มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1110
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1110
หลังจากที่ได้ยินเหตุผลที่ไร้สาระของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจอรัลด์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “เอาออกมาให้เขาดู!”
แวกเนอร์ทำตามคำสั่งของเจอรัลด์ เขาหยิบบัตรเชิญแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู พอเขาได้รับมัน เขาก็รีบตรวจทานอย่างละเอียด
เจอรัลด์นั้นไม่ใช่เด็กที่ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขารู้ดีว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้กับโซอี้กำลังจะทำอะไร
เมื่อเขาเห็นเจ้าหน้าที่คนนั้นกำลังใส่หูฟัง เจอรัลด์ก็ใช้ความสามารถในการหยั่งรู้พิเศษของเขาแอบฟังแผนที่พวกเขาได้วางไว้ เขาจำเสียงของโซอี้ได้ในทันที เธอกำลังออกคำสั่งบางอย่าง “ไล่พวกมันออกไป แล้วก็ไปสืบประวัติของเด็กนั่นมาด้วย จากนั้นก็ส่งคนไปหักหลังพวกมัน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
แวกเนอร์เคยเล่าให้เขาฟังแล้วว่า ตระกูลมินแชลร่ำรวยขึ้นมาได้ก็เพราะพวกเขาพึ่งพาพวกโจรและหัวขโมย ความจริงแล้วต้นตระกูลของพวกมินแชลก็คือพวกโจรสลัดทั้งนั้น
หลังจากที่ได้ยินแผนการของโซอี้ เจอรัลด์ถึงกับต้องพยายามบังคับตัวเองไม่ให้หลุดหัวเราะเสียงดังออกมา
“ต้องขออภัยด้วยนะครับ ท่านสุภาพบุรุษ หลังจากที่ได้ตรวจสอบบัตรเชิญเรียบร้อยแล้ว เราพบว่ามันเป็นของปลอม กรุณาออกจากงานเดี๋ยวนี้เลยครับ!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคำราม
“ปลอมเหรอ? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? นายบอกฉันมาตรง ๆ ดีกว่า เดี๋ยวนี้เลย!” แวกเนอร์ตะโกนออกมา เขายืนขึ้นทันที ตอนนี้เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก
“พวกเราพิสูจน์ได้ว่าพวกมันเป็นของปลอม!” จู่ ๆ เพื่อนของแยสมินก็ตะโกนขึ้นมา พร้อมกับลุกจากที่นั่งของพวกเขาเช่นเดียวกัน
ต่อจากนั้น ชายวัยกลางคนในกลุ่มเพื่อนของแยสมีน ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่บอกให้พวกผู้หญิงรีบเข้างานไปก่อนหน้านี้ได้พูดเสริมขึ้น “เรารู้จักเด็กหนุ่มคนนั้นดี! เขามีชื่อว่าเจอรัลด์ คลอฟอร์ด และเขามาจากเมย์เบอรี่! แต่สิ่งที่ทุกคนควรจะรับรู้ก็คือ เขาเป็นเด็กนักเรียนที่ยากจน!”
“มันเป็นความจริง! แล้วรู้ไหมว่าทั้งสองคนได้ถูกกีดกันไม่ให้เข้างานก่อนหน้านี้อีกด้วย! พวกเขาต้องไปหาซื้อตั๋วปลอมมาแน่ ๆ!” เพื่อนหญิงของแยสมีนอีกคนตะโกนขึ้น
มันค่อนข้างจะชัดเจนว่าทำไมพวกเขาถึงทำเช่นนี้ ในที่สุดแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นเป็นคนของตระกูลมินแชล การที่พวกเขาก้าวเท้าเข้ามาในสถานการณ์ตอนนี้ และให้ความร่วมมือกับพวกมินแชล มันมีความเป็นไปได้ว่าพวกมินแชลจะรู้สึกประทับใจในตัวพวกเขา และถ้าหากพวกเขาโชคดี พวกเขาอาจจะได้รับการช่วยเหลือจากพวกมินแชลในอนาคตก็เป็นได้
นอกจากนั้น มันเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้พวกเขาได้รู้จักพวกพ่อค้าที่ร่ำรวยมากขึ้นอีกด้วย
“นักเรียนยากจนอย่างนั้นเหรอ? แล้วเขาหาวิธีที่จะเข้ามาในงานนี้ได้อย่างไรกัน?”
