มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1219
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1219
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สาว ๆ ก็ไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณเจอรัลด์ทันทีที่เขาเดินมาถึง
ถึงกระนั้น เจอรัลด์ก็ยังมีอาการเหม่อลอยอยู่เล็กน้อย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ทำให้เขาหวนคิดถึงอดีตตอนที่เขายังเป็นนักเรียนอยู่ที่นี่
ท้ายที่สุด เขาก็ดึงสติตัวเองกลับมาได้ ก่อนจะตั้งท่าถ่ายรูปให้สาว ๆ “เอาล่ะ ฉันจะเริ่มถ่ายรูปให้แล้วนะ ถ้าพวกเธอพร้อม!”
“พวกเราพร้อมแล้ว!” สาว ๆ พูด ในขณะที่กำลังเตรียมโพสต์ท่าถ่ายรูป และหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อได้รับคำยืนยันจากสาว ๆ เจอรัลด์ก็ค่อย ๆ ยกกล้องขึ้น และเมื่อเขาเห็นว่าทุกคนอยู่ในเฟรมเรียบร้อยแล้ว เขาก็พูดว่า “เอาล่ะ ฉันจะนับแล้วนะ หนึ่ง! สอง! สาม บ้าเอ๊ย!”
อยู่ดี ๆ ร่างกายของเจอรัลด์ก็กระตุกด้วยความตกใจและตื่นเต้น จนทำให้กล้องกระเด็นหลุดมือออกไป! ก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น กล้องนั้นก็ร่วงลงกระแทกกับพื้น! เลนส์กล้องมีรอยร้าว และเสียง ‘โลหะกระทบกัน’ ก็ดังออกมาจากด้านในกล้อง ทุกคนรู้ทันทีว่าอะไหล่บางอย่างในกล้องคงจะแตก
ทั้งนี้ทั้งนั้น อาการที่เกิดกับเจอรัลด์เมื่อสักครู่ก็เป็นเพราะเขารู้สึกแปลกภายในใจ นอกจากนั้นแล้ว เขาก็ยังสัมผัสได้อีกว่า จี้หยกของเขาสั่นสะเทือน ในขณะที่เขากำลังพยายามจะถ่ายรูปให้สาว ๆ
เขาเคยรู้สึกแบบเดียวกันตอนที่เขาได้พบกับคุนดรี้เป็นครั้งแรก เขาจึงหันไปหากลุ่มหญิงสาวอีกครั้ง ก่อนจะเกิดความมั่นใจว่า ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้น เมื่อเขาใจจดใจจ่อไปที่หญิงสาวผมยาวที่ยืนอยู่ตรงกลาง ตอนที่กำลังนับถอยหลัง รัศมีของเธอมีแรงดึงดูดบางอย่างอย่างไม่ต้องสงสัย
เธอต้องใช่หญิงสาวที่มีพลังหยินแข็งแกร่งที่เขากำลังตามหาอย่างแน่นอน!
เป็นไปตามที่เจ้าแห่งวิญญาณได้กล่าวเอาไว้ พลังหยินและหยางได้ถูกกำหนดให้มีแรงดึงดูดต่อกัน โดยเฉพาะตอนที่พวกมันได้มาเจอกัน ยิ่งพวกมันเข้าใกล้กันมากเท่าไหร่ พวกมันก็จะยิ่งทำปฏิกิริยาบางอย่างต่อกันมากเท่านั้น
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจอรัลด์รู้สึกว่า เขาได้ตัดสินใจถูกแล้วที่มาตามหาผู้หญิงคนนั้นที่มหาวิทยาลัยเก่าของเขา ไม่คิดเลยว่าหญิงสาวคนนั้นจะเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ในขณะที่เจอรัลด์กำลังถอนหายใจอย่างโล่งอก สาว ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ก็กำลังอยู่ในอาการตกตะลึง พวกเธออ้าปากค้าง และจ้องมองไปที่กล้องถ่ายรูปที่ยังอยู่บนพื้น
กล้องถ่ายรูปตัวนี้มีราคาประมาณเจ็ดพันหกร้อยดอลลาร์! พวกเธอไม่คิดเลยว่า ชายคนนี้จะทำมันหลุดมือตกพื้นไปง่ายดายแบบนั้น!
และแน่นอน ยูลิสาเป็นคนแรกที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอรีบตะโกนเสียงดัง “อ อะไรกันเนี่ย!”
