“นี่พวกเธอฉันจะจัดวันเกิดไปด้วยนะ” เอมม่าชวนเพื่อนๆ อย่างตื่นเต้น
“วันไหน”
“พรุ่งนี้เย็น”
“ที่ไหน”
“ผับ4king พวกเธอต้องไปนะ”
“ไหนเธอบอกไม่ค่อยมีเพื่อน” ปริมถามอย่างสงสัย
“ก็..เพื่อนต่างคณะไง ไปนะ พราวด้วยนะจ๊ะ” พราวฟ้ามีสีหน้าลำบากใจ
“คือ..เราต้องกลับบ้านน่ะ” พราวฟ้าหาทางเลี่ยง
“ได้ไง ไปนะ ไปเถอะนะ” เอมม่าตื้อต่อ
“คือ…”
“นะปริมนะ พวกเธอเป็นเพื่อนฉันนะ ฉันจัดงานวันเกิดทั้งทีจะไม่ไปจริงๆ เหรอ” ปริมถอนหายใจ เหลือบตามองพราวฟ้า
“อืมๆ”
“พราวละ ไปนะ ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง อะตอมก็ไป ใช่ไหมอะตอม”
“พราวไปฉันก็ไป” พราวฟ้ามีสีหน้าลำบากใจ
“อืม แต่เราไม่กลับดึกนะ” ความจริงเธอไม่อยากไปเลยด้วยซ้ำ เธอไม่ชอบเที่ยวสถานที่แบบนั้น
“เยส ขอบคุณมาก แล้วฉันจะแนะนำไคล์ให้พวกเธอรู้จัก” พราวฟ้าหายใจสะดุด หลบตาสายทุกคน เธอกลัวว่าจะทำให้คนอื่นสงสัยเอา
“เขายังยุ่งอยู่กับเธออีกเหรอ” ปริมถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไคล์มีชื่อเสียงด้านผู้หญิง เขาใช้ผู้หญิงไม่เคยซ้ำหน้า
“ยุ่งสิยะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะไม่ปล่อยไคล์ไปง่ายๆ หรอก” พราวฟ้ากำกระโปรงแน่น เม้มปากเป็นเส้นตรง
เธอไม่ได้เจอไคล์มาสองวันแล้ว ตั้งแต่วันที่เขาพาเอมม่าไปที่ห้อง แต่ถ้าเจอเธอก็ไม่รู้จะอยากมองหน้าเขาไหม เรื่องที่คุณทิพย์อาภาชวนไปทานข้าวที่บ้านเธอก็ไม่ได้คิดจะถามเขาด้วยซ้ำ
“เธอควรทำตัวให้มีคุณค่ากว่านี้นะ” ปริมเตือนเพราะว่าเห็นเป็นเพื่อนกัน
“ทำตัวยังไงถึงบอกได้ว่ามีคุณค่า ถ้าฉันมัวแต่เงียบๆ ไคล์ก็หลุดมือฉันสิ” เหมือนอย่างเธอใช่ไหม
“แต่เขาจะรำคาญเอาน่ะสิ”
“ไม่มีทาง เผลอๆ ตอนนี้เขาอาจกำลังหลงฉันอยู่ก็ได้” เอมม่าพูดอย่างภูมิใจ
“เอาที่เธอสบายใจ”
“แน่นอน แต่พวกเธอตกลงแล้วนะว่าพวกเธอจะไป แต่งตัวสวยๆ ด้วยล่ะ ฉันไปล่ะมีนัด”
“พราวเป็นอะไรรึเปล่า” อะตอมสังเกตพราวฟ้ามาสักพักแล้ว เธอหน้าซีดลงเรื่อยๆ แถมยังตัวสั่นนิดๆ
พราวฟ้าสะดุ้งเมื่อโดนจับที่แขน สติของเธอกลับมา
“อะไรเหรออะตอม”
“หน้าพราวซีด ไม่สบายรึเปล่า”
