มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1280
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1280
อาจารย์ของนาโคลได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะปกป้องนาโคลในตอนนั้น ถึงขั้นสั่งให้เขาหนีไปที่คฤหาสน์ของพวกกันเทอร์ เพื่อขอหลบภัยและขอความช่วยเหลือจากพวกเขา!
ในตอนนั้น ชายหนุ่มได้ฆ่าคนไปแล้วสิบแปดคนโดยที่เขาไม่เสียเหงื่อเลยแม้แต่น้อย นาโคลและอาจารย์ของเขาพบว่าเขารู้วิธีใช้มนต์ดำเช่นกัน! เวทมนตร์ของเขาดูเหมือนจะมาจากดอกไม้หน้าตาประหลาดที่เขาถืออยู่ในมือ
หลังจากที่นาโคลเริ่มวิ่งหนี ชายหนุ่มก็วิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และได้ประทับดอกไม้ประหลาดนั้นไว้บนอกของเขา! ทันทีที่เขาทำเช่นนั้น นาโคลก็รู้สึกราวกับว่า วิญญาณของเขากำลังจะแตกสลาย และเขาก็เกิดอาการวิงเวียนขึ้นมาทันที
ถึงกระนั้น นาโคลก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองล้มลงได้ในขณะนั้น เพราะอาจารย์ของเขายังคงรอคอยความช่วยเหลือจากพวกกันเทอร์ที่เหลืออยู่ เมื่อคิดได้เช่นนั้น นาโคลก็กัดฟันและคลานไปข้างหน้าต่อ ในขณะที่เขาทนฟังเสียงกรีดร้องของผู้คนที่กำลังจะตายอยู่ข้างหลังเขา
เขาช่างแข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน… ไม่มีใครที่อยู่ตรงนั้น จะแข็งแกร่งพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้เลย!
หลังจากที่คลานไปเรื่อย ๆ อยู่พักใหญ่ ในที่สุดนาโคลก็มาถึงคฤหาสน์ของกันเทอร์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เขากำลังคลานไปที่นั่น กลีบดอกไม้ที่ประทับอยู่บนหน้าอกของเขาก็ได้กัดกินวิญญาณของเขาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด นาโคลก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรง
โชคดีที่คุณหญิงกันเทอร์ และคนอื่น ๆ สังเกตเห็นเขา พวกเขาจึงรีบวิ่งออกมาจากคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
แต่ที่นาโคลไม่รู้ก็คือ ชายหนุ่มผู้ซึ่งร่างกายเปียกโชกไปด้วยเลือดสด ๆ ได้ตามเขามาทันแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เขากำลังยืนอยู่หน้าคฤหาสน์ของกันเทอร์เช่นกัน!
แม้ว่านาโคลกำลังจะหมดสติแล้วในตอนนั้น แต่เขาก็ยังได้ยินเสียงชายหนุ่มเรียกร้องให้พวกกันเทอร์มอบบางอย่างให้กับเขา… กันเทอร์เองก็ดูเหมือนจะมีอะไรติดค้างในใจกับเขาเช่นกัน และในที่สุด ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มต่อสู้กัน
เมื่อนาโคลฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ได้ยินจากคนรับใช้คนหนึ่งของตระกูลกันเทอร์เล่าว่า ชายหนุ่มพ่ายแพ้ไปแล้ว และหลังจากเขาถูกผนึกกำลังภายในเอาไว้ ชายหนุ่มก็รีบหนีออกจากเมืองโบราณทันที
หลังจากนั้น ตระกูลกันเทอร์ได้ส่งคนของพวกเขาออกไปตามสังหารชายคนนั้น เมื่อเรื่องราวทั้งหมดจบลง พวกกันเทอร์ก็เป็นตระกูลที่แม้แต่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ยังเกรงกลัว
ท่ามกลางสถานการณ์ที่โกลาหลวุ่นวาย พวกกันเทอร์ก็ยังสั่งให้ตระกูลอื่น ๆ ออกตามล่าเขาอย่างลับ ๆ อีกด้วย รวมถึงพวกโมลเดลและแนปล็อกส์เอง ก็ยังออกค้นหาตัวชายหนุ่มผู้นั้นไปทั่ว แต่พวกเขาก็ต้องสิ้นหวัง
แน่นอน นาโคลก็ได้พยายามออกตามหาเขาเช่นกัน เพราะอาจารย์ของเขาเองก็ถูกไอ้สารเลวนั่นฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม! การแก้แค้นเป็นสิ่งเดียวที่อยู๋ในหัวเขาในเวลานั้น
ถึงกระนั้น ชายหนุ่มเองก็น่าจะมีอายุราว ๆ สามสิบห้าปีเท่านั้น มันจึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่งว่า คนที่อายุยังน้อยอย่างเขาจะสามารถรวบรวมพละกำลังได้มากถึงขนาดนั้นได้อย่างไร
หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดนั้นแล้ว เจอรัลด์ก็ถามว่า “…สรุปแล้ว คุณหาเขาเจอหรือเปล่าครับ…?”
