวพร้อมกล่าวด้วยน้ําเสียงต่ํา ” ท่านเห็นมันแล้วงั้นหรือ?”
สตรีตรงหน้าพยักหน้าก่อนจะเผยท่าทีตื่นเต้น “ข้าเข้าใจแล้วว่าเหตุใดมันถึงต้องการอยู่กับเจ้าเพราะเจ้ามีของวิเศษลึกลับที่หาได้ยากยิ่ง!”
“ท่านคิดจะยึดมันก่อนหน้านี้งั้นหรือ?” ดวงตาหยางเย่หรี่เล็กลงขณะกล่าว
“ยึดมัน?” นางส่ายหัวก่อนจะเอ่ย “มันเป็นของเจ้าอยู่แล้ว ก่อนหน้าที่ข้าถูกซัดจนกระเด็นเพราะไม่ได้รับการยอมรับจากเจ้า”
หยางเยถอนหายใจโล่งอกเมื่อได้ยิน ถึงแม้เขาจะไม่ทราบว่าตันเถียนนวนคืออะไร แต่เขาก็ทราบว่ามันยอมรับแค่เขาและผู้คนที่เขายอมรับเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่คนอื่นจะเข้าไปหากไม่รับการยอมรับจากเขา
หยางเย่เอ่ยถาม ” ท่านทราบหรือไม่ว่ามันคืออะไร?”
สตรีตรงหน้าส่ายหัว ”ถึงแม้จะไม่ทราบว่ามันคืออะไรแน่ แต่คิดว่าแม้แต่ขุมทรัพย์ศักดิ์สิทธิ์ในตํานานก็ไม่สามารถเทียบมันได้ อะไรนะ? แม้แต่ตัวเจ้าเองก็ไม่ทราบงั้นหรือ?”
เมื่อได้ยินหยางเยู่กับสตรีจิ้งจอกสนทนากัน ฉินเยว่ไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากถามด้วย”พวกเจ้าทั้งสองกําลังสนทนากันเรื่องอะไร?”
สตรีจิ้งจอกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าถึงทั้งสองจะมาด้วยกันแต่พวกเขาก็ยังไม่ใช่สหายร่วมศึกที่แท้จริง เมื่อนึกได้เช่นนางนั้น นางจึงเผยรอยยิ้มพร้อมกล่าว”เมื่อเจ้าเป็นสหายร่วมเป็นร่วมตายกับเขาเมื่อไหร่ เขาจะเผยความลับทั้งหมดให้ เมื่อถึงตอนนี้นั้น เจ้าจะทราบเองว่าพวกเราคุยกันเรื่องอะไร!”
“สหายร่วมเป็นร่วมตาย?” ฉินเยว่งุนงงยิ่งกว่าเดิม
สตรีจิ้งจอกเผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์พร้อมกล่าว ถูกต้อง เมื่อเจ้าได้รับการไว้วางใจจนถึงขั้นเป็นสามีภรรยากันเจ้าก็จะทราบคําตอบเอง”
หยางเย่ไม่ต้องการให้นางกล่าวคําไร้สาระมากไปกว่านี้ “ผู้อาวุโส เมื่อพวกเราช่วยท่านออกมาแล้วเช่นนั้นท่านช่วยส่งเราออกไปจากที่นี่ ตกลงหรือไม่?”
หากเป็นไปได้ เขาต้องการจะสังหารสตรีจิ้งจอกทิ้งตรงนี้เสียเพื่อเก็บความลับ เขาไม่ต้องการให้ใครทราบเกี่ยวกับตันเถียนน้ําวน แต่นางนั้นแข็งแกร่งเกินไป และไม่มีสิ่งใดที่เขาจะใช้จัดการได้
สตรีจิ้งจอกยิ้มก่อนจะสะบัดมืออันบอบบาง ภาพตรงหน้าพวกเขาเปลี่ยนไป ไม่นานเหลือเพียงแค่นางกับหยางเย่สําหรับฉันซี่เยว่นั้นได้หายไปเรียบร้อย
” ท่านหมายความว่าอะไร!?” หยางเย่กล่าวขณะจับดาบในมือแน่น
สตรีจิ้งจอกยิ้มพร้อมเอ่ย “อย่ากังวลไปเลย คนรักของเจ้าปลอดภัยดี ตอนนี้มีเพียงพวกเราที่นี่ข้าต้องการจะทําข้อตกลงสักหน่อยได้หรือไม่?”
» ข้อตกลงอะไร?” หยางเย่ขมวดคิ้ว หากเป็นไปได้ เขาจะไม่มาตามหาสตรีคนนี้แน่นอนอย่างน้อยสตรีผู้นี้ก็อยู่ขั้นปรารจิตวิญญาณ ทั้งยังมีความแข็งแกร่งมหาศาล ดังนั้นเขาจึงไม่อาจลงมือกับนางได้แม้จะมีไข่มุกโลหิตมาร
มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อยพร้อมปล่อยเสน่ห์ออกมา นางกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนขณะที่ประกายแปลกประหลาดออกมาจากดวงตา ”ข้าต้องการอยู่ข้างในนั้นเหมือนกับสหายตัวจ้อยได้ หรือไม่?