“ใช่พราว ช่วงนี้พราวเป็นอะไรรึเปล่า เราเห็นพราวเหม่อบ่อยมาก มีอะไรไม่สบายใจเล่าให้พวกเราฟังได้นะ” ไม่ใช่แค่อะตอมที่สังเกตพราวฟ้าปริมเองก็ด้วย ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าเพื่อนเธอแปลกๆ ชอบเหม่อลอย แต่ก่อนพูดน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พักหลังมายิ่งพูดน้อยกว่าเดิม
“เราปวดหัวน่ะ”
“ปวดมากไหม”
“ไม่จ๊ะ เราว่าจะกลับไปพัก ขอตัวก่อนนะ” พราวฟ้าโกหกทั้งที่เธอหัวเธอจะระเบิดอยู่แล้ว
“ให้ตอมไปส่งนะ” พราวฟ้าเหลือบตามองเพื่อน เห็นสายตาเป็นห่วงแล้วปฏิเสธไม่ลง แถมเธอยังปวดหัวมากด้วย
“อืม”
“ฝากขับรถกลับด้วยนะปริม” อะตอมยื่นกุญแจรถของตัวเองให้ปริม
“ได้ สบายมาก” วันนี้ปริมไม่ได้เอารถมา เจ้าลูกชายของเธอไม่รู้เป็นอะไรงอแงบ่อยมาก จะเข้าศูนย์อีกแล้ว
“ป่ะ”
อะตอมขับรถมาส่งพราวฟ้าที่คอนโด นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่พราวฟ้าให้เพื่อนมาที่คอนโดของเธอ
“พราวย้ายมาอยู่คอนโดตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมตอมไม่เห็นรู้เลย” อะตอมถามด้วยความสงสัย
“สักพักแล้วละ พราวเห็นว่าไม่ได้สำคัญอะไรเลยไม่ได้เล่าให้ฟัง” ความจริงเธอก็ไม่ได้อยากให้อะตอมมาส่งหรอก แต่เพราะเธอปวดหัวมาก ปวดมากจริงๆ กลัวว่าตัวเองจะเกิดอุบัติเหตุเลยต้องยอมให้เพื่อนชายคนนี้มาส่ง
“ให้ตอมขึ้นไปส่งบนห้องไหม”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณมากนะที่ขับรถมาส่ง เสียเวลาตอมแย่เลย”
“ตอมเต็มใจ ขึ้นห้องดีๆ นะ กินยาแล้วก็นอนพักด้วยล่ะ ตัวก็ไม่ร้อน ไม่มีไข้แต่ปวดหัวใช่ไหม” อะตอมวางมือบนหน้าผากมนเพื่อวัดไข้ พราวฟ้าก็ไม่ได้ขัดขืนเพราะเริ่มชินกับการดูแลของอะตอมแบบนี้ซะแล้ว
“อืม”
“งั้นขึ้นห้องเถอะตอมไม่กวนแล้ว ถ้าพรุ่งนี้ไปเรียนไม่ไหวก็บอก และถ้าตอนเย็นไม่อยากไปงานวันเกิดเอมม่าก็ไม่ต้องไปนะ ตอมรู้ว่าพราวไม่ชอบอะไรแบบนั้น” พราวฟ้าพยักหน้า
“จ๊ะ ไปนะ” ทั้งสองคนลงจากรถ อะตอมก็ยื่นกุญแจรถให้พราวฟ้า ส่วนตัวเขาเองก็ขึ้นแท็กซี่กลับคอนโด
พราวฟ้าเดินเข้ามาในคอนโด ด้วยอาการปวดหัวตุบๆ พอเข้ามาในลิฟต์เธอก็หลับตาถอนหายใจออกมาแรงๆ
“ร่านดีหนิ ผู้ชายมาส่งถึงที่ ทำไมไม่ชวนขึ้นห้องด้วยล่ะ” เสียงเข้มดุดันคุ้นหูที่ได้ยิน ทำให้พราวฟ้าลืมตาขึ้น ก็พบกับคนที่ไม่ได้เจอมาหลายวัน