ในขณะที่ทุกคนในงานกำลังถกเกียงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แยสมีนก็หันมาทางเจอรัลด์ ก่อนจะพูดกับเขาว่า “เธอรู้ไหม ฉันคิดว่าเธอเคยเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาตลอด…พอเห็นว่าเธอเป็นแบบนี้แล้ว…ฟังนะ ถ้าเธอจะมาที่นี่เพื่อหาผลประโยชน์ เธอก็ควรจะหาวิธีหาเงินที่ถูกต้องกว่านี้! ถ้าเธอมีเวลาและความคิดมากพอที่จะทำเรื่องไร้สาระแบบนี้แล้วล่ะก็ ฉันว่าเธอควรจะใช้เวลากับความคิดเหล่านั้นไปหาอาชีพเสริมอื่นทำจะดีเสียกว่า! เธอไม่ควรจะเข้ามาในงานที่มีแต่ชนชั้นสูงอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนี้เลย!”
ขณะที่กำลังมองแยสมีนส่ายหน้าไปมา ทันใดนั้น แวกเนอร์ก็มองไปรอบ ๆ งาน เพื่อที่จะหาคนที่รู้จักเขา เป็นที่น่าแปลกใจยิ่ง เพราะดูเหมือนคนที่อยู่ในห้องจัดงานประมูลที่โอ่อ่านี้จะไม่มีชาวเมืองฮาลิมาร์คเลย เว้นก็แต่พวกมินแชลเท่านั้น
“นอกจากเรื่องที่บัตรเชิญเป็นของจริงหรือของปลอมแล้ว ประเด็นที่สำคัญก็คือ เรื่องที่เรามีเงินมากพอที่จะซื้อสมุนไพรที่นี่หรือเปล่า อย่างนั้นใช่หรือไม่?” เจอรัลด์พูดพร้อมกับส่ายหัวทันที บนใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัย
จากนั้น เขาก็หันหน้าไปทางผู้จัดงาน ก่อนจะพูดต่อว่า “ผมคิดว่าท่านผู้จัดทุกคนคงไม่อยากพลาดโอกาสที่จะทำเงินใช่ไหมล่ะครับ?”
“หากท่านมีเงินมากพอที่จะซื้อสมุนไพรในงานนี้จริง สำหรับพวกเราแล้ว ท่านก็ไม่ต่างอะไรจากแขกสำคัญคนหนึ่งในงานนี้ครับ!” ผู้จัดงานคนหนึ่งตอบ
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เจอรัลด์พูดคือความจริง พวกเขามาที่นี่เพื่อจะหาเงินเพิ่ม พวกเขาคงจะไม่ใส่ใจเรื่องที่ว่าเจอรัลด์และแวกเนอร์นั้นมีตั๋วที่จะเข้างานหรือไม่
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็พูดอะไรไม่ออก เขาได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับหันหลังเดินกลับไป
“…ช่างน่ารำคาญใจเสียจริง!” แวกเนอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยว
และแน่นอน เจอรัลด์เองก็รู้สึกไม่ต่างจากเขา เขาคงไม่ยอมให้เรื่องนี้จบไปเฉย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นั้นจะกลับไป เขาได้ดึงผมของเขาออกมาจำนวนหนึ่ง
และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะใช้มันทำอะไรบางอย่าง
หลังจากที่เจ้าหน้าที่เดินจากพวกเขาไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เขาก็เริ่มสั่นสะท้านไปทั้งตัว ยังไม่ทันที่ทุกคนจะรู้ตัว เขาก็เริ่มส่งเสียงเห่าหอนที่ฟังดูน่าขนลุกเป็นอย่างยิ่ง