พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 216 เขาคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 216 เขาคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์
บทที่216 เขาคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์
เมื่อศศินัดดาเห็นโยษิตาแล้ว หน้าถอดสีทันที ถึงแม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ความกลัวของศศินัดดาที่มีต่อโยษิตานั้นยังคงเหมือนเดิม เพียงแค่เห็นโยษิตา ขาของศศินัดดาก็สั่นขึ้นมาทันที
เธอมองไปที่โยษิตากลืนน้ำลายลง แล้วถาม “คุณ……คุณมาได้ยังไง? นี่มันเป็นเรื่องของครอบครัวฉัน คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง”
รพีพงษ์เป็นหลานชายของฉัน แกพูดสิว่าฉันไม่สนได้ไหม?” โยษิตาพูดอย่างเยือกเย็น
สีหน้าศศินัดดาถอดสีทันที แล้วกล่าว “คุณหยุดโกหกได้แล้ว เขาจะเป็นหลานชายคุณได้ยังไงกัน คุณเป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ใช่หรอ รพีพงษ์เป็นแค่สวะตัวหนึ่งของเมืองริเวอร์เท่านั้น”
รพีพงษ์ก็คิดไม่ถึงว่าโยษิตาจะปรากฏตัวในตอนนี้ แล้วยังพูดถึงตัวตนของเขาออกมาอีก นี่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วขึ้นมา
“คุณมาที่นี่ทำไม เรื่องของผมคุณไม่ต้องมายุ่ง” รพีพงษ์กล่าว
“แกทนต่อการดูถูกของไอ้คนพวกนี้ได้ แต่ฉันไม่ ยังไงแกก็ตอบรับที่จะกลับเกียวโตกับฉันแล้ว พูดเรื่องนี้ออกมาแล้วจะทำไม รพีพงษ์ แกคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ เป็นผู้สูงส่ง ไม่ใช่ใครจะมารังแกได้ง่าย” โยษิตากล่าว
“คุณพูดว่าอะไรนะ! เขาคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์??!!” ศศินัดดาตะลึง
ศักดาตาโต คำพูดเมื่อกี๊ตอนที่โยษิตาเข้ามานั้น ทำให้เขารู้สึกตกใจอย่างมาก ตอนนี้โยษิตาพูดว่ารพีพงษ์เป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ เหมือนดั่งเสียงฟ้าผ่าข้างๆหูเลยจริงๆ
อารียาก็ตื่นตระหนก เมื่อก่อนเธอรู้เพียงว่ารพีพงษ์เป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะเป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ แล้วเมื่อกี๊โยษิตาก็บอกว่าเขาตัดสินใจกลับเกียวโตกับโยษิตาแล้ว เขาตัดสินใจกลับไปสืบทอดมรดกแล้วหรอ?”
ต่อไปเขายังกลับมาอีกไหม? ทันในนั้น ภายในใจของอารียาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ เกรงว่าไม่นาน รพีพงษ์จะต้องทิ้งเธอไปแน่ๆ
ศักดารีบเดินไปที่ข้างๆของศศินัดดา แล้วพูดอย่างเสียใจว่า “ผมบอกกับคุณตั้งนานแล้วว่ารพีพงษ์เป็นคนของตระกูลลัดดาวัลย์ คุณก็ไม่เชื่อ ตอนนี้ไงล่ะ คนของตระกูลลัดดาวัลย์เค้ามาถึงที่ แล้วรพีพงษ์ยังเป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์อีก คุณคิดดูดีๆนะเมื่อก่อนที่คุณทำเขาไว้ ถ้าเขาจะหาเรื่องคุณล่ะก็ พื้นที่เล็กๆของพวกเรานี้ จะทนทานต่อเรื่องโมโหของเขาได้ยังไงกัน”
ศศินัดดามองไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาที่เกรงกลัว ถ้ารพีพงษ์เป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์จริงๆล่ะก็ การกระทำทุกสิ่งทุกอย่างของเธอก่อนหน้านี้ เกรงว่าจะสามารถทำให้รพีพงษ์ถล่มเธอได้เป็นร้อยๆครั้ง
