พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 1639 คนของตระกูลเยอซอ
ตวัสมองรพีพงษ์อย่างจำใจ และกล่าวว่า “ผมช่วยคุณไม่ได้ ความสามารถของผมนั้นยังไม่สามารถช่วยคุณได้”
ตวัสรู้ว่าผลการฝึกตนของตนเองอยู่ในระดับไหน ถ้ากับนรเทพแล้วตนเองทำได้อย่างมากสุดก็คือสูสี แต่คนที่อยู่เบื้องหลังนรเทพนั้น ความสามารถของเขาน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ในเทวโลกมีทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรม ต่างก็มีหัวหน้าใหญ่ ถ้าตนเองยืนออกมา ก็จะทำให้ตนเองต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้ด้วย
คำพูดของตวัส ทำให้รพีพงษ์รู้สึกท้อแท้เป็นอย่างมาก แต่ยังไงรพีพงษ์ก็ไม่ยอมแพ้ รพีพงษ์รู้ว่าถ้าเขายอมแพ้แล้ว หนูลินและอารียาก็จะไม่มีชีวิตรอดอีกต่อไป
ตอนนี้คนที่หนูลินและอารียาพึ่งพาได้มีแค่ตนเองเท่านั้น เขากัดฟันและกล่าวว่า “เส้นทางที่ผ่านมา ผมประสบเรื่องมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยากหรือง่าย ผมเคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น เรื่องยากเท่าไหร่ ผมยิ่งต้องไปทำ ผมไม่สามารถละทิ้งหนูลินและอารียาได้”
เมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดเช่นนี้ ตวัสก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ตอนนี้คุณต้องตามหาลูกสาวและภรรยาของคุณให้เจอ คุณจะรออยู่ที่นี่ไม่ได้ คุณต้องไปที่ใจกลางของแดนเทวะสถิต คนที่คุณต้องการหาอยู่ที่นั่น แต่ด้วยผลการฝึกตนของคุณจะเข้าไปที่นั่นได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย”
ตวัสกล่าวตามตรงกับรพีพงษ์ ผลการฝึกตนของรพีพงษ์ต่ำเกินไป ไม่สามารถทัดเทียมกับคนที่นี่ได้
อยู่ในโลกนั้นตนเองเป็นหัวหน้าใหญ่ ไม่ต้องวิตกกังวลใด ๆ แต่เมื่อตนเองมาถึงเทวโลกแล้ว ระดับผลการฝึกตนของเขาสามารถเอาชนะคนได้เพียงแค่ไม่กี่คน
ตอนนี้นี่คือขอบเขตของแดนเทวะสถิต รพีพงษ์ยังไม่พบศัตรูที่เก่งกาจ แต่ถ้าพบ รพีพงษ์จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย
รพีพงษ์หยิบหนังสือกลยุทธ์ออกมาจากเสื้อ และกล่าวว่า “หนังสือเล่มนี้เพื่อนเป็นคนให้ผม ผมคิดว่าถ้าสามารถฝึกวรยุทธข้างในได้สำเร็จ มันจะสามารถพัฒนาระดับผลการฝึกตนของผมได้แน่นอน”
รพีพงษ์หยิบมันออกมา แล้วก็จ้องไปที่หนังสือเล่มนี้
รพีพงษ์รู้ว่า ในเมื่อหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้มันเป็นของเทวโลก มันต้องดีกว่าของในโลกแน่นอน
เขาต้องตั้งใจฝึกฝนให้ดี ตอนนี้ความหวังเดียวของเขาก็คือหนังสือเล่มนี้ ตอนที่อยู่ในมือของปริตร นรเทพยังอยากจะได้มันเป็นอย่างมาก ดังนี้หนังสือเล่มนี้ต้องเยี่ยมมาก
เมื่อเห็นหนังสือกลยุทธ์ ตวัสรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก และรีบหยิบมันมาจากมือของรพีพงษ์ แล้วกล่าวว่า “ผมจะช่วยคุณเข้าไปใจกลางแดนเทวะสถิต แล้วคุณมอบหนังสือเล่มนี้ให้ผมได้หรือไม่?”