โลกของเธอกำลังกลับตาลปัตร นัยตาของเธอก็พร่ามัวอย่างฉับพลันด้วยความตกใจ กล้องตัวนั้นไม่ใช่ของเธอด้วยซ้ำไป! มันเป็นกล้องที่เธอเช่ามา และในเมื่อมันพัง เธอก็จะต้องเป็นคนจ่ายเงินค่าซ่อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
“แก… ไอ้คนเลว! แกคิดยังไงถึงได้โยนกล้องเราทิ้งแบบนั้น?” ยูลิสาคำราม ก่อนจะวิ่งเข้าไปผลักเจอรัลด์ด้วยความโมโห
แน่นอน เด็กสาวคนอื่น ๆ ก็รู้สึกโมโหไม่ต่างอะไรกับเธอ ความจริงแล้ว มันควรจะเป็นช่วงเวลาที่พวกเธอมีความสุข และพวกเธอก็เตรียมที่จะเก็บช่วงเวลาเหล่านั้นไว้เป็นความทรงจำที่ดี! เป็นใครก็ต้องรู้สึกไม่พอใจที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้ขึ้น
“ในขณะที่เขาดูเหมือนคนที่ทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จสักอย่างแล้ว เขายังเป็นตัวบ่อนทำลายอย่างแท้จริง! พูดจริง ๆ นะยูลิสา! เธอไปหาคนแบบนี้มาถ่ายรูปให้พวกเราได้อย่างไรกัน?!” หญิงสาวคนหนึ่งบ่นด้วยความโกรธ ในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างพากันมองหน้าเจอรัลด์สลับกันไปมา
และยูลิสาในตอนนี้ ก็ทำท่าเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมาให้ได้
เมื่อเห็นเช่นนั้น หญิงสาวผมยาวก็เดินไปหยิบกล้องขึ้นมา ก่อนจะตรวจดูความเสียหายของมัน สักพัก เธอก็พูดว่า “… ฉันไม่คิดว่ากล้องมันพังนะ… เท่าที่ดูคร่าว ๆ ฉันจำได้ว่ากล้องรุ่นนี้จะมีตัวป้องกันอยู่รอบส่วนประกอบต่าง ๆ ของมัน… แต่ถึงอย่างนั้น เราคงจะต้องจ่ายเงินประมาณสองสามร้อยเพื่อซ่อมแซมเลนส์ที่แตกร้าว!”
“ฮึ่ม! นายไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ฉันกำลังโกรธนายมากแค่ไหน! มีคนตั้งเยอะตั้งแยะที่ฉันจะขอให้ช่วยได้ แต่ฉันกลับเลือกนาย! ถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้พวกเราก็คงจะถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว! โอ๊ย… ทำไมฉันถึงโชคร้ายขนาดนี้?!” ยูลิสาบ่นออกมาด้วยความโมโห และไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ฉันติดเงินเธอเท่าไหร่? เดี๋ยวฉันจะจ่ายให้!” เจอรัลด์รีบตอบทันที
“ห๊า! เธอน่ะเหรอ? จ่ายฉันมาเจ็ดพันหกร้อยดอลลาร์สิ เราจะได้หายกัน!” ยูลิสาตอบพร้อมกับถอนหายใจยาว
“เธอขอเขามากเกินไปหรือเปล่า…? หากเขามีเงินให้เราถึงสามร้อยดอลลาร์ ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว! เราช่างโชคร้ายจริง ๆ …!” หญิงสาวคนอื่น ๆ พูด ก่อนจะถอนหายใจเช่นกัน
“ฉันจะจ่ายเงินให้เธอเท่านั้นแหละ!” เจอรัลด์พูด ในขณะที่เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงของเขาเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโอนเงินทันที ทันใดนั้น เขาก็ต้องรู้สึกแปลกใจและอับอาย เมื่อพบว่าโทรศัพท์ของเขาไม่ได้อยู่ในกระเป๋าแล้ว!
เขาพยายามคิดว่าเอาโทรศัพท์ของตัวเองไปทิ้งไว้ที่ไหน จากนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าลืมมันเอาไว้ในรถ ตอนที่กำลังสั่งสอนเด็กวัยรุ่นที่บูชาเงินพวกนั้นอยู่!
ตอนนี้เขามีเงินติดอยู่ในกระเป๋าเพียงหนึ่งร้อยยี่สิบดอลลาร์เท่านั้น! นั่นก็เป็นพราะว่า เขาไม่ค่อยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินสดมานานแล้ว
“…ห๊า! นายทำให้ฉันเกือบจะเชื่อแล้วว่า นายมีเงินพอที่จะจ่ายค่าเสียหายให้เรา!”