มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1218
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1218
หลังจากที่เจอรัลด์โบกไม้โบกมือไล่ทุกคนออกไป เขาก็ตรวจดูอีกครั้งว่าจอดรถเรียบร้อยแล้วหรือยัง ในขณะเดียวกัน เขาก็นึกสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมในทุกวันนี้
หากทุกคนบนโลกนี้เป็นคนรวย แล้วอย่างไรล่ะ? ถ้าเงินแก้ปัญหาทุกอย่างได้จริงดังว่า เขาคงไม่ต้องมาออกตามหาหลายสิ่งหลายอย่างอยู่แบบนี้
เขาสลัดความคิดในหัวออกไป ก่อนจะมองไปที่ตึกของโรงเรียน และเดินตรงไปหามัน เพื่อตามหาหญิงสาวที่มีพลังหยินแข็งแกร่ง
สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเพียงฉากเล็ก ๆ เท่านั้น จากนั้น เจอรัลด์ก็เกิดรู้สึกคิดถึงความหลังขึ้นมาทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปในโรงเรียนอีกครั้ง หลังจากที่จบออกมามากกว่าสองปีแล้ว
เหมือนที่ใครบางคนเคยพูดเอาไว้ว่า ชีวิตของคนเราเปรียบเสมือนเส้นวงกลม ที่มักจะวนเวียนมาบรรจบกันอยู่เสมอ ไม่ว่าคนคนนั้นจะรวยหรือจน สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ต้องกลับมายังจุดเริ่มต้นของตัวเองอยู่ดี
และมันก็เป็นจริงดังว่า ทุกสิ่งทุกอย่างของเจอรัลด์เริ่มต้นจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เจอรัลด์ได้รับรู้ว่า เขาคือทายาทของตระกูลคลอฟอร์ด ในขณะที่ยังเรียนอยู่ที่นี่ นอกจากนั้นแล้ว เขายังได้พบกับรักแรกของเขาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกด้วย
แม้กระทั่งร้านชานมร้านเก่า ก็ยังคงตั้งอยู่ตรงทางเข้าของมหาวิทยาลัย และเจ้าของก็ยังเป็นคนเดิมอีกด้วย
ขณะที่กำลังมองไปที่ร้านค้า เขาก็หวนนึกถึงวันนั้น วันที่มิล่ากำลังยืนซื้อชานม และเธอลืมเอากระเป๋าสตางค์ของเธอมาด้วย… เขาจึงช่วยเธอจ่ายค่าชานมแก้วนั้น และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เขาทั้งสองคนได้พบกัน…
ตอนนั้น ความสัมพันธ์ของเขากับมิล่า เป็นความสัมพันธ์ที่บริสุทธ์และไร้เดียงสา… พวกเขาไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน มันเป็นความสัมพันธ์ที่มีเพียงคำว่า ‘ฉันรักเธอ และเธอรักฉัน’ เท่านั้น… แต่ก็แปลกที่ความสัมพันธ์ที่ดี มักจะอยู่ได้ไม่นาน
ตั้งแต่วันที่เขาได้พบกับเธอ เขาไม่เคยรู้สึกเลยว่า เขาอยากเป็นทายาทของตระกูลคลอฟอร์ด หากเขาเลือกได้ เขาก็ขอเป็นคนจนต่อไปจะดีกว่า เพราะท้ายที่สุดแล้ว มิล่าก็ไม่เคยสนใจเรื่องฐานะของเขาเลยแม้แต่น้อย
หลังจากจบการศึกษา เขาทั้งสองคนก็ควรจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข หลังจากที่ทำงานเก็บเงินไปสักพัก พวกเขาก็อาจจะได้เปิดร้านชานมด้วยกัน ถึงตอนนั้น พวกเขาก็อาจจะทำงานเก็บเงิน จนพอที่จะได้แต่งงาน และเริ่มต้นครอบครัวที่สวยงามด้วยกัน… ทุกอย่างน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี…
พอคิดถึงเรื่องนั้น เจอรัลด์ก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น แต่ก็อีกนั่นแหละ เขาในตอนนั้นก็ไม่สามารถจะมองเห็นเรื่องราวในอนาคตของตัวเองได้อยู่ดี…
