มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 381
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 381
“คุณแฮร์ริง เจนคินส์ คือผู้นำของมณฑล ใครกันเนี่ยที่ทำให้เขามารอที่สถานีรถโดยสารนี้ได้?”
มอนทาน่าไม่สามารถปิดบังความรู้สึกประหลาดใจของเธอไว้ได้
เป็นคนรวยคนนั้นที่มาจากในเมืองหรือเปล่า?
ไม่มีทาง ทำไมใครบางคนที่ร่ำรวยเท่ากับเขาจะมาที่นี่โดยรถโดยสารล่ะ?
“รอนี่นะ; ผมจะไปทักทายเขา!”
แฟนของมอนทาน่าจัดชุดสูทให้เรียบและจัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อย
เขาพร้อมที่จะไปที่นั่นแล้ว
“แต่โจนาธาน นี่จะดีเหรอ? คุณเจนคินส์จะให้ความสนใจคุณบ้างหรือเปล่าล่ะ?”
มอนทาน่าอดไม่ได้ที่จะกังวลใจ
“ผมคิดว่างั้นนะ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็รู้จักพ่อของผมเหมือนกัน และผมก็เคยไปทานอาหารค่ำกับเขาถึงสองครั้งแล้ว”
โจนาธานให้ความมั่นใจกับมอนทาน่าและมุ่งหน้าไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม มอนทาน่าก็ไม่กล้าไปกับเขา อีกด้านหนึ่งเต็มไปด้วยคนใหญ่คนโตทั้งนั้น และผู้นำหลายคนของศึกษาธิการก็อยู่ที่นั่นกันอีกด้วยเช่นกัน
ในฐานะเพื่อนร่วมงาน แน่นอนว่า มอนทาน่าไม่ได้มีความกล้าที่จะเข้าหาพวกเขา
สำหรับโจนาธาน เขาไปและกลับมาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่อยู่ที่นั่น เขาดูภาคภูมิใจมาก เมื่อคิดว่าเขามีโอกาสที่จะโดดเด่นอยู่ท่ามกลางฝูงชนถ้าเขาไปทักทายพวกเขา
แต่เมื่อเขากลับมา เขาหดหู่ใจและใบหน้าของเขาก็เป็นขุ่นคล้ำราวกับสีของมะเขือม่วง
“ห๋า? เกิดอะไรขึ้น โจนาธาน? นายกเทศมนตรีไม่สนใจนายใช่ไหม? อาร์ก ฉันบอกนายแล้วไง ใช่ไหม? ไม่ควรไปที่นั่นที่พวกคนใหญ่คนโตทั้งหมดเขาอยู่กัน!”
“อืมม ดูเหมือนว่านายกเทศมนตรีและคนอื่น ๆ กำลังรอการมาถึงของใครบางคนจริง คนสำคัญน่ะ ผมได้ยินพวกเขากำลังพูดถึงคุณคลอฟอร์ดกัน คนที่จะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงมาสู่เมืองเงียบสงบทั้งหมดนี้! เขาเป็นเจ้านายใหญ่ แต่บางอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าเป็นคุณคลอฟอร์ดจริง ๆ ทำไมเขาจะมาโดยรถโดยสารล่ะ?”
โจนาธานสับสน
“หืมม บางทีนายกเทศมนตรีอาจจะไม่ได้บอกความความจริงกับนายก็ได้ ตอนนี้ก็ไปกันเถอะ ผู้นำไม่กี่คนจากศึกษาธิการก็อยู่ที่นั่นด้วยเหมือนกัน” มอนทาน่ากล่าวด้วยความรีบร้อน
โจนาธานเพียงพยักหน้า
เขาหวังว่าคุณคลอฟอร์ดจะสามารถเร่งการเดินทางของเขาเช่นกัน
เจอรัลด์ติดตามจากด้านหลังมาโดยตลอดและได้ยินพวกเขาเอ่ยชื่อของเขา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อมารับเขา เขาคิดกับตัวเอง
แต่เขาได้บอกแซค ไลล์ไปแล้วว่าไม่ต้องทำให้การมาถึงของเขากลายเป็นงานใหญ่โตบางอย่างเข่นนั้น เขาแค่อยากจะกลับมาบ้านและจัดการเรื่องของตัวเอง และเขาไม่อยากจะยุ่งกับอะไร
แต่กระนั้นแล้ว ณ ตอนนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่แย่สำหรับเจอรัลด์ที่จะไปที่นั่นและถามพวกเขา
เขาจึงแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไเกิดขึ้น
มือของเขาเต็มไปด้วยกระเป๋าเดินทางของมอนทาน่าและโจนาธาน คนขับรถของเขาได้มาจอดอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้วทันทีที่พวกเขาออกมาจากสถานี
“ความร้อนกำลังจะฆ่าฉันอยู่แล้ว! จอน ไปเอากระเป๋าเดินทางด้านใน และไปกันได้แล้ว!”
