พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 1628 จะทีละคนหรือมาพร้อมกันเลย
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 1628 จะทีละคนหรือมาพร้อมกันเลย
ลูกน้องของคนนั้นก็มองมนุษย์ทองคำอย่างดูถูกเหมือนกัน สำหรับเขาแล้ว นี่ก็เป็นแค่คนตัวเล็ก ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอก
ถ้าเกิดข้อขัดแย้งกันขึ้นมาจริง พวกเขาคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตนเองแน่ ตนเองต้องชนะได้ง่ายๆ ถึงจะถูก
ลูกน้องของเสียงนั้นสวมชุดสีน้ำตาลเข้ม ปิดหน้าปิดตาหมด เขาพูดกับมนุษย์ทองคำว่า “ถ้าเจ้ายอมแพ้ ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า ถ้าเจ้าไม่ยังหัวดื้อ งั้นข้าก็จะไม่ไว้ชีวิตเจ้า”
มนุษย์ทองคำแสยะยิ้ม “เจ้าก็ทำเป็นพูดดีไป พลังของเจ้าใช่ว่าจะสู้ข้าได้ ให้เจ้านายเจ้าออกมายังพอได้ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก”
มนุษย์ทองคำก็ไม่อยากจะพูดกับเขามาก รพีพงษ์สั่งให้มาดูสภาพด้านใน ตอนนี้ก็ทำความเข้าใจไปพอสมควรแล้ว ก็แค่มีพื้นที่รอดจากไฟป่าไม่ใช่หรือไง?
อีกอย่าง ทหารของนรเทพยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า นี่ก็คือสิ่งที่เขาต้องการรู้
แล้วก็ถามชายรูปร่างใหญ่ตรงหน้า “คนที่มาที่นี่ไม่ใช่ข้าคนเดียว ถ้าเจ้าฆ่าทุกคนได้ นั่นจะถือว่าเก่งจริง ข้าพูดมีเหตุผลไหม?”
“ที่มาที่นี่ ส่วนใหญ่ยอมแพ้กันหมดแล้ว ถ้าไม่ยอมแพ้ก็ถูกไฟเผาตาย ข้าเห็นว่าเจ้าพอจะเป็นคนที่ฝึกวิชาได้ ถ้ายอมอยู่ที่นี่ เจ้านายของพวกเราคงจะชุบเลี้ยงเป็นอย่างดี”
มนุษย์ทองคำยิ้มเบาๆ ได้เรื่องตามที่ต้องการแล้ว เดชาคงจะยอมแพ้ไปแล้ว จะไปตายในกองไฟก็ไม่ใช่เรื่องดี ยิ่งกว่านั้นไอ้พวกนั้นคงไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่
มนุษย์ทองคำพูดว่า “ข้าไม่อยากจะพูดมากกับเจ้า วันนี้ข้าออกไปจากที่นี่ พวกเจาทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”
เขาพูดว่าจะกลับออกไป ส่วนรพีพงษ์ก็รู้สึกได้ว่ามนุษย์ทองคำกำลังจะกลับแล้ว ก็เลยเรียกกลับมา
ในตอนนี้คนที่ส่งเสียงก็ปรากฏตัวออกมา และขวางทางของมนุษย์ทองคำไว้
คนที่พูด เป็นคนแก่แปลกๆ ทั้งตัวมีไม้พันไว้ทั้งตัว มนุษย์ทองคำก็พูดอย่างตกใจว่า “เจ้าคือปีศาจต้นไม้งั้นหรือ?”