เธอมองเขานิ่ง คิ้วขมวดเข้าหากัน ประมวลผลสิ่งที่เขาพูดไม่ทัน อาจเป็นเพราะตอนนี้เธอปวดหัวมาก
“ฉันไม่อยู่สนองให้แค่ไม่กี่วันนี่ถึงขนาดต้องหาคนอื่นเลยรึไง สภาพถึงได้กลับมาอย่างนี้” ไคล์ยังปล่อยวาจาร้ายกาจใส่ผู้หญิงตรงหน้า
พราวฟ้าไม่ได้สนใจคำพูดร้ายกาจของเขา ยกมือขึ้นนวลขมับ เธอไม่มีแรงจะทะเลาะกับเขา เขาอยากจะกล่าวหาเธอยังไงก็เชิญ
ดีที่ในลิฟต์ไม่มีใครมีแค่ทั้งสองคน
พอถึงชั้นที่เธอและเขาอยู่พราวฟ้าก็เดินออกจากลิฟต์โดยไม่สนใจเขา
“นี่ พูดด้วยไม่ได้ยินรึไง” ไคล์หัวเสียที่ถูกเมิน คว้าแขนพราวฟ้าที่กำลังจะเดินออกไป
“ฉันปวดหัว” พราวฟ้าพูดเสียงเบาหวิว บิดแขนออกจากการเกาะกุมของเขา
“เอากันถึงไหนล่ะ สภาพถึงได้เป็นแบบนี้ ฉันเคยบอกเธอรึยังว่าฉันไม่ชอบใช้ผู้หญิงร่วมกับคนอื่น” ไคล์กำแขนเธอแน่น พราวฟ้าเม้มปากแน่นกับคำกล่าวหานั้น เขาหาว่าเธอนอนกับคนอื่นทั้งที่เธอไม่ได้ทำ แล้วทีเขานอนกับคนอื่นล่ะ เธอยังไม่เคยว่า
เธอรู้สึกว่าพื้นมันเริ่มเอียง
“ปล่อย” เธอบอกให้เขาปล่อย ก่อนที่เธอจะทรงตัวไม่อยู่ และล้มลงไปตรงนี้
“ถ้าแม่ฉันรู้คงภูมิใจมากที่ลูกสาวสุดที่รักร่านแบบนี้”
ทำไมเขาเป็นคนที่ทิฐิเยอะแบบนี้ มองอะไรในแง่ร้ายไปหมด
“ไคล์” พราวฟ้าเรียกชื่อเขาเสียงแผ่ว ตัวเอนเอียงไปมา ภาพตรงหน้าเริ่มเลื่อนราง และค่อยๆ มืดลง
“เอ๊ย” ไคล์ร้องเสียงหลงเมื่อร่างบางตรงหน้าจะล้มลง ดีที่เขาเข้าไปรับไว้ทัน
“เป็นอะไรวะ” เขากอดเอวเธอไว้ พยุงไปที่ห้องหน้า เปิดประตูเข้าไปอุ้มร่างบางไปนอนที่โซฟา ทั้งที่ความจริงเขาอยากจะทิ้งเธอไว้ที่หน้าประตู
“อย่ามาตายที่ห้องฉันนะ” ไคล์พูดกับคนที่นอนหลับสนิท ตอนนี้อารมณ์เขายังไม่คงที่ และมันยิ่งเดือดขึ้นเมื่อคนตรงหน้าไม่ปฏิเสธคำที่เขาพูด
เขาเห็นตั้งแต่รถของเธอจอดสนิท สงสัยอยู่ว่าทำไมไม่ลงจากรถสักที แต่พอลงมาเขาก็รู้ทันทีว่าทำไม
ผู้หญิงที่แม่เขาบอกว่าดีนักดีหนา อยากให้เป็นเมียเขา ที่จริงก็ไม่ได้ต่างจากผู้หญิงคนอื่นสักนิด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไคล์ขมวดคิ้ว เป็นโทรศัพท์ของพราวฟ้า ไคถือวิสาสะเปิดกระเป๋าแล้วหยิบมันออกมา มองชื่อที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอแล้วขมวดคิ้ว