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องเหล่านั้น เขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียก “ว่าอย่างไร พ่อรูปหล่อ! ฉันเห็นเธอยืนนิ่งอยู่ตรงนี้ได้สักพักแล้ว รู้ไหม? เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”
พอเจอรัลด์หันไปมองว่าใครเป็นคนเรียกเขา เขาก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งที่มัดผมหางม้ากำลังยิ้ม และโบกมือให้
เนื่องจากเขาไม่ทันตั้งตัวกับคำถามของเธอ เขาจึงได้แต่พูดว่า “… เอ่อ… ใช่ เธอ… ต้องการอะไรจากฉันหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจอรัลด์ เด็กสาวก็หัวเราะออกมา เขาดูตลกจังที่ยืนทำหน้างงอยู่กลางแดดจัดแบบนี้… เธอจึงเกิดความสงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่…
“… คือว่า ฉันกับเพื่อน ๆ อยากจะถ่ายรูปข้าง ๆ ทะเลสาบน่ะ… ฉันก็เลยอยากได้คนมาช่วยเป็นตากล้องให้พวกเรา! พอดีว่าเธอเป็นคนแรกที่ฉันเจอ จะว่าอะไรไหม ถ้าฉันจะขอร้องให้เธอมาช่วยถ่ายรูปให้พวกเราหน่อย พ่อรูปหล่อ?” เด็กสาวถามพร้อมกับยื่นกล้องถ่ายรูปให้เจอรัลด์ เธอเกิดความสนใจในตัวเจอรัลด์ ตั้งแต่เธอมองเห็นเขาจากไกล ๆ มันยากที่จะปฏิเสธว่า เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีเสน่ห์ต่อหญิงสาวที่พบเห็น
“… โอ้ ฉัน… ได้สิ…” เจอรัลด์ตอบ ในขณะที่รับกล้องถ่ายรูปมาจากเธอ ในเมื่อสิ่งที่เธอขอร้องไม่ใช่เรื่องยากอะไร เขาจึงไม่อยากจะปฏิเสธให้เธอต้องเสียความรู้สึก
“ตกลง! แล้วก็ระวังหน่อยนะ นั่นมันกล้องราคาแพง! ฉันหวังว่าเธอจะรู้วิธีใช้มัน ใช่ไหม?” เด็กสาวถาม หลังจากที่เธอสังเกตเห็นว่าเจอรัลด์แต่งกายด้วยชุดธรรมดา เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว เธอก็กลัวว่าเจอรัลด์จะทำกล้องพัง เพราะไม่รู้วิธีที่จะใช้งานมัน
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันรู้!” เจอรัลด์ตอบพร้อมกับพยักหน้า
ในขณะนั้น มีเสียงของหญิงสาวประมาณห้าหกคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ข้าง ๆ ทะเลสาบ ทุกคนกำลังจะขึ้นปีสอง และวันนี้อากาศก็เป็นใจ พวกเธอเลยอยากจะออกมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักครั้ง พวกเธออยากจะเก็บเรื่องราวชีวิตในปีหนึ่งทั้งหมดเอาไว้ในความทรงจำ
มีผู้คนมากมายกำลังเดินเล่นอยู่รอบ ๆ ทะเลสาบ และส่วนมากพวกเขาก็มากันเป็นคู่ หลายคู่แสดงความรักกันอย่างออกหน้าออกตา เช่นโอบกอดกัน โดยไม่แคร์สายสายตาของผู้คนที่กำลังจ้องมองเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนั้น เด็กสาวเหล่านี้จึงรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพวกเขา
“… ว่าแต่ว่า มีใครเห็นยูลิสาบ้างไหม? เมื่อกี้นี้เธอบอกกับเราว่า เจอคนที่จะถ่ายรูปให้แล้ว! แต่ทำไมเธอถึงหายไปนานจัง…?”
“…ตายยากจริง ๆ! พอพูดถึงก็มาเลย! ดูผู้ชายที่เธอพามาด้วยสิ เขาดูหล่อดีนะ ว่าไหม?” เด็กสาวอีกคนพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“หล่อเหรอ? เขาน่ะเหรอ? ห๊า! ฉันว่าเขาดูธรรมดานะ!” เด็กสาวคนที่สามพูดพร้อมกับส่ายหัว
“พอได้แล้วน่ะ นี่พวกเธอกำลังคิดอะไรอยู่? อย่าลืมสิว่าเขามีน้ำใจมาถ่ายรูปให้พวกเรา พวกเราควรจะต้อนรับ และทำตัวให้สุภาพกับเขาหน่อยสิ!” เด็กผู้หญิงผมยาวที่กำลังยืนอยู่ตรงกลางพูดพร้อมกับยิ้มออกมา