ชนิสรามองไปที่ห้องรับแขกด้วยท่าทีที่มึนงงสุดๆ เธอไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าตระกูลลัดดาวัลย์เป็นอย่างไร แต่ดูจากท่าทีของโยษิตาแล้วสามารถรับรู้ได้ว่า ตระกูลนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
หรือที่รพีพงษ์สามารถอยู่วิลล่าที่ดีที่สุดของเมืองริเวอร์ได้นั้น เพราะแท้ที่จริงแล้วเป็นคนของตระกูลใหญ่ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็ทำให้ชนิสราได้เปิดโลกทัศน์ เมื่อก่อนที่เขาอยู่บ้านในชนบทนั้น ไม่มีทางได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้
อาจจะ……มีแค่ตระกูลใหญ่ๆเท่านั้นที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
“รพีพงษ์ แกบอกฉันสิ เธอพูดจริงหรือไม่? แกคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์?” ศศินัดดาถามด้วยเสียงสั่นคลือ
รพีพงษ์เห็นว่าโยษิตาพูดเรื่องนี้ออกมาแล้ว จะปกปิดก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป แล้วอีกไม่นานเขาก็ต้องกลับไปเกียวโต ตลอดหลายปีมานี้ก็อดทนมามากพอแล้ว พูดออกมาก็ไม่เป็นไร
เขาพยักหน้าให้กับศศินัดดา ศศินัดดาและศักดาทั้งคู่ถึงแม้มั่นใจแล้วว่ารพีพงษ์คือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ แต่เมื่อเห็นเขายอมรับด้วยตนเอง ในใจก็ยังรู้สึกบอกไม่ถูกอยู่ดี
ถึงเวลานี้ ศศินัดดาและศักดาทั้งคู่เพิ่งจะเข้าใจ ว่าทำไมตอนนั้นคุณย่าฉัตรอยากให้อารียาแต่งกับรพีพงษ์ ตอนนั้นคุณย่าฉัตรจะต้องรู้ถึงตัวตนของรพีพงษ์เป็นแน่ ถึงได้ทำแบบนี้
ถ้าแบบนี้ คุณย่าฉัตรก็ไม่ได้ทำร้ายครอบครัวพวกเขา แต่กลับมอบโอกาสครั้งใหญ่ให้กับครอบครัวพวกเขา
แต่ทว่าหลายปีมานี้ศศินัดดารังเกียจเดียจฉันท์รพีพงษ์มาโดยตลอด อะไรอะไรก็จะให้อารียาหย่ากับรพีพงษ์ให้ได้ แล้วเขายังด่ารพีพงษ์บ่อยๆอีกด้วย เมื่อในสมองปรากฏภาพความทรงจำเหล่านี้ขึ้นมา เหงื่อก็เริ่มไหลออกมาทุกอนูรูขุมขน
ช่วงหลายปีมานี้ถึงแม้การกระทำของศักดาที่มีต่อรพีพงษ์จะไม่ได้เลวร้ายเท่ากับศศินัดดา แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเท่าไหร่หรอก ที่สำคัญเป็นเพราะเขาไม่ค่อยมีความกล้า หลังจากที่รู้ว่ารพีพงษ์เป็นทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์แล้วนั้น ขาทั้งสองข้างก็ไม่ฟังคำสั่งของเขาอีกต่อไป ได้แต่สั่นไม่หยุด
“ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ฉันทำอะไร รพีพงษ์เป็นสวะที่ไหนกัน เป็นลูกเขยที่ยอดเยี่ยมต่างหาก แล้วฉันยังจะไล่เขาออกอีก ฉันชั่งโง่งมงายเหลือเกิน!” ศศินัดดาพูดกับตัวเอง
โยษิตาเห็นท่าทางของศศินัดดาและศักดาแล้ว สีหน้าก็เริ่มดีขึ้นมา เธอเดินไปด้านหน้าของศศินัดดา แล้วกล่าว “ไปขอโทษรพีพงษ์”
ศศินัดดาไม่กล้าต่อต้าน รีบเดินไปที่ด้านหน้ารพีพงษ์ มองไปที่รพีพงษ์ด้วยสีหน้าที่เสียใจ
“รพีพงษ์ ฉันขอโทษคุณ ขอโทษนะ เมื่อก่อนฉันไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณ คุณอย่าถือสาอะไรฉันเลยนะ ฉันคนนี้ในบางครั้งพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง ความจริงฉันฟังคนนอกมา ถึงได้รู้สึกว่าคุณไม่ดี ถ้าฉันรู้ว่าคุณคือทายาทของตระกูลลัดดาวัลย์ล่ะก็ จะไม่มีทางทำแบบนั้นกับคุณแน่นอน” ศศินัดดากล่าว
ศักดาก็เดินไปข้างหน้าของรพีพงษ์ ด้วยสีหน้าที่อับอาย แล้วโค้งคำนับ กล่าว “รพีพงษ์ เมื่อก่อนฉันทำไม่ดีไว้หลายอย่าง ฉันจะมาขอโทษคุณ หวังว่าคุณจะยกโทษให้ฉัน ถึงแม้เมื่อก่อนฉันจะไม่ได้ดีกับคุณมาก แต่ไม่เคยทำแบบแม่คุณอย่างนั้นแน่นอน ดังนั้น……”
