ฟีนิกซ์นิพพาน-ตำนานหยวนชิงหลิง - ตอนที่ 61 พระชายาที่เมาอาละวาด
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ตรัสว่า "ในเมื่อเจ้าห้าเคารพเจ้า เช่นนั้นเจิ้นจะเคารพเจ้าห้าสักครั้ง การแต่งงานมันบีบบังคับกันไม่ได้ มิฉะนั้นเกรงว่าภายหลังจะกลายเป็นคู่เวรคู่กรรม เรื่องนี้เจิ้นจะไปอธิบายกับสนมเซียนเอง เจ้าไปเถอะ"
จริงด้วย ยังมีพระสนมเซียน ครั้งนี้นางทำให้แม่สามีของนางขุ่นเคืองอย่างจัง ต้องเตรียมรับมือจากทุกทิศทุกทางแล้ว! หลังจากออกจากห้องทรงพระอักษรแล้ว หยวนชิงหลิงกลั่นดาบยาวสี่สิบเมตรในความรู้สึก หากการฆ่าคนไม่มีความผิด อวี่เหวินฮ่าวจะต้องตายในมือของนางอย่างแน่นอน
หลังจากออกจากห้องทรงพระอักษร ก็มีคนกำลังรอนางอยู่ด้านนอก โดยบอกว่าพระสนมเซียนต้องการพบนาง
แรงกดดันจากภายนอกไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไร แต่ทางพระสนมเซียนมาเร็วที่สุด
ในขณะจำต้องมุ่งหน้าไปยังวังชิ่งยวีของพระสนมเซียน แต่ไม่คาดคิดว่า ในครึ่งทางก็พบเข้ากับฉางกงกง
"พระชายา ไท่ซั่งหวงเรียกพบพ่ะย่ะค่ะ!"
มามาของวังชิ่งยวีกล่าวว่า "ฉางกงกง พระสนมเซียนเชิญพระชายาไปพบก่อนแล้วเจ้าค่ะ ก็แค่มีรับสั่งเพียงไม่กี่คำ จะดีไหมถ้าให้พระองค์เสด็จไปวังชิ่งยวีแล้วค่อยไปที่ตำหนักเฉียนคุนดีไหมเจ้าคะ?"
ฉางกงกงยิ้มเหมือนพระสังขจาย
"ไม่เป็นไร เกรงแต่ว่าไท่ซั่งหวงทรงรอนานแล้วจะไม่พอพระทัย"
มามาไม่สามารถดึงดันได้อีก "เช่นนั้น ขอโปรดพระชายาเสด็จไปที่วังชิ่งยวีหลังจากพบไท่ซั่งหวงแล้วด้วยนะเพคะ"
ฉางกงกงกล่าวว่า "เกรงว่าจะไม่เร็วเยี่ยงนั้น ทางไท่ซั่งหวงมีเรื่องมากมายต้องทำนัก! และมีภารกิจหนึ่งที่ต้องการให้นางออกจากวังไปทำทันที เจ้ากลับไปทูลพระสนมเซียนเถอะ โดยทูลว่าพระชายาจะเข้าวังมาเข้าเฝ้าพระสนมวันหลัง"
สีหน้ามามาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"นี่คือความประสงค์ของไท่ซั่งหวง" ฉางกงกงเตือน
มามาโค้งตัว "เจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นข้าจะกลับไปทูลสนมเซียน"
หยวนชิงหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเดินตามฉางกงกง
ระหว่างทางหยวนชิงกล่าวว่า: "ขอบคุณฉางกงกงที่ช่วย"
"เป็นไท่ซั่งหวงที่มองการณ์ไกลพ่ะย่ะค่ะ" ฉางกงกงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ใช่ ชายชราผู้นั้นช่างหลักแหลมนัก แต่ทว่า จะปกป้องนางได้นานแค่ไหน? ในวังแห่งนี้ มือของเขาสามารถปกป้องนางได้ แต่หลังจากที่นางออกจากวังแล้ว มันก็อยู่ไกลเกินเอื้อม เมื่อมาถึงตำหนักเฉียนคุน ไท่ซั่งหวงกำลังเดินเล่นอยู่ในลาน แม้ว่าจะเดินโซเซ แต่ก็ดูมีชีวิตชีวามากกว่าก่อนหน้านี้
"ถวายบังคมเสด็จปู่" หยวนชิงหลิงก้าวไปข้างหน้าย่อคำนับ เมื่อเห็นพระวรกายที่โซเซ ก็เอื้อมมือออกไปจะช่วยประคองโดยไม่รู้ตัว
ฉางกงกงรีบกล่าวว่า "มิต้อง…"
ไท่ซั่งหวงจ้องเขม้นเขา เขารีบเงียบลงทันที ในใจกลับมีคำโต้ตอบมากมาย เมื่อครู่มิใช่ มิทรงอนุญาตให้คนประคองมิใช่รึ?
