มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1309
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1309
หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็คุยกับชายคนนั้นต่อจนดึก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะกลับมาที่ห้องของเขาแล้ว แต่เจอรัลด์ก็เลือกที่จะไม่นอน
หลังจากที่เขาได้คุยกับชายคนนั้นแล้ว เจอรัลด์จึงตระหนักได้ว่า การฝึกตัวเองอย่างสม่ำเสมอนั้นสำคัญเพียงใด เพราะแม้ว่าวันนี้เฟลตันจะหวาดกลัวจนหนีกลับไป แต่เจอรัลด์ก็รู้ดีว่า ในที่สุดเขาจะกลับมาในรูปแบบที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงนั่งขัดสมาธิในห้องของเขา ขณะที่เขาพยายามรำลึกถึงความทรงจำมากมายเกี่ยวกับเทพเจ้าที่ฝังอยู่ในหัวของเขา เขาได้รับความทรงจำเหล่านี้มาจากสุสานโบราณ ภายในพระราชวังที่ตั้งอยู่กลางทะเลทราย
ในที่สุด เขาก็พบความทรงจำเกี่ยวกับเทคนิคการหายใจที่เก่าแก่มาก เจอรัลด์นึกถึงช่วงเวลาที่เขาพยายามฝึกฝนเทคนิคเหล่านั้น แม้ว่ามันจะไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม เขาจำได้ว่า ไม่ว่าเขาจะฝึกฝนอย่างหนักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทำให้มันถูกต้องได้เลย
ตอนนั้นเขาทำได้เพียงฝึกฝนเทคนิคที่ชั่วร้าย วิชากลืนกินดวงวิญญาณจนสำเร็จ ชายผู้นี้เคยบอกกับเขาว่า หลังจากที่เขาได้รับศีลจุ่มจากสวรรค์แล้ว ก็ถือว่าเขาประสบความสำเร็จในการเข้าสู่อากรณาจักรแห่งโลกวิญญาณ หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่า ความแข็งแกร่งภายในของเขาได้เพิ่มพูนขึ้นอย่างมากมาย ไม่เพียงแค่นั้น พลังของเจอรัลด์ในตอนนี้ อยู่ห่างจากการบรรลุระดับกลางของอาณาจักรแห่งโลกวิญญาณอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่า เขาจะสามารถฝึกฝนวิชาจากความทรงจำที่เหลือ ที่ได้รับการปลูกฝังเข้าไปในหัวของเขาได้สำเร็จในไม่ช้า
ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงเลือกเทคนิคการหายใจแบบโบราณที่เรียกว่า วิชาท้องฟ้าพิโรธ ตามความทรงจำของเขา เทคนิคนี้ถูกใช้เพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของพลังลมปราณให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันเป็นเทคนิคที่ช่วยให้เจอรัลด์สามารถพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการที่สุดในตอนนี้
ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงสงบสติอารมณ์ก่อนที่จะเริ่มฝึกพลังลมปราณของเขา ตามขั้นตอนของเทคนิคที่อยู่ในหัว
ไม่นานนัก หน้าอกของเขาก็เริ่มกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่เขากำลังฝึกฝน
ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็สามารถฝึกฝนเทคนิคนั้นจนสำเร็จได้ในที่สุด และเห็นได้ชัดว่ามีรัศมีพลังสีม่วงเปล่งออกมาจากร่างกายของเขา รัศมีพลังนั้นเปลี่ยนสีไปตามการกระเพื่อมของหน้าอกของเจอรัลด์
เมื่อใดก็ตามที่เขาหายใจเข้า รัศมีจะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเมื่อเขาหายใจออก มันก็กลับไปเป็นสีม่วงอีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือ การปรากฏตัวของหมอกสีขาวขุ่นที่ออกมาจากปาก และจมูกของเจอรัลด์ทุกครั้งที่เขาหายใจออก
เนื่องจากเขากำลังจดจ่อกับการฝึกฝนอย่างหนัก เจอรัลด์เองก็ไม่ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เหล่านี้เลย อย่างไรก็ตาม เขาสามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยของพลังลมปราณที่อยู่รอบบริเวณหัวหน่าวของเขา พลังลมปราณนั้นดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน ก็ปรากฏร่างร่างหนึ่งยืนอยู่นอกหน้าต่างห้องของเจอรัลด์ มันคือชายวัยกลางคน ๆ นั้น และตอนนี้เขาก็กำลังเอามือไพล่หลัง ขณะที่เขาสังเกตความก้าวหน้าในการฝึกฝนวิชาของเจอรัลด์
