หยวนชิงหลิงมองไปที่นาง "เจ้าหมายความว่ายังไง? "
ตอนนี้ร่างกายของนางอยู่ในอาการไม่สบายต่าง ๆ เพียงแค่เมื่ออยู่ภายใต้ความกดดันที่สูง จึงทำให้นางไม่มีเวลาไปรับรู้มัน แต่เมื่อนางนั่งลงหรือนอนลง นางยังคงรู้สึกว่าอวัยวะภายในของนางมันม้วนเข้าหาทั้งหมด และมันเจ็บปวดยิ่งกว่าความเจ็บปวดของแผล
ฉีมามาส่ายหัว "อันที่จริงแล้ว บ่าวเองก็ไม่ทราบรายละเอียดเช่นกัน บางทีท่านทังหรือองครักษ์ซวีอาจจะทราบดียิ่งกว่า บ่าวรู้เพียงว่าเมื่อเราดื่มน้ำแกงจื่อจินลงไป มันจะะทำให้อวัยวะภายในเสียหายและจะเริ่มมีอาการอาเจียนเป็นเลือด ไอและทำให้ฝันร้ายและอื่น ๆ ก่อนหน้านี้มีคนรับใช้คนหนึ่งแอบเอาของเก่าในจวนอ๋องออกไปขาย และปฏิเสธที่จะยอมรับผิด และยังเอาหัวไปชนกำแพงแล้วฆ่าตัวตาย ท่านทังให้เขาดื่มน้ำแกงจื่อจินเข้าไปแล้ว จากนั้นเขาก็ยอมรับสารภาพ จากนั้นประมาณครึ่งเดือนต่อมาเขาก็เสียชีวิตลง"
หยวนชิงหลิงฟังแล้วรู้สึกหวาดกลัว "แค่ครึ่งเดือนก็เสียชีวิตแล้วหรือ? เป็นเพราะน้ำแกงจื่อจินหรือ?"
"ท่านทังกล่าวว่า หลังจากกินน้ำแกงจื่อจินเข้าไป จะต้องได้รับการรักษาด้วยยาเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่ง ถึงจะกลับมาเป็นปกติได้ แต่คนรับใช้คนนั้นเลวเกินไป ท่านทังไม่ได้รักษาเขาให้ดี ดังนั้นเขาจึงเสียชีวิต และก่อนที่เขาจะเสียชีวิตก็อาเจียนเป็นเลือดเช่นกัน แล้วก็ปวดท้อง ไออย่างแรงและไม่สามารถหยุดไอได้ เมื่อตอนที่เขาเสียชีวิตใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วง "
ไอจนเกิดภาวะขาดออกซิเจน?
ซีมามาลังเลอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า " นอกจากนี้ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาบอกว่าเขาเห็นผีจำนวนมากที่ต้องการจับตัวเขาไปยังยมโลกเพื่อพิจารณาคดี เขากลัวมาก เพราะฉะนั้นน้ำแกงจื่อจินก็มีอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำแกงฝันไปยังยมโลกเจ้าค่ะ"
หยวนชิงหลิงมองไปที่ฉีมามาด้วยแววตาว่างเปล่า จากนั้นค่อยๆ เผยรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมา อวี่เหวินฮ่าว เจ้าเกลียดหยวนชิงหลิงมากแค่ไหนกันนะ? และสิ่งที่น่าขันที่สุดก็คือนางที่เป็นตัวแทนหยวนชิงหลิง กลับต้องใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีเพื่อช่วยชีวิตเขา
หากเรื่องการกลับชาติมาเกิดเป็นเรื่องจริง นางและหยวนชิงหลิงเจ้าของร่างเดิมนี้เคยไปขุดที่ฝังศพบรรพบุรุษของตระกูลของอวี่เหวินรึเปล่า? นางถึงได้รับผลกรรมเช่นนี้
นางเก็บความคิดทั้งหมดกลับมา ที่บอกว่าเห็นผีนั้นน่าจะเป็นภาพหลอน ภาพหลอนที่เกิดจากภาวะขาดออกซิเจนในสมอง ดังนั้นน้ำแกงจื่อจินนี้มีผลทำให้คนกินขาดออกซิเจนจนสร้างภาพหลอนขึ้นมา
ที่นางได้ยินฝูเป่าพูดนั้น เป็นภาพหลอนหรือเปล่านะ?
หยวนชิงหลิงเริ่มสับสนเล็กน้อย
ฉีมามามองไปที่สีหน้าของนาง รู้สึกว่านางน่าสงสาร แต่นางเป็นแค่บ่าวรับใช้ ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปสงสารเจ้านายของนาง
หยวนชิงหลิงกลับไปที่หอเซียวเยว่ ฉีอ๋องและทังหยางยังคงเฝ้าอยู่ด้านในนั้น เมื่อเห็นว่าหยวนชิงหลิงกลับมา ทังหยางก็รีบพูดขึ้นมาว่า " เมื่อสักครู่ท่านอ๋องฟื้นแล้วขอรับ พระชายาคิดว่าควรตามหมอหลวงมาดูอาการหรือไม่ขอรับ?"