"เข้าไปคุยข้างในกันเถอะ" ไท่ซั่งหวงรับสั่ง
หยวนชิงหลิงตอบรับ และช่วยประคองพระองค์เข้าไป
ชายชราไม่ได้นอนลง แต่นั่งขัดสมาธิบนแหย่ง ฉางกงกงปรนนิบัตินำชามาถวาย พระองค์จึงบีบข้อนิ้วอย่างสบายๆ จนเกิดเสียงก๊อกแก๊กดังออกมา
"ข้าได้ยินมาว่า เจ้าไม่เห็นด้วยกับเจ้าห้าจะแต่งชายารองหรือ" ไท่ซั่งหวงไท่หลับพระเนตรลงและตรัสถามอย่างสบายๆ
ช่างเป็นคนทำดีไม่แพร่งพราย คนทำชั่วลือกระฉ่อนไกลถึงพันลี้เสียจริง
"ท่านอ๋องตรัสว่าหม่อมฉันคัดค้าน ก็ถือซะว่าหม่อมฉันคัดค้านเถอะเพคะ" หยวนชิงหลิงไม่สามารถบอกความอัดอั้นได้
"อืม เป็นการคัดค้านที่ดี" ไท่ซั่งหวงตรัสอย่างเฉยเมย
หยวนชิงหลิงมองไปที่พระองค์ "ยังไงเพคะ"
"ทำไมไม่ดี ด้วยวิธีนี้ ตระกูลฉู่จะจัดการกับจิ้งโหวก่อน จิ้งโหวจะมาจัดการกับเจ้า พระสนมเซียนก็จะจัดการกับเจ้า แม้กระทั่งฝั่งของตระกูลซู ก็จะมองว่าเจ้าเป็นหนามยอกอกเช่นกัน"
รู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่น!
ไท่ซั่งหวงลืมพระเนตร และทอดพระเนตรนางด้วยรอยยิ้ม "ยินดีด้วย ต่อไปนี้เจ้าจะเป็นศูนย์กลางของกระแสน้ำวนนี้"
"เห็นแก่ภายภาคหน้าอย่าได้ไร้เยื่อใยเลยเพคะเสด็จปู่" หยวนชิงพูดอย่างอัดอั้น ต้องประชดประชันขนาดนั้นเลยหรือ?
"ไม่ใช่ว่าข้าเป็นคนที่ผลักเจ้าไปสู่เรื่องวุ่นวายนี้ซะหน่อย เจ้าบ่นพึมพำอะไรกัน?"
