มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 954
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 954
หลังจากที่ได้เห็นรถหรูเหล่านั้นทั้งหมด ผู้หญิงทุกคนที่นั่นจึงยิ่งอิจฉามากขึ้น เมื่อพวกเธอพบว่าจริง ๆ แล้วควินแลนเกี่ยวข้องกับกองกำลังทั้งห้านั้น
“ทำไมคุณถึงไม่ทำงานให้กับกลุ่มของคุณละถ้างั้น?” เพื่อนร่วมงานอีกคนถาม
“ฮ่าฮ่า! ผมไม่อยากจะทำงานในเขตเมืองทาลโก้ตอนนี้ เนื่องจากความวุ่นวายทั้งหมดที่รอลยัล ดราก้อน กรุ๊ป ที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ก่อเรื่องขึ้น กองกำลังทั้งห้าจะต้องเชื่อฟังกลุ่มนั้นกันในตอนนี้ รู้ไหมครับ? นอกจากนี้ พ่อของผมก็บอกผมว่ามันจะดีกว่าสำหรับผมที่จะออกมา และพยายามเลี้ยงชีพตัวเองก่อน” ควินแลนตอบกลับ ขณะที่เขาส่ายหัวของเขาด้วยรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของเขา
เมื่อได้ยืนแบบนั้น มาร์จอรีก็ยิ้มบาง ๆ เมื่อคิดว่าควินแลนมั่นคงและเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้!
“พ่อของคุณมีเหตุผลนะคะ คุณโยซอน ท้ายที่สุดแล้ว คุณก็ยังคงอายุน้อยอยู่ ดังนั้นใครจะไปรู้? บางทีคุณอาจจะสามารถจุดประกายทางออกใหม่ โดยการผจญภัยเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และการหาเลี้ยงชีพเพื่อตัวคุณเองที่นี่ก็ได้!” มาร์จอรีกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธอเข้าไปใกล้ควินแลนมากขึ้น
“ฉันเห็นด้วย!”
ตอนนี้พวกผู้หญิงค่อย ๆ เข้าไปใกล้ควินแลนกันมากขึ้น ขณะที่เขาลงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ ในทั้งเขตเมืองทาลโก้และเมืองเฮฟเวินลี
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอย่างมีความสุข เจอรัลด์จึงทำได้เพียงแค่หัวเราะอย่างขมขื่นเท่านั้น ขณะที่เขาส่ายหัวของเขาอยู่ด้านข้าง เขาคุ้นชินกับฉากเหล่านี้มานานแล้ว
เมื่อเห็นว่าตอนนี้เจอรัลด์กำลังถูกเมินเฉย ควินแลนก็พบว่าตัวเองเริ่มอิ่มอกอิ่มใจอย่างมาก
เนื่องจากเจอรัลด์ไม่มีการบรรยายในช่วงเช้า เขาจึงนั่งอยู่ในสำนักงานตลอดเวลาจนกระทั่งตอนเที่ยงมาถึง
เมื่อใกล้เวลามื้อเที่ยง เจอรัลด์ก็หันไปมองมาร์จอรีที่นั่งถัดจากเขา ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้พวกเราก็มุ่งหน้าไปยังโรงอาหารกันดีไหมครับ คุณสวิฟต์ ผมเลี้ยงเอง”
เขาเพียงเริ่มชวนเธอออกไปทานอาหารก่อน ก็เพราะเธอเป็นคนชวนเขาออกไปทานมื้อเที่ยงก่อนหน้านี้เมื่อเช้านี้เท่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว เจอรัลด์ก็ยังคงใหม่และยังไม่คุ้นเคยกับสภานที่ของมหาวิทยาลัย
นอกเหนือจากนั้น เขาก็ไม่ได้มีความคิดที่ไม่จำเป็นใด ๆ เลยจริง ๆ
“ขอโทษด้วยค่ะ คุณคลอฟอร์ด แต่ฉันมีธุระบางอย่างให้เข้าร่วมตอนเที่ยง ฉันเกรงว่าฉันจะไม่สามารถไปร่วมกับคุณได้ในครั้งนี้” มาร์จอรีตอบกลับ ขณะที่เธอยืดผมเธอให้ตรงอย่างอ่อนโยน
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปที่นั่นด้วยเองแล้วกัน” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขาพยักหน้าให้เธอก่อนจะมุ่งหน้าออกไป
แม้เมืองเฮฟเวินลีเป็นสถานที่วุ่นวายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันก็เพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งจำเป็นทั้งหมดเช่นสถาบันการแพทย์ สถาบันการศึกษา และอื่น ๆ