"ตอนนี้ยังไม่ต้อง" หยวนชิงหลิงอยากเข้าไปดูอาการ แต่ฉีอ๋องก็ห้ามนางไว้
หยวนชิงหลิงมองไปเจ้ามนุษย์ที่ชอบขัดขวางนี้ด้วยความรำคาญ " ฉีอ๋อง เจ้าต้องการอะไร? "
"ถือโอกาสที่อาการขององค์ชายห้าดีขึ้น เจ้าพูดให้มันให้ชัดเจนดีกว่า ว่าทำไมคุณถึงต้องใส่ร้ายหมิงฉุ่ย" ฉีอ๋องจ้องไปที่นาง
หยวนชิงหลิงปล่อยมือลงข้างลำตัว "เจ้าคิดว่าตอนนี้เหมาะสมหรือไม่ที่จะพูดเรื่องนี้?"
"เหมาะสม อีกสักพักหมิงฉุยจะมาเยี่ยมองค์ชายห้าข้าไม่อยากให้เจ้าทำให้นางไม่มีความสุขอีก"
หยวนชิงหลิงยิ้มเยาะเย้ย "เจ้าช่างใจกว้างเชียวนะ เจ้าไม่รู้หรือว่าเดิมทีคนที่อวี่เหวินฮ่าวจะแต่งงานด้วยคือนาง? เจ้าวางใจที่จะให้ภรรยาของตัวเองนั้นไปเป็นห่วงชายอื่นหรือ?"
ฉีอ๋องโกรธมาก " หมิงฉุ่ยและองค์ชายห้าไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดอย่างที่เจ้าคิด พวกเขาติดต่อกันอย่างเปิดเผยตลอด"
หลังจากได้ยินประโยคนี้หยวนชิงหลิงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
นางไม่รู้ว่า อวี่เหวินฮ่าวกำลังคิดอะไรอยู่ แต่นางรู้ดีว่าฉู่หมิงฉุ่ยคิดอะไรทำอะไรไปบ้าง
เป็นถึงท่านอ๋อง แต่ยังไร้เดียงสาและเชื่อในความชอบธรรมเช่นนี้ ช่างเป็นสิ่งที่มีค่ามาก
ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่นางควรจะโกรธมากๆ หยวนชิงหลิงกลับอ่อนลงและพูดว่า "ใจเย็นๆ ถ้าหากนางมา ข้าจะไม่ทำให้นางอับอายอย่างแน่นอน เว้นแต่ว่านางจะทำตัวขายหน้าเอง"
ฉีอ๋องตกใจ เขาได้เตรียมคำพูดที่เจ็บๆ เพื่อตอบโต้คำพูดของหยวนชิงหลิงมาแล้ว และทันใดนั้นนางก็พูดดี ดูเปลี่ยนไปจากเดิม จนทำให้เขาไม่รู้ว่าควรรับมืออย่างไรดี
จึงทำได้แค่กระซิบและพูดว่า " นางจะไม่ทำให้ตัวเองต้องอับอายอย่างแน่นอน เจ้าไม่รู้ตัวตนของนาง นางเป็นคนที่ดีมาก"
หยวนชิงหลิงตอบกลับด้วยเสียง อืม แล้วเดินไปที่ข้างเตียง แล้วพบว่าอวี่เหวินฮ่าวฟื้นมาแล้ว ไม่รู้ว่าเขาฟื้นเมื่อไหร่ เขาจ้องมองไปที่พวกเขาด้วยตาโต
จุดโฟกัสของเขาค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ โดยจ้องมองไปที่รอยแผลเป็นบนหน้าผากของหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงยื่นมือไปสัมผัสบาดแผล แผลแห้งแล้วแต่เลือดยังไม่ได้เช็ดออก
"ท่านอ๋องรู้สึกอย่างไรเจ้าคะ?" หยวนชิงหลิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับสายตาของเขาที่จ้องมองมา
"ตอนนี้ยังไม่ตายง่ายๆ" เขาพูดด้วยเสียงที่แหบแห้ง แววตามองลงไปด้านล่าง
ฉีอ๋องเบียดเข้ามา พูดด้วยความดีใจ " องค์ชายห้า ตื่นแล้วหรือยัง?"