รพีพงษ์ดูเหมือนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง และรีบคว้ามันกลับมาจากมือของตวัส
ถึงแม้ว่าตวัสจะมีบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตตนเองเอาไว้ แต่ตนเองก็ไม่สามารถมอบสิ่งนี้ให้กับตวัสได้ เพราะสิ่งนี้ปริตรเป็นคนมอบให้รพีพงษ์ ถึงแม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ฝึก แต่ก็ไม่สามารถตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นได้
รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือสิ่งที่เพื่อนมอบให้ผม ไม่ใช่ว่าผมไม่ยินยอม แต่ไม่สามารถมอบมันให้คุณได้จริง ๆ”
รพีพงษ์รีบเก็บหนังสือของตนเองเอาไว้ ตวัสไม่ใช่คนที่ชอบแย่งชิงของคนอื่น เขากล่าวว่า “ที่ผมพูดเช่นนี้กับคุณ เพราะผมต้องการทำข้อแลกเปลี่ยนกับคุณ แต่ถ้าคุณไม่ยินยอม ผมก็ไม่บังคับคุณอย่างแน่นอน เอาอย่างนี้ ผมเคยบอกแล้วว่าสามารถทำให้คุณเข้าไปในแดนเทวะสถิตได้ ถ้าคุณคิดได้แล้ว ค่อยมาบอกผม ผมพักอยู่ที่นี่ตลอด และจะไม่ไปที่อื่น”
ตวัสกล่าว รพีพงษ์พยักหน้า รพีพงษ์รู้ดีว่า บอกว่าช่วยเหลือแต่แท้จริงแล้วมันเป็นผลประโยชน์ หากไม่มีผลประโยชน์อะไรก็ไม่ใช่
ตวัสนั้นเคยช่วยรพีพงษ์ไว้จริง แล้วก็รพีพงษ์รู้สึกขอบคุณมาก แต่เขาจะไม่ทำเรื่องที่มันล้ำเส้น
“ผมรู้ ผมเชื่อใจคุณ ผมจะค่อย ๆ หาวิธี ผมคิดว่าเรื่องนี้คนอื่นนั้นไม่สามารถช่วยผมได้” รพีพงษ์กล่าว เขารู้ดีว่าทุกอย่างต้องพึ่งพาอาศัยตนเองเท่านั้น
แม้ว่าคนตวัสจะช่วยให้ตนเองเข้าไปในใจกลางเมือง แล้วในอนาคตเมื่อตวัสไม่ได้อยู่เคียงข้างตนเองล่ะ
คนที่รพีพงษ์ต้องจัดการคือคนที่อยู่ในแดนเทวะสถิต และรพีพงษ์สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้ก็ต่อเมื่อความสามารถของตนเองพัฒนาขึ้น
ตอนนี้คนที่น่ากังวลมากที่สุดคืออารียา อารียาไม่ค่อยมีประโยชน์นักเมื่ออยู่ในมือของคนพวกนั้น กลัวว่าพวกเขาอาจจะฆ่าอารียาได้
ตวัสเตือนรพีพงษ์ “คุณกับผมถือว่าเป็นเพื่อนกัน ตอนนี้คุณมาถึงที่นี่แล้ว ผมอยากเตือนคุณว่า มีคนมากมายที่ฝันอยากจะได้หนังสือกลยุทธ์ที่อยู่ในมือของคุณ คุณต้องเก็บรักษาอย่างระมัดระวัง ถ้ามีคนรู้ว่าคุณมีหนังสือกลยุทธ์ เกรงว่าคุณจะถูกคนอื่นฆ่าก่อนที่คุณจะได้พบลูกสาวและภรรยา”
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินตวัสพูดเช่นนี้ ยิ่งรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มีค่ามาก เขาขอบคุณตวัสอย่างรวดเร็ว
ตวัสกลับไปที่ห้องของตนเอง และในสมองของเขาคิดแต่เรื่องหนังสือกลยุทธ์ที่อยู่ในมือของรพีพงษ์ เขาต้องเอาของหนังสือกลยุทธ์เล่มนั้นมาให้ได้
แม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ยอมให้ตนเอง แต่ตนเองก็สามารถฝึกพร้อมไปกับเขาก็ได้ ตนเองเพียงแค่ดูการกระบวนท่าภายในหนังสือก็พอแล้ว
หนังสือกลยุทธ์นี้หายไปนับหมื่นปีแล้ว และตอนนี้ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเบื้องหลังหนังสือนั้นใครเป็นเจ้าของ และใครเป็นคนมอบให้รพีพงษ์?