“ทำไมพูดน่าเกลียดแบบนี้ล่ะ คำว่าปีศาจต้นไม้ไม่เหมาะจะมาใช้ที่นี่ ข้าอยู่ที่นี่มานานแล้ว ควบคุมดูแลพวกเทพภูผาแถวนี้ ดังนั้น ที่ให้อยู่ที่นี่ ก็ถือว่าไว้หน้ามากแล้ว ตอนนี้เจ้าคิดจะกลับไป งั้นข้าก็เอาเจ้าไว้ไม่ได้แล้วล่ะ”
เทพภูผาออกโจมตีมนุษย์ทองคำ รพีพงษ์เรียกอยู่อีกฝั่ง มนุษย์ทองคำก็กลับมายังข้างๆ รพีพงษ์ แล้วก็เอาสิ่งที่พบเจอบอกกับรพีพงษ์
รพีพงษ์ก็ตกใจ บนภูเขามีเทพภูผาด้วยหรือนี่ คิดดูแล้วก็น่าจะเป็นไปได้ ไม่อย่างนั้นไฟป่าคงลุกลามเผาทำลายสรรพชีวิตไปหมดแล้ว
เมื่อนึกไปแบบนี้ มนุษย์ทองคำก็กลับเข้าไปในตัวของรพีพงษ์
เทพภูผาอยู่อีกฝั่งก็ไม่พอใจ มีชีวิตอยู่มานานขนาดนี้ ยังไม่เคยมีใครหนีรอดออกไปจากเงื้อมมือตนเองได้เลย มนุษย์ทองคำคนนี้ช่างเก่งจริงๆ
เขาเก่งแบบนี้ ถ้าสามารถรับมาไว้ใช้งาน หรือไม่ก็ฆ่าทิ้งเสีย แล้วดูดพลังทิพย์ในตัว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คงจะดีกว่าที่ตนเองฝึกวิชาเป็นร้อยปีหรือเปล่านะ?
ตอนที่คิดไปนั้น ก็มีคนตามเข้ามาดู รพีพงษ์เห็นเข้า ก็คิดว่าน่าจะเป็นคนที่มนุษย์ทองคำเอ่ยถึง
เทพภูผามองรพีพงษ์ คนเมื่อครู่นี้ ไม่ใช่รพีพงษ์หรอกหรือ? เขาก็ยิ้มอย่างได้ใจว่า “คิดไม่ถึงนะว่าเจ้าจะเร็วเหมือนกัน แต่ว่าเจ้าต้องรู้ไว้นะว่า ไม่มีใครหนีไปจากฝ่ามือข้าได้ และยิ่งอยู่ในพื้นที่ของข้าแล้วด้วย”
รพีพงษ์ยิ้มเบาๆ “ผมไม่ได้หนี แต่คนที่ท่านบอกเมื่อครู่ คงจะไม่ใช่ผมหรอก ท่านเป็นถึงเทพภูผา ช่วยปกปักรักษาให้ที่นี่สงบสุข ผมคิดว่าคงไม่มาหาเรื่องกับคนรุ่นหลังอย่างผมหรอกนะ”
ตอนที่รพีพงษ์พูดนั้น มีมารยาทตลอดเวลา แต่เทพภูผาไม่ได้ใส่ใจรพีพงษ์เลย แล้วก็ยิ้มเย็นพูดว่า “ข้าจะเป็นเทพภูผาอย่างไร ต้องให้เจ้ามาบอกด้วยหรือไง ตอนนี้เจ้าจะอยู่กับข้า ทำงานให้ข้า หรือจะให้ข้าฆ่าเจ้า จะได้ดูดเอาพลังทิพย์ในตัวเจ้าพอดีเลย”
รพีพงษ์ได้ยินก็รู้สึกขำ แล้วก็ยิ้มถามแบบนี้เลศนัยว่า “ทำไมคุณมั่นใจขนาดนี้ ว่าจะสามารถฆ่าผมได้?”