หยวนชิงหลิงรู้สึกท้อแท้
ไท่ซั่งหวงมองดูนางแล้วตรัสด้วยรอยยิ้มว่า "เอาเถิด ข้าจะเลี้ยงเจ้า"
"หม่อมฉันไม่ดื่มเพคะ" การดื่มสุราอาจทำร้ายตับ นางใช้ชีวิตที่เป็นกฏระเบียบมาก ไม่มีนิสัยแย่ๆ เหล่านี้
"จิบซะหน่อย ปลดปล่อยระบายบ้าง จะได้ไม่รู้สึกเศร้าหมอง ชีวิตมันรันทด ดื่มให้มันเมา ถ้าเมาแล้วจะหาคนส่งเจ้ากลับจวนเอง"
ไท่ซั่งหวงตรัสพร้อมยกพระหัตถ์ขึ้นเรียกฉางกงกงให้ไปเอา
แอลกอฮอล์ที่แรงที่สุดที่หยวนชิงหลิงเคยดื่มในภพก่อนคือแชมเปญ หลังจากดื่มไปสองถ้วย ก็เมาจนหมดสภาพ แต่ทว่า เปลี่ยนร่างแล้วคงจะไม่คออ่อนขนาดนั้นแล้ว อย่างไรก็ตาม คนสมัยก่อนเหล่านี้ก็ดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งคราว เมื่อได้กลิ่นดอกกุ้ยฮวาที่ฉางกงกงนำมาแล้ว นางสูดดม กลิ่นของค่อนข้างดี ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ฉุนแรงนัก
"ข้าดื่มไม่ได้ และฉางกงกงก็ไม่ชอบดื่ม ข้าคิดว่าแค่ดมกลิ่นมันก็ยากนัก" ไท่ซั่งหวงดูสนใจเล็กน้อย
ฉางกงกงรินอยู่ข้างๆ และรินให้พระองค์ถ้วยหนึ่ง หยวนชิงหลิงกดมันด้วยมือข้างหนึ่งแล้วเตือนว่า "พระองค์ดมได้เท่านั้นเพคะ"
"ได้ดมก็ยังดี" ไท่ซั่งหวงสูดหายใจลึกๆ กลิ่นก็ค่อยๆทะลุเข้าจมูก หวนนึกถึงรสชาติของการดื่มแล้วรู้สึกว่าคนทั้งตัวลอยขึ้นเล็กน้อย
"มา เจ้าดื่ม ข้าดมกลิ่น!" พระองค์หยิบถ้วยขึ้นมาแล้วแตะกับถ้วยของหยวนชิงหลิง
พระองค์เอาถ้วยไว้ข้างปาก "รสชาติของนี้เปลี่ยนไปหรือไม่นะ? ทำไมกลิ่นไม่กลมกล่อมเหมือนเมื่อก่อน บ่าวไพร่พวกนี้ ไม่เก็บรักษาให้ดีๆเลย ข้าจะลองชิมดู ถ้ารสเปลี่ยนไปจริงๆ ให้ลากออกไปโบยให้หมด"
หลังจากตรัสก็จิบหนึ่งคำ แล้วเดาะลิ้น "ชิมไม่ออก"
และยกขึ้นและต้องการชิมต่อ ฉางกงกงใช้มือข้าหนึ่งจับไว้กล่าวว่า "ไท่ซั่งหวง แผนนี้ของพระองค์เปลี่ยนได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ทรงหลอกดื่มอีกแล้ว"
ไท่ซั่งหวงเริ่มหงุดหงิด "ข้ายังต้องหลอกดื่มรึ? ข้าอยากจะดื่ม พวกเจ้าแต่ละคนจะหยุดข้าได้หรือ"
"กระหม่อมผิดไปแล้ว เช่นนั้นพระองค์โปรดวางลง ดมต่อเถิดพ่ะย่ะค่ะ" ฉางกงกงกล่าว
ไท่ซั่งหวงต่อว่าพร้อมวางลง และมองดู หยวนชิงหลิง "เจ้าก็ดื่มสิ"
หยวนชิงหลิงจิบหนึ่งคำ รู้สึกยังพอใช้ได้ มีรสหวาน และมีรสแอลกอฮอล์เล็กน้อย เหมือนผลไม้ เช่นนี้ดีกรีคงจะไม่สูงมากนัก
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป
ฉางกงกงถามด้วยความเป็นห่วง "ไท่ซั่งหวง พระองค์ทรงคิดว่าควรทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ"
ไท่ซั่งหวงก็ตกพระทัยเช่นกัน "ข้าจะรู้ได้อย่างไร เจ้าเป็นคนนำมาเอง"
"พระองค์รับสั่งเองนะพ่ะย่ะค่ะ" ฉางกงกงมองพระองค์อย่างประหลาดใจ