เขายังไม่ทันพูดจบ ศศินัดดาก็ตบไปที่หัวเขาหนึ่งฉาด แล้วด่า “ศักดา แกไอ้หน้าด้าน แกว่าใครทำไม่ดีต่อรพีพงษ์ แกขอโทษก็ขอโทษสิ จะมาพูดถึงฉันทำไม แกไม่อยากอยู่ครอบครัวนี้อีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”
ศักดารีบห่อไหล่ ไม่กล้าต่อต้าน ได้เพียงฟังคำด่าของศศินัดดาเท่านั้น
เทียบกับรพีพงษ์แล้ว ศักดาจึงจะเรียกได้ว่าเป็นไอ้เศษสวะของจริง
รพีพงษ์มองดูทั้งคู่ที่อยู่ตรงหน้า อย่างเอือมระอา
“พอแล้ว พวกคุณยังจะใส่ใจเรื่องนี้อีก ผมไม่มีทางเอาเรื่องของอดีตมาทำอะไรพวกคุณหรอก พวกคุณก็ไม่ต้องเพราะตัวตนของผมแล้วระวังตัวมากขนาดนั้น เพียงแค่ต่อไปอย่าทำอะไรที่มันเกินไปก็พอแล้ว” รพีพงษ์กล่าว
ศศินัดดาและศักดาทั้งสองพยักหน้า ตอบรับรพีพงษ์ ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ไม่กล้าใช้กิริยาท่าทางเหมือนเมื่อก่อนกับรพีพงษ์แล้ว
“แม่ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว งั้นคุณก็ขอโทษพี่สาหน่อยล่ะกัน เธอยังคงทำงานที่บ้านนี้ต่อไป ผมหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นอีก” รพีพงษ์กล่าว
ศศินัดดาพยักหน้า แล้วเดินไปที่ข้างหน้าของชนิสรา จับมือเธอด้วยความตื่นเต้น แล้วกล่าว “น้องสาว เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันทั้งนั้น คุณต้องให้อภัยฉันนะ ต่อไปฉันจะไม่มีทางทำแบบนี้กับคุณอีก ฉันดีใจที่คุณมาเป็นแม่บ้านให้ฉัน ต่อไปฉันจะฟังรพีพงษ์ ให้ความเคารพคุณ”
ชนิสราได้ยินศศินัดดาพูดดังนี้ สายตาที่เคร่งเครียดก็ผ่านคลายลง แล้วพูดกับศศินัดดาว่า “พี่นัดดา คุณเกรงใจไปแล้ว เพียงแค่ต่อไปพวกเรามีมิตรภาพที่ดีต่อกันก็พอแล้ว”
อารียาเห็นสถานการณ์ดีขึ้น ก็ถอนหายใจ ยิ้มแล้วถาม “แม่ ตอนนี้ไม่อยากไล่รพีพงษ์ออกไปแล้วหรอ?”
ใบหน้าของศศินัดดาอับอายขึ้นมาทันที แล้วกล่าว “รพีพงษ์ดีขนาดนี้ ฉันจะไล่เขาออกไปทำไม ครอบครัวเราห้ามขาดรพีพงษ์ ต่อไปนี้ฉันจะเปลี่ยนนิสัยเสียเหล่านั้นของฉันซะ จะไม่มีทางเหมือนเดิมอีก”
อารียาได้ยินศศินัดดาพูดแบบนี้ ก็ชื่นใจขึ้นมา ถ้าศศินัดดาสามารถเปลี่ยนได้จริงๆ งั้นครอบครัวของเธอก็จะไม่ต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งมากมายขนาดนั้นอีกต่อไป
รพีพงษ์เห็นปัญหาได้ถูกแก้ไขแล้ว ก็รู้สึกผ่อนคลายลง จากนั้นก็มองไปที่โยษิตา แล้วถาม “คุณมาที่นี่ คงจะไม่ใช่เพราะเห็นว่าครอบครัวเรากำลังครึกครื้นหรอกนะ?”
โยษิตายิ้ม แล้วกล่าว “ฉันมานี่เพื่อเตือนแกสักหน่อย เวลาที่เรานัดกันเอาไว้หนึ่งเดือน ก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว
“รู้แล้ว ถึงเวลานั้นผมจะกลับไปกับคุณ” รพีพงษ์กล่าว
อารียาได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ในใจก็เริ่มเครียดขึ้นมา แล้วถาม “รพีพงษ์ ครั้งนี้ที่คุณกลับไป ยังกลับมาไหม?”
รพีพงษ์ยิ้ม ลูบผมของเธอแล้วกล่าว “กลับมาแน่นอน ผมจะไม่ไปเป็นทายาทอะไรทั้งนั้น กลับไปเพื่อทำความเข้าใจกับบางเรื่องเท่านั้น จัดการเสร็จเมื่อไหร่ ก็จะกลับมาทันที คุณอยู่ไหน ผมก็อยู่นั่น”
โยษิตาจดจำท่าทีที่รพีพงษ์มีต่ออารียา ดวงตาของเธอมองไปที่อารียา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์