เสียงของนางราวกับผสมด้วยเวทมนตร์บางอย่าง มันทําให้ดวงตาหยางเย่พร่ามัว ขณะที่กําลังจะพยักหน้าแสงสีม่วงได้เข้าปกคลุมร่างของหยางเย่ ดวงตาของเขาได้กระจ่างใสทันที เมื่อนึกถึงฉากก่อนหน้านี้ท่าที่หยางเย่เปลี่ยนไปทันที เพราะสตรีผู้นี้ใช้ความสามารถแปลกประหลาดอีกแล้วเมื่อนึกได้เช่นนั้นเขาจึงรีบใช้เจตจํานงแห่งดาบอย่างไม่ลังเล
“เจ้าเรียกสิ่งนี้ว่าข้อตกลงงั้นหรือ?” หยางเย่กล่าวอย่างเย็นเยือก เขาไม่คาดคติดมาก่อนว่าจะได้ช่วยคนที่เนรคุณเช่นนี้อย่างไรก็ตามมันยังมีผลดี เพราะครั้งนี้ถือว่าเป็นการเรียนรู้เมื่อจะทําสิ่งใดในอนาคตเขาจะไม่ทําอะไรที่ไม่มั่นใจและไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อนอีก
”เจ้าตั้งใช้วิชาลวงตากับข้า!” เมื่อเห็นว่าความสามารถของตนเองไร้ผลกับบุรุษตรงหน้านางถึงกับถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนไปกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าปรารถนาที่จะทําข้อตกลงกับเจ้าจากใจจริง และต้องการเข้าไปข้างในนวนลึกลับนั้นเหมือนกับสหายตัวจ้อย สําหรับสิ่งตอบแทนข้าจะพาเจ้าไปยังสุสานหลักของท่านพ่อ ที่นั่นมีเคล็ดวิชากระบวนท่า และเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังของท่านพ่ออยู่มากมายเจ้าคิดเห็นเช่นไร?”
หยางเย่ไม่คิดแม้แต่น้อยก่อนจะกล่าว ” ข้าขอปฏิเสธ!”
เห็นได้ชัดสตรีตรงหน้าไม่ใช่คนดี ดังนั้นการให้นางเข้าไปอยู่ในตัว ก็ไม่ต่างจากเชิญหมาป่าเข้าไปอยู่ในบ้าน?
สตรีจิ้งจอกสับสนเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม “ทําไมกัน?”
“เพราะนวนของข้าผลักเจ้าออกไปไงล่ะ!” หยางเย่กล่าวต่อ “ตอนสหายตัวจ้อยเข้า ไปในตันเถียนนวนวันนั้นมันไม่ได้ถูกผลักออกแต่มันผลักเจ้าออกตอนพยายามจะเข้าไป สําหรับเหตุผลที่มันผลักเจ้าออกข้านั้นไม่ทราบ แต่ข้าทราบว่าจะไม่ให้เจ้าเข้ามา หรือบางทีเจ้าอาจเป็นภัย คุกคามต่อข้ามันจึงทําเช่นนั้น!”
สตรีจิ้งจอกชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะออกมา เวลานี้หน้าอกอันใหญ่โตสั่นกระเทือนไปด้วยเช่นกันสิ่งนี้ทําให้เปลือกตาหยางเยบิดเบี้ยวพร้อมสบถในใจ “นังแม่มด!?
หลังจากนั้นนางจึงกล่าว ” เหตุผลที่มันไม่ผลักสหายตัวจ้อยเพราะมันเป็นสัตว์มงคล และยังเป็นที่รักใคร่ของทั้งโลกนี้และบนสวรรค์ มันจึงเป็นเรื่องปกติที่จะถูกยอมรับโดยง่ายสําหรับที่ข้าถูกขับไล่ เพราะเหมือนข้ามีเจตนามุ่งร้ายในตอนแรกที่ต้องการจะเข้าไป ของวิเศษศักดิ์สิทธิ์ฉลาดมาก เมื่อมันสัมผัสได้เล็กน้อย มันจึงผลักข้าออก ตอนนี้ข้าทราบแล้วว่ามันยึดถือเจ้าเป็นเจ้าของดังนั้นข้าจึงไม่คิดจะทํามันมาอีก”
“เจ้าค่อนข้างตรงไปตรงมาดี!” หยางเย่กล่าวเย้ยหยัน
นางไม่ได้เอาเรื่องแต่กลับยิ้มแทน “เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ? หากอนุญาตให้ข้าอยู่ข้างในนั้นข้าจะพาเจ้าไปยังห้องหลัก ยิ่งกว่านั้นยังจะช่วยเหลือเจ้าเมื่อเผชิญกับอันตรายในอนาคต แน่นอนว่าไม่สูงไปกว่าขั้นปราณจุติ
หยางเย่ตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อได้ยิน เขาไม่สนใจห้องหลัก แต่สนใจประโยคสุดท้ายมากกว่าหากมียอดฝีมือขั้นปราณจุติลงมือกับเขา สตรีจิ้งจอกจะยื่นมือมาช่วย กล่าวคือเขาจะได้องครักษ์ขั้นปราณจิตวิญญาณมาอยู่ข้างกาย!