อาจารย์นาโคลส่ายหัวและตอบว่า “มันเหมือนกับว่าเขาได้หายไปจากโลกนี้อย่างลึกลับ! ฮึ เขาไม่เพียงแค่ฆ่าพวกกันเทอร์ตายเป็นจำนวนมากเท่านั้น แต่เขายังฆ่าใครก็ตามที่พบเห็นจากหมู่บ้านใกล้เคียงอีกด้วย! ไม่คิดเลยว่าเขาจะหายตัวไปเฉย ๆ แบบนั้น หลังจากสังหารผู้คนมากมายอย่างโหดเหี้ยม! ไม่มีใครมาชดใช้หนี้เลือดครั้งนั้นแทนเขาเลยด้วยซ้ำ!”
“จริงสิ… ว่าแต่ว่าเขาต้องการอะไรจากพวกกันเทอร์ เขาถึงทำตัวบ้าคลั่งได้ถึงขนาดนั้น…?” เจอรัลด์ถาม
“เรื่องนั้น… พวกกันเทอร์ก็เก็บเป็นความลับจากผมเหมือนกันครับ อย่างไรก็ตาม ผมสงสัยว่ามันน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับดอกไม้ประหลาดที่ชายหนุ่มคนนั้นประทับบนตัวผม…” อาจารย์นาโคลกล่าว
“…ขอผมดูหน่อยได้ไหมครับ” เจอรัลด์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อได้ยินคำขอของเขา นาโคลจึงเปิดไหล่ของเขาให้เจอรัลด์เห็น… และมันก็เป็นเหมือนที่เขาคิดเอาไว้จริง ๆ ดอกไม้ที่มีเพียงสองกลีบ!
ทันทีที่เขาเห็นมัน เจอรัลด์ก็ลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “นี่มัน ดอกเด้ด แอนนี่ส์!”
ไม่มีทางที่เจอรัลด์จะเข้าใจผิดว่าดอกไม้นี้จะเป็นอย่างอื่นไปได้ หลังจากทนทุกข์ทรมานกับมันมามากเหลือเกิน ด้วยการค้นพบครั้งใหม่นี้ เจอรัลด์ก็เริ่มเดินไปรอบห้องทันที
“…โอ้? คุณรู้จักดอกไม้นี้ด้วยเหรอครับ คุณคลอฟอร์ด” อาจารย์กันเทอร์ตอบด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ผมรู้ครับ คือว่าเพื่อนของผมคนหนึ่งเคยพูดถึงเรื่องนี้กับผมมาก่อน และเพื่อนที่ผมพูดถึง ก็มาจากตระกูลกันเทอร์ และผมตั้งใจอยากจะตามหาพวกเขา!” เจอรัลด์กล่าว
เนื่องจากเจซได้บอกนาโคลก่อนหน้านั้นแล้วว่า เจอรัลด์ต้องการจะเดินทางไปที่คฤหาสน์ของกันเทอร์ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือใครบางคน การได้ยินเจอรัลด์พูดถึงเรื่องนั้นด้วยตัวเอง ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจเท่าไรนัก
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่าภายนอกของเจอรัลด์จะยังดูสงบนิ่งอยู่ แต่ภายในใจของเขากลับรู้สึกปั่นป่วนไปหมด
‘แปลกจัง… หญิงชราคนนั้นก็ใช้ประโยชน์จากดอกเดด แอนนี่ส์เช่นกัน… แม้แต่คุณปู่ของเขาเอง ก็ยังปลูกพวกมันไว้เต็มสวน แม้ว่าเขาจะเลี้ยงพวกมันไว้เพื่อความสวยงามและความหายากก็ตาม… ไม่คิดเลยว่า ชายหนุ่มคนนั้นจะฆ่าคนไปมากมายอย่างโหดเหี้ยมโดยใช้ดอกเด้ด แอนนี่ส์… และจากที่อาจารย์นาโคลได้อธิบายไว้ ชายหนุ่มน่าจะมีความชำนาญในการใช้มันมากกว่า เมื่อเทียบกับหญิงชราคนนั้นเสียด้วยซ้ำ! ไอ้ดอกไม้บ้าพวกนี้ยังมีอีกจำนวนมหาศาล แม้กระทั่งในราชาแห่งพระราชวังมหาสมุทร!’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง เขารู้สึกสับสนและผิดหวังเล็กน้อยกับข้อมูลบางส่วนที่ไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
จะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในดอกเด้ด แอนนี่ส์ หรือไม่…?