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เขาก็พยักหน้า ในขณะที่มองไปที่เจอรัลด์ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
‘เธอมีภาระหน้าที่มากมายที่จะต้องแบกรับในอนาคต เจอรัลด์ และเธอจะต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก… ไม่เพียงแต่ชะตากรรมของครอบครัวของเธอเท่านั้นที่จะอยู่ในกำมือของเธอ แต่ชะตากรรมของเธอเองก็ยังขึ้นอยู่กับว่า เธอจะทุ่มเทแรงการแรงใจในการฝึกฝนทักษะวิชามากแค่ไหน… ด้วยเหตุนี้ ฉันหวังว่าเธอจะพยายามต่อไปในแบบที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้… ! แต่ก็แปลกดี… ใครกันที่เปลี่ยนร่างกายของเธอให้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้? และใครกันที่มีความสามารถมากพอที่จะสอนเทคนิคการหายใจแบบโบราณให้เธอจนบรรลุได้…?’ ชายคนนั้นคิดกับตัวเองพร้อมกับขมวดคิ้ว
แม้ว่าเขาจะงุนงงกับเรื่องทั้งหมดนี้ แต่หลังจากมองไปที่เจอรัลด์อีกครั้ง และเห็นว่าเด็กหนุ่มมีพัฒนาการที่ดี ชายวัยกลางคนจึงกลับไปที่ห้องของเขา
เช้าวันต่อมา เจอรัลด์ก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เขาทำเช่นนั้น ก็ปรากฏประกายสีม่วงขึ้นในดวงตาของเขาอยู่ชั่วขณะ เขาฝึกฝนมาตลอดทั้งคืน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาอุทิศตนเพื่อการฝึกฝนอย่างตั้งใจและเต็มที่
เนื่องจากในอดีต เขาสามารถเอาชนะคนอย่างคอร์ทและคริสโตเฟอร์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยร่างกายที่ได้เปรียบของเขาเพียงอย่างเดียว กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาไม่ต้องการการฝึกฝนมากนักในตอนนั้น เนื่องจากคู่ต่อสู้ของเขามักจะอ่อนแอกว่าเขาเสมอ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจอรัลด์กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าที่เขาเคยเจอมาก่อน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องฝึกฝนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
และเมื่อเขาตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตัวเอง เจอรัลด์ก็พบว่าอาการบาดเจ็บของเขาเกือบครึ่งหนึ่งได้รับการเยียวยาเรียบร้อยแล้ว และยิ่งไปกว่านั้น พลังภายในของเขาดูเหมือนจะฟื้นตัวกลับมาแล้วอีกด้วย
เขาทั้งประหลาดใจและดีใจ ที่พบว่าตอนนี้ตัวเองได้กลับมามีพละกำลังอีกครั้ง เจอรัลด์พึมพำกับตัวเองว่า “วิชาท้องฟ้าพิโรธช่างลึกลับจริง ๆ… ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเทคนิคการหายใจแบบโบราณที่เทพเจ้ามอบให้ฉันจะมีประโยชน์ถึงขนาดนี้!”
ในขณะที่เขากำลังดีใจกับการเรียกพลังทั้งหมดของเขากลับมาได้สำเร็จ เจอรัลด์ก็ต้องตื่นจากภวังค์ เมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะประตู ตามด้วยเสียงตะโกนของโมนิก้า “เจอรัลด์! อาหารเช้าพร้อมแล้ว! อีกอย่าง คุณลุงมีเรื่องจะคุยกับคุณด้วย!”
เจอรัลด์ยื่นฝ่ามือของเขาออกไปทางประตูห้อง จากนั้น เขาก็เอียงฝ่ามือลงเล็กน้อย… และทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกเองพร้อมกับเสียง ‘ปัง’ ที่ดังสนั่น!
โมนิก้ารู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเธอก็พูดว่า “…อะไรน่ะ? คุณกำลังทำอะไรอยู่? คุณทำให้ฉันกลัวแทบตาย!”
เธอไม่คาดคิดว่าเจอรัลด์จะรู้จักเทคนิคที่เข้าใจยากเช่นนี้ เหมือนที่ชายวัยกลางคนรู้