“ถ้าเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะว่าเจ้าหนีไปได้เร็ว เจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าแน่” เทพภูผามองรพีพงษ์อย่างได้ใจ เมื่อครู่นี้การกระทำของมนุษย์ทองคำนั้น ในสายตาของเทพภูผามองว่าเป็นการหลบหนี ดังนั้นถ้าเขาจะตามไปก็ไม่มีทางชนะได้
รพีพงษ์ก็ยิ้มเบาๆ แล้วอธิบายให้เทพภูผาว่า “ท่านจำผิดแล้ว นั่นไม่ใช่ผม เป็นแค่จิตวิญญาณเทพของผมเท่านั้นเอง ตอนนี้วิญญาณของผมสมารถหลบหนีออกไปจากเงื้อมมือของท่านได้ แล้วท่านจะเป็นคู่ต่อสู้ของผมได้อย่างไรกัน อีกอย่าง ต่อให้ผมอยู่ที่นี่ก็ช่วยอะไรท่านไม่ได้หรอก ผมเป็นคนตรงๆ ใครไม่หาเรื่องผม ผมก็ไม่หาเรื่องใคร ตอนนี้คุณมาหาเรื่องผมก่อน ผมก็จะเล่นด้วยจนถึงที่สุด”
เทพภูผาได้ยินรพีพงษ์พูดดังนั้น ก็ตกใจเล็กน้อย แล้วก็หัวเราะลั่นออกมา รพีพงษ์ก็มองคนต่ำไป
คนอื่นไม่แน่ว่าจะสู้ได้ แต่ว่ารพีพงษ์ไม่มีปัญหาแน่นอน เขาอายุเพียงเท่านี้จะมีพลังเท่าไรกันเชียว เทพภูผาไม่เชื่อ
เทพภูผาปรบมือ แล้วก็กลายเป็นร่างมนุษย์ กิ่งไม้รอบๆ ตัวเขาก็ค่อยๆ ขยายออก แล้วกลับเข้าไปในตัวเหมือนเดิม
ตอนนี้เห็นเป็นแสงสีเหลืองอ่อนๆ แล้วก็มีหลายคนปรากฏออกมา
ดูเหมือนว่าจะเป็นคนของเทพภูผา คนพวกนี้ก็มองรพีพงษ์ และรอคำสั่งของเทพภูผา
รพีพงษ์ก็มองพวกเขา แล้วก็แกล้งพูดอย่างกลัวๆ ว่า “ท่านเรียกคนมากมายมาทำไมกัน จะฆ่าผมงั้นหรือ แต่ว่า จะฆ่าผมไม่เห็นต้องใช้คนมากมายแบบนี้เลย ท่านลงมือเองก็ได้แล้ว”
เทพภูผาไม่อยากลงมือเอง สำหรับเขาแล้ว คนแบบรพีพงษ์มันเด็กๆ รพีพงษ์โอหังแบบนี้ ตอนที่อยู่ในป่า เขาแค่ใช้พลังยังไม่ถึงสามส่วน จิตวิญญาณของรพีพงษ์ก็หนีไป ตอนนี้มาเจออีกครั้ง เขาจะต้องเอาชนะได้รพีพงษ์ให้ได้
เขาคิดว่าถ้าตนเองลงมือเองจะเสียเกียรติ ที่นี่ล้วนเป็นคนของตนเอง กำลังรอคำสั่งอยู่ ต่อจากนี้ต่อให้รพีพงษ์คิดเปลี่ยนใจก็ไม่มีทางแล้ว
เทพภูผามองไปที่ตัวของรพีพงษ์อีกครั้ง หวังว่ารพีพงษ์จะสามารถมาเป็นคนของตนเองได้ เขาต้องการรวบรวมคนเก่ง อยากจะรวบรวมป่าผืนนี้ จะต้องใช้คนเก่งๆ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จปีไหน
เทพภูผาคิดในใจ แล้วก็พูดกับรพีพงษ์อีกว่า “ถ้าเจ้าเปลี่ยนใจ อยากจะมาเป็นคนของข้า ข้าก็จะรับปากเจ้าได้เสมอ เพราะถึงอย่างไรข้าก็ต้องการคนเก่ง”
รพีพงษ์พูดอย่างไม่สนใจ “จะพูดมากไปทำไม จะเข้ามาทีละคน หรือพร้อมกันเลยล่ะ?”
เทพภูผาขมวดคิ้ว แล้วประชดว่า “เจ้ากลัวงั้นหรือ ข้าได้ให้โอกาสเจ้าแล้ว ไอ้หนุ่มเอ๋ย เจ้าคิดให้ดีนะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ คนฉลาดเท่านั้นที่รอด ตรรกะนี้เจ้าก็น่าจะฉลาดนะ คงจะรู้ดี”
รพีพงษ์ยิ้มอย่างเอือมระอา เทพภูผานี้ดูเหมือนจะเสียดายคนเก่ง แต่ว่าตนเองไม่ใช่คนที่เขาต้องการ พวกเดชายังไม่ตาย จะต้องถูกรับไปเป็นลูกน้องแล้วแน่ๆ
งั้นก็แสดงว่าแผนทั้งหมดที่ตนเองสร้างมาอย่างยากลำบาก ก็เสียเปล่าสิ ต่อให้ไม่ดับไฟป่า เทพภูผาก็จะมาจัดการเองอยู่แล้ว
รพีพงษ์ก็พูดอย่างมั่นใจว่า “ผมได้ตัดสินใจไปแล้ว จะเปลี่ยนง่ายๆ เข้ามาพร้อมกันเลย ทีละคนมันลำบากเปล่าๆ ……”