มอนทาน่าตะคอกใส่คนขับรถอย่างหยาบคาย
หลังจากการเอากระเป๋าเดินทางใส่ไว้ในรถแล้ว โจนาธานและมอนทาน่าก็ขึ้นรถกัน และคนขับรถก็ขับจากไปทันที
เจอรัลด์ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวที่สถานีพร้อมกับการเป๋าเดินทางของเขาอยู่ด้านข้าง ดูเหมือนกับคนโง่คนหนึ่ง
เขาอาจจะเป็นแค่คนรับใช้คนหนึ่ง แต่อย่างที่พวกเขาสามารถจะทำก็คือกล่าวทักทายเขา ใช่ไหม?
ภายในรถ โจนาธานมองไปที่กระจกหลังและเห็นเจอรัลด์ ที่ตอนนี้กำลังยืนโง่ ๆ อยู่ที่จุดรับส่งของพวกเขา เขารู้สึกเศร้าใจต่อเขาเล็กน้อย
“มอนทาน่า ผมลืมที่จะทักทายนักเรียนคนนั้นของคุณ อย่างน้อยพวกเราควรจะถามว่าเขาจะมุ่งหน้าไปที่ไหนและบางทีอาจไปส่งเขาก็ได้นะ ใช่ไหม?”
“ช่างเขาเหอะ พวกเราจะไม่ไปส่งเขา เขาแค่น่าสมเพช และพวกเราจะไม่เสี่ยงที่จะทำให้รถของเราแปดเปื้อนเพราะเขาหรอกนะ!”
“ก็ได้ถ้างั้น”
มอนทาน่าสบถด่าเงียบ ๆ เจอรัลด์ตัดสินใจที่จะโทรหาที่บ้านและเตรียมที่จะจากไป
ในระหว่างทางที่กลับไป เขานึกถึงว่าจะต้องโทรหาคุณลุงวินเทอร์
เขาต้องการบอกพวกเขาว่า ไม่ต้องทำอาหารอะไรให้เขาเนื่องจากว่าเขาจะซื้ออาหารบางอย่างกลับไปเองในระหว่างทางกลับบ้าน
โทรศัพท์บ้านดังอยู่ชั่วครู่หนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีใครรับสาย
เขาโทรไปสามครั้งจนกระทั่งในที่สุดก็มีคนรับโทรศัพท์ น้ำเสียงแผ่วเบาและอ่อนแรงดังขึ้นในอีกด้านหนึ่งของปลายสาย
“เฮลโล? ขอทราบได้ไหมคะว่าคุณกำลังหาใครอยู่?”
“คุณป้าวินเทอร์ ผมเองเจอรัลด์ ผมขอทราบได้ไหมว่าคุณลุงวินเทอร์อยู่ไหน?”
“โอ้ เจอรัลด์เหรอ? เธอกลับมาสำหรับการหยุดพัก ใช่ไหม?”
คุณป้าวินเทอร์ฟังดูแปลกใจเล็กน้อย
ย้อนกลับไปตอนที่พวกเขายังเป็นเด็กน้อย เจสสิก้าและเจอรัลด์ทั้งคู่ถูกเลี้ยงดูมาโดยสามีภรรยาคู่นี้
นั่นคือเหตุผลที่ทำไมพี่น้องคู่นี้ถึงมีความรักที่ลึกซึ้งอย่างเหลือเชื่อให้คูรักอาวุโสคู่นี้ ปฏิบัติต่อพวกเขาราวกับว่าเป็นผู้อาวุโสของพวกเขาเอง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เจสิก้าคือคนแรกที่ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด เนื่องจากว่าเจอรัลด์ยังคงต้องอดกลั้นกับความยากจนตัวเขาเองอยู่ เขาไม่สามารถจัดหาชีวิตที่สุขสบายให้กับคุณลุงและคุณป้าวินเทอร์ได้ สิ่งเดียวที่เขาสามารถได้ก็คือการช่วยเหลือทางการเงินแก่พวกเขาอย่างรอบคอบ
เช่นนั้นโดยทั่ว ๆ ไปแล้ว คุณลุงวินเทอร์และครอบครัวของเขาจึงยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมกันอยู่
หลังจากเจสสิก้าได้รับข่าวว่า เจอรัลด์กำลังจะมีวันหยุดพัก สิ่งแรกที่เธอคิดถึงก็คือการช่วยเหลือคุณลุงวินเทอร์และครอบครัวของเขาให้ปักหลักอย่างสุขสบาย
เจอรัลด์จะไม่มีวันลืมเกี่ยวกับเขา