ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - ตอนที่ 122 นัดต่อสู้
ซากปรักหักพังโดยรอบและกำแพงแตกสลายพัดไปกับกระแสน้ำวนโดยมีฉินเฉิงเป็นศูนย์กลาง
ด้วยพลังของฉินเฉิงกระแสน้ำหยุดในอากาศเป็นครั้งคราว
ดวงตาของฉินเฉิงเหมือนกับเปลวไฟ ร่างกายของเขาเปล่งแสงออกมา มีเสียงแตกออกดังขึ้น เหมือนกับเสียงกระดูกหัก!
หลังจากผ่านไปนานแสงที่ปะทุออกมาก็ค่อยๆจางหายไป และสถานการณ์โดยรอบก็เริ่มกลับสู่สภาพเดิมอย่างช้าๆ
ทุกอย่างสงบลง ฉินเฉิงยังคงนั่งอยู่โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
เวลาผ่านไปสองเดือนกว่า ผมของฉินเฉิงยาว น้ำที่ไหลลงมากระทบร่างกายของเขาทำให้เส้นผมและขนต่างๆแนบไปกับเนื้อ
ผิดของเขากระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้ใสขึ้นมากมายขนาดนั้น รูปร่างและลักษณะของเขาดูเปื่อมล้นไปด้วยพลัง
"ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งจริงๆ" ฉินเฉิงจับมือของเขาเบาๆและรู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งท่วมท้นไปทั่วทั้งร่างกายของเขา!
และพลังแห่งจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นด้วย
ความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ทำให้ฉินเฉิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เขายกมือขึ้น ดันไปข้างหน้าอย่างช้าๆด้วยฝ่ามือ และน้ำตกที่อยู่ข้างหน้าของเขาก็ขาดออกจากกัน!
"นี่คือความแข็งแกร่งสูงสุดในของระดับรากฐาน!" ฉินเฉิงพึมพำออกมา
ในระยะเวลาเพียงสองเดือนกว่า จากวรยุทธรากฐานขั้นที่สองก้าวกระโดดข้ามไปเป็นขั้นสูงสุด นี่เป็นสิ่งที่ฉินเฉิงคิดไม่ถึงเหมือนกัน
ถ้าเปรียบเทียบกันทั้งโลกใบนี้ ฉินเฉิงในตอนนี้ถือได้ว่าเป็นผู้ทิ่ยู่จุดสูงสุดของเจ้าแห่งพลังปราณโดยแท้จริง
ในตอนแรกฉินเฉิงสามารถกำจัดคนที่ไปถึงขั้นเจ้าแห่งพลังปราณได้ แต่ตอนนี้ฉินเฉิงแข็งแกร่งว่านั้นเป็นร้อยเท่า ตอนนี้เขามั่นใจมากกว่าต่อให้เป็นคนที่ก้าวข้ามพลังของเจ้าแห่งพลังปราณไปแล้วเขาก็สามารถเอาชนะได้
ฉินเฉิงจับไปที่ผมของตัวเองและพูดออกมาว่า "ไม่รู้ว่าที่ใช่เวลาไปนานแต่ไหนในการฝึกฝนครั้งนี้"
พลังลมปราณทั้งหมดดูเหมือนหล่อรวมราวกับสายน้ำ ทะลวงเข้าไปในจุดต่างๆทั่วร่างกาย
ทุกครั้งที่มันทะลวงเข้าไป ร่างกายของฉินเฉิงก็แข็งแกร่งขึ้น
หลังผ่านไปสิบกว่ารอบ ภายในร่างกายของฉินเฉิงก็มาถึงขีดจำกัดแล้ว
และในที่สุดทุกอย่างก็สงบลง
ฉินเฉิงมองไปที่มือทั้งสองข้างของเขาและพูดออกมาว่า "การฝึกฝนสำเร็จแล้ว ได้เวลาออกไปยังโลกภายนอกแล้ว!"
…….