เมื่อนึกได้ว่าจะมียอดฝีมือมาช่วยต่อสู้มันก็ทําให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก!
แต่หยางเย่ก็ยังมีสติพอที่จะไม่เห็นด้วย เรื่องนี้มีผลกระทบต่อตัวเขาอย่างมาก และยังไม่อาจเชื่อใจสตรีจิ้งจอกได้เต็มตัว เขาอนุญาตให้ราชันหมาป่าทั้งสองตัวอยู่ในนั้นเพราะสหายตัวจ้อยสามารถควบคุมได้ แต่เมื่อสหายตัวจ้อยไม่สามารถกดดันสตรีจิ้งจอกตรงหน้า ดังนั้นหากนางมีเจตนาร้ายเขาเองจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน
ผ่านไปชั่วครู่ หยางเย่จึงเอ่ยถาม ” ทําไมเจ้าถึงต้องการเข้าไปในนวนของข้า?”
นางลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่หัวใจก็เต้นรัวเมื่อถูกหยางเย่จับตามองอย่างระมัดระวัง นางตระหนักดีว่าหากปกปิดอีก ชายหนุ่มตรงหน้าคงจะไม่ยอมร่วมมือด้วยแน่นอน ดังนั้นนางจึงกล่าวอย่างสัตย์จริง “เพราะตันเถียนนวนของเจ้าสามารถเร่งความเร็วในการบ่มเพาะพลังของข้าได้ไงล่ะ! ข้าจําศีลตนเองมาเป็นเวลาสี่ร้อยปี ถึงแม้การบ่มเพาะพลังจะไม่ตกลง แม่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเช่นกันข้าจะต้องตายหากไม่สามารถเข้าสู่ขั้นปราณจุติได้ในสามปีนี้เพราะข้ามีอายุขัยเหลืออีกเพียงสามปีเท่านั้น!”
หยางเย่ขมวดคิ้วพร้อมถาม “แค่นั้นงั้นหรือ?”
” และยังเป็นเพราะข้าไม่มีที่จะไปเช่นกัน!” สตรีจิ้งจอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “อันที่จริงจะ มีใครบางคนมาปลดปล่อยข้าหลังจากปีนี้แต่ข้าก็ได้ออกมาก่อนเวลากล่าวคือทุกอย่างได้ถูกเปลี่ยนแปลงหมดสิ้น และข้ายังสามารถไปกับเจ้าได้เพียงคนเดียว!”
หยางเยู่ไม่สนในสิ่งที่นางกล่าว เขายังคงลังเลว่าจะปล่อยให้นางเข้าไปดีหรือไม่
“หากเจ้ายังกังวลว่าข้าจะทําร้ายเมื่ออยู่ในน้ําวน เช่นนั้นเจ้าก็สบายใจได้ เพราะของวิ เศษศักดิ์สิทธิ์นั้นฉลาดพอหากข้ากล้าคิดร้ายเจ้า เช่นนั้นมันก็จะจัดการด้วยตัวมันเอง!” สตรีจิ้งจอกกล่าวอย่างมีความสุข
หยางเย่เงียบไปชั่วครู่พลางนึกในใจ “หากสตรีผู้นี้สามารถเข้าถึงขั้นปราณจุติได้ เช่นนั้นก็สามารถขอให้นางช่วยเหลือมารดาเรา ถึงแม้นางจะไม่สามารถช่วยไหว เราก็ยังมีไพ่ตายไว้ต่อกรกับราชวังบุปผา มิเช่นนั้นด้วยพลังของตนเอง เราจะเอากําลังไหนไปสู้กับพวกมัน!”
เมื่อนึกได้เช่นนั้น หยางเย่เลิกลังเลพร้อมเอ่ย “ข้าตกลง!”
สตรีจิ้งจอกดีใจอย่างมากเมื่อได้ยิน ร่างของนางกลายเป็นจิ้งจอกเก้าหางสีขาวบริสุทธิ์พร้อมเดินมาตรงหน้าหยางเย่ ขณะที่นางกําลังจะเข้าไปในตัวเขา หยางเย่ได้เข้าไปกอดและแตะที่หางขอ งนางก่อนจะเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ช่างเป็นจิ้งจอกที่น่ารักนักหางก็นุ่มฟู…”
“เจ้ารนหาที่ตายงั้นหรือ!” ทันทีที่หยางเย่แตะหางจิ้งจอก ขนสีขาวบริสุทธิ์ได้กลายเป็นสีแดงไปทั้งตัว จากนั้นเสียงตะวาดอันเกรี้ยวกราดได้ดังก้องดังในหูของหยางเย่!