"ใครให้เจ้าปล่อยนางดื่มมากเยี่ยงนี้ล่ะ" ไท่ซั่งหวงทรงโกรธ เดิมต้องการทำให้นางเมานิดๆหน่อยๆ จะได้ถามไถ่นางได้บ้าง แต่ไม่คิดว่านางถึงกับดื่มจนเมา
"มาก? นั่นคือสุราดอกกุ้ยฮวา คนทั่วไปดื่มไปครึ่งจินก็ไม่เป็นไรกระมัง? นางดื่มไปเพียงถ้วยเดียว" ถ้วยนั้น ไม่ถึงครึ่งเหลี่ยงด้วยซ้ำ
ไท่ซั่งหวงทรงปวดหัวและปิดหู "บอกให้นางหุบปาก เสียงดังเสียงจริง"
ฉางกงกงมองไปที่หยวนชิงหลิงที่กระโดดขึ้นไปบนโต๊ะที่กำลังด่าทอพร้อมมือเท้าสะเอว นางบ่นพึมพำพูดอย่างไม่หยุด แต่ไม่รู้ว่านางพูดอะไร ดูท่าทางนางกระตือรือร้นมาก
ต่อว่าด่าทอยังพอว่า แต่ยังทุบข้าวของ ถ้าไม่ใช่เพราะปิดประตูตำหนักไว้ เกรงว่าคงจะมีคนเบียดกันเข้ามาดูเป็นแน่
"นางกำลังพูดอะไรน่ะ มันไม่เหมือนภาษาเป่ยถังเลย"
"ภาษานก!" ไท่ซั่งหวงตรัสอย่างแน่วแน่
"เฮ้อ ไปเอาซุปสร่างเมามาให้นาง แล้วส่งออกไปซะ" ฉางกงกงรีบเปิดประตูตำหนักและสั่งให้ขันทีที่ตกตะลึงอยู่ข้างนอกไปเตรียมซุปสร่างเมา ขันทีจากไปด้วยความประหลาดใจ ในห้องโถงเกิดอะไรขึ้น? ฟังดูเหมือนหญิงป่าเถื่อนที่กำลังด่าทออยู่ในตลาด มันเป็นความรู้สึกลวงหรือไม่? ใครจะกล้าด่าทอในตำหนักเฉียนคุน? หญิงป่าเถื่อนจากไหนกัน?
ซุปสร่างเมาถูกนำมา หยวนชิงหลิงด่าทอจนเสียงแหบแห้ง นั่งบนโต๊ะ และหายใจหอบ
"มา ดื่มต่อ!" ฉางกงกงจำต้องเข้าไปที่นาง เหตุใดถึงคออ่อนเยี่ยงนี้ได้? ช่างวุ่นวายจริงๆ
หยวนชิงหลิงหยิบมันด้วยมือข้างหนึ่ง ซุปสร่างเมากระเด็นออกมา แต่นางพูดอย่างกล้าหาญ "ดื่ม ดื่ม… ทำไมนี้ถึงร้อนนัก?"
"ที่อุ่นจะแรงมาก" ฉางกงกงกล่าว
หยวนชิงหลิงดื่มหมดถ้วยทันที จึงรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน นางค่อยๆคลานลงมา เดินไปที่ด้านหน้าของไท่ซั่งหวง และมองที่เขาด้วยรอยยิ้ม "ตาเฒ่า ข้าอยากอาเจียน"
"ไปให้พ้น!" ไท่ซั่งหวงตกใจและดุใส่
"พระชายา อย่าได้เสียมารยาทพ่ะย่ะค่ะ!" ฉางกงกงรีบตะโกนว่า ไฉนเรียกไท่ซั่งหวงเป็นตาเฒ่าได้อย่างไร
หยวนชิงหลิงหันศีรษะด้วยความงุนงง คว้าตัวฉางกงกง รอยยิ้มของนางลึกยิ่งขึ้น "ฉางกงกง ข้าอยากจะ… โอ๊กแหวะ… "
ฉางกงกงมองท้องฟ้าอย่างเศร้าใจ ชุดผ้าไหมที่ไท่ซั่งหวงเพิ่งประทานให้เขา
กู้ซือถูกตำหนักเฉียนคุนตามตัวอย่างกระทันหัน เพื่อมอบหมายงานที่สำคัญ
กู้ซือที่มีท่าทีประหม่าสั่งเกี้ยวสีเขียวออกจากตำหนักเฉียนคุน ผู้ยกเกี้ยวเดินอย่างเร่งรีบ แทบจะวิ่งออกไป เมื่อออกไปนอกวัง ก็เปลี่ยนเป็นรถม้า กู้ซือบังคับรถม้าด้วยตัวเองนางกำนัลของตำหนักเฉียนคุนตามมาหนึ่งคน นั่งอยู่ด้านในด้วยความตกใจมาก
ถ้าฝ่าบาททรงทราบว่า พระชายาทรงเมาอาละวาดที่ตำหนักเฉียนคุนล่ะก็ เกรงว่าทุกคนจะต้องรับโทษแน่