เหลือเวลาประมาณครึ่งเดือนก่อนที่จะถึงวันขึ้นปีใหม่
ฉินเฉิงยังคงไม่ปรากฎตัวออกไปยังโลกภายนอก ซึ่งทำให้หลายคนลืมเรื่องของเขาไปแล้ว
เฮยฉานเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร เพราะว่าเขาก็ได้ยินข่าวมาว่าคุณปู่ซูคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน ตอนนี้เขาได้แต่นอนอยู่บนเตียง ทุกอย่างต้องให้คนอื่นมาดูแล
ขอแค่คุณปู่ซูตายไป เมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่มีอะไรมากดดันเฮยฉานได้ และเขาก็จะทำทุกอย่างสะดวกมากขึ้น
"คุณปู่ซู ทานอะไรหน่อยสิคะ" เซียงเหม่ยเอ๋อถือถ้วยซุปในมือและพูดออกไป
ช่วงเวลาที่ผ่านมากเซียงเหม่ยเอ๋อเป็นคนดูแลคุณปู่ซูทุกอย่าง
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าที่ยืนอยู่ข้างๆก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาขมวดคิ้วราวกับว่ากังวลอะไรอยู่
"ไม่เป็นไร ฉันไม่กิน" คุณปู่ซูโบกมือออกมา
เซียงเหม่ยเอ๋อวางถ้วยซุปเอาไว้ข้างๆ และพูดออกมาว่า "ดูแล้วฉินเฉิงคงจะกลัวจริงๆ"
"เป็นไปไม่ได้!" ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าพูดออกมา "คุณฉินเขาไม่ใช่คนแบบนั้น!"
"ไม่ใช่คนแบบนั้น?" เหล่าซ้งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา "คุณปู่ซูไว้วางใจกับเขามา และตอนนี้คุณปู่ซูก็คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน แล้วฉินเฉิงหละไปไหน? มีเรื่องอะไรที่ต้องไปทำเป็นเดือนๆ? ก็เห็นกันอยู่ว่าเขากลัวชัดๆ!"
"นี่แก!" ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าตวาดออกมา "ถ้าหากนายยังกล้าพูดแบบนี้อีกหละก็ รีบไสหัวไปซะ!"
"ไสหัวไป?" เหล่าซ้งยิ้มออกมา "นายมันก็เป็นแค่คนดูแลบ้าน เรียกง่ายๆก็คือคนรับใช้ มีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้? ทำไม นายคิดว่าคฤหาสน์นี้เป็นของนายหรือไง?"
"เขาเป็นคนใช้ แล้วนายจะทำไม" ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมาจากหน้าประตู
เมื่อหันไปมองก็พบว่าคนคนนั้นก็คือฉินเฉิง
เขาเดินเข้ามาอย่างช้าๆ สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ แต่น้ำเสียงของเขามีความน่าเกรงขามแอบแฝงอยู่
"คุณฉิน!" ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าก้มหน้าลง
ฉินเฉิงโบกมือเพื่อเป็นการบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรให้มากกว่านี้
เหล่าซ้งหัวเราะออกมา "ทำไม ในที่สุดก็กล้าออกมาแล้ว? ฉันคิดว่านายจะหดหัวอยู่ในกระดองทั้งชีวิตเลยเสียอีก!"
ฉินเฉิงหันไปมองที่เขาและตบไปทันที
เหล่าซ้งหลบไม่ทัน ใบหน้าที่ถูกฝ่ามือของฉินเฉิงบิดเบี้ยว ร่างกายของเขาเข้าไปชนกับผนังทันที
"เป็นแค่คนใช้แต่กล้ามาพูดกับฉันแบบนี้?" ฉินเฉิงพูดออกไปโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ
เขามองไปที่เซียงเหม่ยเอ๋อและพูดออกมาว่า "คุณหนูเซียง หวังว่าคุณจะอบรมคนใช้ของคุณให้ดีกว่านี้ ไม่อย่างนั้นผมเอามาให้ฉันสั่งสอนแทนก็ได้"
ดวงตาของเซียงเหม่ยเอ๋อเริ่มมีการเคลื่อนไหว เธอจ้องไปที่ฉินเฉิง ในใจของเธอรู้สึกถึงความหวังเล็กน้อย
เวลาผ่านไปกว่าเดือนครึ่งฉินเฉิงเปลี่ยนแปลไปมาก
การเปลี่ยนแปลงแบบนี้แปลกมาก ยากที่จะบอกว่ามันเปลี่ยนไปตรงไหน แต่แค่รู้สึกแตกต่างไปจากเมื่อก่อน
"นายทำฉันสองครั้แล้วนะ!" ฉินเฉิงลุกขึ้นมาจากซากกำแพงที่เขาไปชน
เขากำหมัดแน่น ความโกรธของเขาถึงขีดสุด เขารวมพลังมาที่หมัดของเขา และหมัดนั้นก็มีแสงสว่างเปล่งออกมาให้เห็น!