ตวัสนอนอยู่บนเตียง แสงจันทร์สีขาวส่องแสงมาที่เตียงผ่านหน้าต่าง เขาพลิกไปพลิกมาและไม่สามารถข่มตาให้หลับได้
ตอนนี้รพีพงษ์เพิ่งมาถึงแดนเทวะสถิต ไม่มีใครรู้จักฐานะตัวตนของรพีพงษ์ ทำให้รพีพงษ์ยังคงปลอดภัย แต่ถ้าใครรู้ว่ารพีพงษ์ก็คือคนที่ฆ่านรเทพ คนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับนรเทพจะถือว่ารพีพงษ์เป็นหนามยอกอก ดังนั้นถ้าหากอยู่ใกล้รพีพงษ์จะไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
ตวัสครุ่นคิด ยังไงก็นอนไม่หลับอยู่ดี ดังนั้นเขาจึงตรงไปที่ห้องของรพีพงษ์ทันที
ตอนนี้รพีพงษ์คิดแต่เรื่องจะช่วยภรรยาและลูกสาว และกำลังเปิดดูหนังสือกลยุทธ์ เขาเห็นตวัสเดินเข้ามา จึงเก็บหนังสือกลยุทธ์ทันที
ตวัสเห็นพฤติกรรมของรพีพงษ์ และกล่าวอย่างจำใจว่า “คุณวางใจเถอะ ผมไม่แย่งคุณหรอก ที่ผมมาเพื่ออยากถามคุณว่า คนที่มอบหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้ให้คุณชื่ออะไร นามสกุลของเขาคือเยอซอหรือเปล่า?”
“ใช่ คุณรู้ได้อย่างไร” รพีพงษ์มองตวัสด้วยความแปลกใจ หรือว่าตวัสจะรู้อะไร?
ทันใดนั้นตวัสก็จำได้ว่า เขาได้ยินเทพไม้กล่าวว่าจะรับลูกศิษย์หนึ่งคน ลูกศิษย์คนนั้นจะต้องเป็นคนนามสกุลเยอซอแน่นอน เวลานั้นตวัสสนใจหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้ แต่ตาแก่นั้นไม่ยอมมอบให้ตนเอง
ตอนนี้หนังสือกลยุทธ์เล่มนี้ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และบังเอิญมาถึงมือของรพีพงษ์ ตวัสถามรพีพงษ์ด้วยความสงสัยว่า “ทำไมไอ้เด็กคนนั้นไม่ฝึกเอง แต่กลับมอบหนังสือกลยุทธ์ให้คุณ?”
รพีพงษ์บอกตวัสเกี่ยวกับเรื่องของปริตร ตวัสได้ยินและถอนหายใจอย่างต่อเนื่อง รู้สึกเสียดายจริง ๆ ตอนนั้นกลยุทธุ์วิทยาหารของเทพไม้นั้นยอดเยี่ยมมาก คิดว่าคงเป็นลูกศิษย์ของเขาทั้งหมด เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นลูกศิษย์รุ่นที่เท่าไหร่
ตวัสกล่าวกับรพีพงษ์ว่า รพีพงษ์ควรจะพาปริตรมาที่แดนเทวะสถิตด้วย เพราะปริตรสามารถช่วยรพีพงษ์ได้หลายเรื่องที่รพีพงษ์ไม่คาดคิด
รพีพงษ์ไม่ใส่ใจ เขาแค่รู้สึกว่า เรื่องของตนเองควรจัดการด้วยตนเอง ไม่ควรดึงคนอื่นเข้ามาพัวพันด้วย
ปริตรช่วยเขามามากพอแล้ว ถ้าติดค้างเรื่องเงินนั้นยังดี แต่ถ้าติดค้างเป็นหนี้บุญคุณ การที่จะคืนนั้นมันเป็นเรื่องยาก
ตวัสถอนหายใจ “กลยุทธุ์วิทยาหารของตาแก่ถูกสืบทอดแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่า สืบทอดมาจนถึงรุ่นของปริตรแล้ว แต่เขากลับไม่มีปัญญาฝึก มิฉะนั้นหนังสือกลยุทธ์เล่มนี้จะไม่ตกอยู่ในมือของคุณแน่นอน”