เขายกยิ้มที่มุมปากแล้วกดรับทันทีโดยไม่ต้องคิด
(พราว กินยารึไง) เสียงผู้ชายรอดผ่านเข้ามา เขาก็รู้ได้ทันทีว่าไอ้คนนี้คือคนที่มาส่งเธอ เป็นห่วงกันจริงนะ
(พราวได้ยินรึเปล่า) อะตอมถามย้ำเมื่อไม่มีคนตอบ
“หลับไปแล้ว” ไคล์พูดเสียงเรียบ ทางคนที่โทรเข้ามานิ่งเงียบทันที
(นายเป็นใคร มารับโทรศัพท์พราวได้ยังไง) อะตอมถามเสียงร้อนรน
“หึ แล้วมึงคิดว่ากูเป็นใครล่ะ ถึงจะรับโทรศัพท์แทนเจ้าของเขาได้” ไคล์หัวเราะเบาๆ
(พราวอยู่ไหน) อะตอมถามเสียงเรียบ เขารู้สึกห่วงพราวฟ้าขึ้นมาจับใจ
“หลับไปแล้ว คงเพลีย” ไคล์พูดอย่างกำกวม
(แกทำอะไรพราว)
“ฮ่าๆ ถามโง่ๆ กูจะบอกให้นะ ว่าผู้หญิงใสๆ ที่มึงเห็นนะ ร้ายกว่าที่มึงคิด”
พูดแค่นั้นไคล์ก็ตัดสายทิ้งไปแล้วปิดเครื่องทันที มุมปากร้ายกาจที่พึ่งพ้นคำร้ายๆ ออกไปยกยิ้มขึ้นมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมืออย่างพอใจ
ยัดมันลงในกระเป๋าเหมือนเดิม มองร่างบางที่หลับอยู่ด้วยสายตาเรียบเฉย หวังว่าคงไม่ตายหรอกนะ เพราะเขาไม่มีเวลาเผาศพใคร
ไคล์เดินเข้าห้อง อาบน้ำเปลี่ยนชุดและออกมาข้างนอก เขาก็ยังเห็นว่าพราวฟ้ายังหลับอยู่คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
มันไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่ต้องมาดูแลใคร ยิ่งคนที่ไม่อยากดูแลแล้วด้วย ทำไมเขาต้องสนใจ
ไคล์ออกมาจากห้องเพื่อไปผับ ขาแกร่งหยุดชะงัก ทันทีที่เห็นป้าแม่บ้าน
“ป้า”
“ค่ะ” ป้าแม่บ้าน ขมวดคิ้วมองคนที่เรียกตน
“ผมฝากอะไรหน่อยสิ”
“อะไรจ๊ะพ่อหนุ่ม”
ไคล์ควักเงินออกมาจากกระเป๋า แบงก์สีเทาหนึ่งใบ
“ฝากซื้อข้าวขึ้นไปที่ห้องผมหน่อยและฝากดูคนในห้องด้วย หมายเลขห้อง…..”
“เขาป่วยเหรอพ่อหนุ่ม”
“น่าจะใช่ ป้าเคาะประตูแรงๆ เลยนะ ถ้าไม่มีคนมาเปิดก็เคาะอยู่นั่นแหละจนกว่าเขาจะเปิด เขาอาจจะไม่ได้ยินเพราะหลับ”
“แล้วทำไมไม่พาไปหาหมอล่ะ”
“คงไม่ตายง่ายๆ เหรอ เงินที่เหลือป้าก็เก็บไว้เลย ไปล่ะฝากด้วย” ไคล์ยัดเงินใส่มือป้าแกแล้วเดินออกมาเลย
ลิ้นหนาดันกระพุ้งแก้ม เปิดประตูรถแล้วขับออกมาอย่างหัวเสีย
ที่ทำนี้เขาแค่กลัวว่ายัยนั้นจะมาตายที่ห้องเขาหรอกนะ ไม่ได้มีความเป็นห่วงสักนิด
MANGA DISCUSSION