ฉินเฉิงเหลือบมองไปที่เขาและพูดออกมาว่า "ถ้าหากอยากตายนักก็เข้ามา"
"หยุดนะ!" และในตอนนั้นเสียงของเซียงเหม่ยเอ๋อก็ดังขึ้น
เธอหันไปมองเหล่าซ้งด้วยสายตาที่เยือกเย็น "ขอโทษเขาเสีย"
"ขอโทษ?" เหล่าซ้งชี้ไปที่จมูกของตนเอง "คุณหนู ผม…."
"ฉันบอกให้นายขอโทษ!" เซียงเหม่ยเอ๋อตวาดออกมา
เหล่าซ้งกัดฟันแน่น เขายับยั้งความโกรธของเขาเอาไว้ ก้มหน้าแลพูดออกมาว่า "ขอโทษ"
ฉินเฉิงไม่ได้สนใจเขา เขามองไปที่เซียงเหม่ยเอ๋อและพูดว่า "เห็นแกที่คุณคอยดูแลคุณปู่ซู ฉันจะไว้ชีวิตเขา"
พูดจบฉินเฉิงก็เดินไปหาคุณปู่ซู และนั่งลงตรงหน้าของเขา
"พวกนายออกไปก่อน" คุณปู่ซูโบกมืออย่างไร้เรี่ยวแรง
เซียงเหม่ยเอ๋อรีบลุกขึ้น พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็พาคนที่อยู่ในห้องทั้งหมดออกไป
ฉินเฉิงมองไปที่ร่างกายของคุณปู่ซู คิ้วของเขาขมวดขึ้นมาเล็กน้อย
ออร่าแห่งความตายของคุณปู่ซูมีมากขึ้นกว่าทุกที มันมากกว่าครั้งแรกที่เขาเห็นอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป คุณปู่ซูจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
"ฉินเฉิง วานเอ๋ออยู่ที่ไหน?" คุณปู่ซูถามออกมาอย่างไรเรี่ยวแรง
ฉินเฉิงอ้าปาก เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะปกปิดที่อยู่ของซูวาน
"วานเอ๋ออยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย คุณไม่ต้องเป็นห่วง" ฉินเฉิงพูดออกมา
คุณปู่ซูพยักหน้าด้วยความยากลำบาก เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่น "ฉันคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน ชีวิตที่เหลือของกวานเอ๋อฝากนายดูแลเธอด้วย…."
"คุณจะไม่ตาย" ฉินเฉิงสูดหายใจเข้า
ตอนนี้ซูวานไม่อยู่ ฉินเฉิงจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาชีวิตของคุณปู่ซูเอาไว้
ต่อให้ต้องแลกกับชีวิตของเขาก็ตาม
คุณปู่ซูหัวเราะออกมา "ร่างกายของฉัน ฉันรู้ดี"
"เจ้าเฮยฉานนั่น…."
"เรื่องของเฮยฉานคุณวางใจได้" ฉินเฉิงพูดออกมาขัดคำพูดของคุณปู่ซู "คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พักผ่อนให้เยอะๆ ดูแลร่างกายของตัวเองให้ดี"
คุณปู่ซูต้องการมอบสมบัติของตระกูลซูให้กับฉินเฉิง แต่ในตอนนั้นฉินเฉิงกลับลุกขึ้นและเดินออกไป
เขาเดินไปที่หน้าประตูและพูดออกมาเบาๆว่า "คุณปู่ซูจะมีชีวิตอยู่ได้มากที่สุดไม่เกินสามวัน"
ในตอนนั้นเซียงเหม่ยเอ๋อก็เดินเข้ามา
เธอยิ้มออกมาเบาๆ "นายคิดจะจัดการกับเฮยฉานอย่างไง? ปรมาจารย์ของตระกูลเซียงของพวกเราจะมาถึงที่นี่ในสามวันให้กหลัง นายต้องการความช่วยเหลือไหม?"
ฉินเฉิงหันไปมองที่เธอ "ไม่เป็นไร ฉันยังสนใจในยาวิเศษณ์นั่นอยู่ ฉันยังไม่อยากจะไปติดหนี้บุญคุณของตระกูลเซียงของพวกคุณในตอนนี้"
พูดจบฉินเฉิงก็หันไปหาชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าและพูดออกมาว่า "ฉันมีเรื่องให้นายช่วยหน่อย"
"เชิญคุณฉินสั่งมาได้เลยครับ!" ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้ารีบเอนตัวลงมาทันที
"ช่วยไปนัดวันต่อสู้กับเฮยฉานแทนฉันหน่อย หลังจากนี้สามวันฉันจะไปรอเขาที่ทะเลสาบหลิวซิน" สีหน้าของฉินเฉิงไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องธรรมดาทั่วไป