ตัวมหาวิทยาลัยเองก็ไม่ได้ดูแตกต่างเป็นพิเศษจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่เจอรัลด์เคยเห็นมาก่อน อืม นอกเหนือจากความจริงที่ว่านักเรียนทั้งหมดดูเหมือนพวกอันธพาล
เมื่อเข้ามาในโรงอาหาร เจอรัลด์ก็ซื้อขนมปัง ไส้กรอก และสลัดก่อนจะนั่งที่โต๊ะว่างโต๊ะหนึ่งเพื่อเพลิดเพลินกับอาหารของเขา
มันก็ค่อนข้างนานพอสมควรแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เขาสามารถสนุกกับชีวิตเช่นนี้ และเขาพบว่าตัวเองกำลังคิดว่าการเป็นผู้สอนในมหาวิทยาลัย และมีชีวิตอันเงียบสงบนั้นดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับการเป็นเจ้านายของวิสเลอร์และคนอื่น ๆ
ด้วยรอยยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของเขาขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็สงสัยว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตที่สันติและสงบเงียบเช่นนี้ไปได้นานแค่ไหนกัน
ขณะที่เขาถอนหายใจก่อนจะทานอาหารของเขาต่อไป เจอรัลด์ก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา “ดูเหมือนไม่มีใครนั่งตรงนั้นนะครับ มาร์จอรี ไปตรงนั้นกันเถอะ!”
“ฉันเกรงว่านั่นเป็นบริเวณของวีไอพีนะคะ… คุณจำเป็นต้องจ่ายเพื่อนั่งตรงนั้น!”
“ฮ่าฮ่า! ไม่เป็นไรครับ ถ้าเพียงพวกเราไม่ต้องเร่งรีบนิดหน่อยเพื่อการประชุมนั้นในภายหลัง ผมก็จะพาคุณออกไปทานมื้อเที่ยงข้างนอกอย่างแน่นอน!”
เมื่อเงยหน้าขึ้น เจอรัลด์ก็บอกได้แล้วว่าเสียงพวกนั้นไม่ได้เป็นของใครอื่นที่ไหน นอกจากมาร์จอรีและควินแลน
ดังนั้นกลับกลายเป็นว่า และทานอาหารกับควินแลนสินะ เมื่อรู้แบบนั้นจึงทำให้เจอรัลด์ยิ้มอย่างค่อนข้างขบขันแกมเหน็บแนม
มันชัดเจน ณ จุดนั้นว่าทั้งควินแลนและมาร์จอรีเห็นเจอรัลด์กันแล้ว ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็นั่งอยู่ในมุมที่ค่อนข้างเปล่าเปลี่ยวข้าง ๆ บริเวณวีไอพี จึงทำให้เขาแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน
เนื่องจากมันเป็นสัญลักษณ์ของสถานะ ถ้าคน ๆ หนึ่งสามารถทานอาหารในบริเวณวีโอพี ผู้คนจึงมักจะเลี่ยงจุดที่เจอรัลด์กำลังนั่งอยู่กัน ถ้าพวกเขาสามารถทำได้
เมื่อสังเกตเห็นว่าควินแลนกำลังจ้องเขาอย่างดูถูก เจอรัลด์ก็เพียงก้มหน้าลงและทานอาหารของเขาต่อไป
มาร์จอรีในทางกลับกัน ตอนนี้กำลังรู้สึกค่อนข้างกระอักกระอ่วนใจ เพราะเธอรู้ข้อเท็จจริงว่าเจอรัลด์ได้สังเกตเห็นเธอแล้ว ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็จำได้ชัดเจนว่าเธอชวนเขาออกไปทานมื้อเที่ยงก่อนหน้านี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้น แต่เธอก็โกหกเขา โดยอ้างว่าเธอมีธุระให้เข้าร่วม การที่เธออยู่ที่นั่นกับควินแลนจึงบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเธอจะออกไปข้างนอก เพื่อทานมื้อเที่ยงกับเขาแทน
ผู้หญิงคนไหน ๆ ก็คงจะรู้สึกอับอายในระดับหนึ่ง ถ้าพวกเธอถูกวางไว้ในตำแหน่งปัจจุบันนี้ของเธอ
เธอยืดผมของเธอให้ตรง มาร์จอรีรีบเบี่ยงสายตาหนีก่อนจะพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่เธอมองไปที่ควินแลน
“หืมม? นั่นคุณคลอฟอร์ดไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงนั่งตรงนั้นล่ะ?” ผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้นมาในขณะนั้น