อวี่เหวินฮ่าวเงยหน้าเล็กน้อยแล้วมองไปที่ฉีอ๋อง "ขอบคุณยาเม็ดจื่อจินของเจ้ามากนะ"
ฉีอ๋องโบกมือด้วยความใจกว้าง "ยาเม็ดจื่อจินมิได้สำคัญอะไร น้องไม่ต้องไปสู้รบในสนามรบ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาเม็ดจื่อจินขอรับ"
อวี่เหวินฮ่าวยิ้มออกมาเล็กน้อย แววตาของเขาเคร่งขรึม
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวว่า " น้องเจ็ด ทังหยาง พวกเจ้าออกไปพักผ่อนก่อน"
ฉีอ๋องกล่าวว่า " ข้าไม่เหนื่อย ข้าพักผ่อนมาแล้วขอรับ" อวี่เหวินฮ่าวถอนหายใจเบา ๆ และมองไปที่ทังหยาง
ทังหยางจับมือฉีอ๋องไว้ "มีอีกเรื่องหนึ่งขอรับ ท่านอ๋องขอรับ กระหม่อมมีเรื่องบางอย่างที่อยากจะถามท่านขอรับ ขอเชิญท่านออกไปกับกระหม่อมสักครู่นะขอรับ"
"มีอะไรก็พูดที่นี่สิ?" ฉีอ๋องพูดด้วยความงุนงง แต่ทังหยางก็ลากเขาออกไป
เดิมทีหยวนชิงหลิงรู้สึกอึดอัดในใจ แต่เมื่อนางเห็นภาพนี้ กลับหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้
อวี่เหวินฮ่าวแสดงท่าทางว่า "เจ้าขยับเข้ามาหน่อย"
เสียงของเขาอ่อนแอมาก ดูไม่มีแรงเลย ชีวิตของเขายังอยู่ในขีดอันตราย แต่ถึงอย่างนั้นสีหน้าของเขาก็ยังเย็นชาอยู่
หยวนชิงหลิงขยับเข้าไปหาเขา เพื่อให้เขาพูดโดยไม่ต้องใช้แรงมากเกินไป "เจ้าว่ามาได้เลย"
"อาหารของเสด็จปู่เป็นอย่างไรบ้าง?" อวี่เหวินฮ่าวถาม
หยวนชิงหลิงคิดว่าเขาจะถามเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของตัวเองเสียอีก แต่ไม่คาดคิดว่าเขาเป็นห่วงอาการของอดีตจักรพรรดิ เกี่ยวกับ แม้ว่าคน ๆ นี้จะมีนิสัยรุนแรงและโหดร้าย แต่เขาก็ยังมีความกตัญญูกตเวทีอยู่
"ท่านป่วยมาเป็นเวลานานแล้ว อาการคงไม่ดีขึ้นในชั่วข้ามคืน"
"ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เข้าวังและดูแลท่านต่อเถิด ข้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว" อวี่เหวินฮ่าวกล่าว
หยวนชิงหลิงมองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ "เจ้ายังไม่พ้นขีดอันตราย หากข้าจากไป เจ้าจะมีโอกาสตายครึ่งต่อครึ่ง"
"ข้ารู้อยู่แก่ใจ วิกฤตนี้ข้าถือว่าผ่านมันมาได้แล้ว "อวี่เหวินฮ่าวกล่าว
หึหึ
มั่นใจแบบสุ่มสี่สุ่มห้า.
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า "ข้าจะอยู่ต่ออีกสองสามวัน และข้าจะกลับเข้าวังเมื่ออาการของท่านอ๋องดีขึ้น"
"ข้าสั่งให้เจ้าไปเจ้าก็ไป! " สีหน้าของอวี่เหวินฮ่าวเย็นชาอย่างมาก ตนไม่สามารถปฏิบัติดีๆ ต่อผู้หญิงคนนี้ได้เลย
"ข้ารู้อยู่แก่ใจ" หยวนชิงหลิงพูดอย่างไม่แยแส
"เจ้า… " แววตาของเขาโกรธมาก และเขาก็ชกไปที่ข้างเตียง เขาคิดว่าเขาชกไปอย่างแรงราวกับฟ้าร้องที่ทรงพลัง แต่จริงๆ แล้วผ้าห่มไม่ขยับเลย เขาแค่ชกลงไปเบาๆ ก็เท่านั้นเอง
หยวนชิงหลิงอดไม่ได้ที่จะสมน้ำหน้าเขา ในที่สุดเจ้าก็มีวันนี้จนได้
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าคนที่ทำร้ายเขาเป็นใคร แต่หยวนชิงหลิงก็รู้สึกขอบคุณคนคนนี้อย่างมาก
"ข้าจะฆ่าเจ้า! " เมื่อเขาเห็นถึงความเยาะเย้ยในแววตาของนาง เขาก็โกรธมากขึ้นกว่าเดิม
หยวนชิงหลิงหันกลับไปหยิบกรรไกรมาและโยนไปที่หน้าเตียงของเขา "เอาสิ! "
อวี่เหวินฮ่าวมองไปที่นางด้วยความเหลือเชื่อ รู้สึกตกตะลึง น่าอับอายมาก น่าอับอายอย่างยิ่ง
"แน่จริงก็มาฆ่าข้าสิ หากไม่สามารถฆ่าได้ ก็ยังต้องเชื่อฟังข้าอยู่ดี ยื่นมือออกมา ได้เวลาให้น้ำเกลือแล้ว" หยวนชิงหลิงพูดอย่างไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา
MANGA DISCUSSION