แววตาที่รอคำตอบของเขาทำให้พราวฟ้าใจอ่อน ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะไม่รักผู้ชายคนนี้ เขาดีกับเธอทุกอย่าง เขาไม่เคยทำร้ายจิตใจเธอสักครั้ง
ผู้หญิงไม่ต้องการอะไรมากหรอกจากความรัก ขอแค่คนที่แคร์เรา รักเรา ไม่ทำร้ายจิตใจกันก็เพียงพอแล้ว พราวฟ้าจับใบหน้าหล่อเหลาของลูซจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขาที่มีเธอสะท้อนอยู่ในนั้น
“กลัวเหรอคะ”
“ฉันหลงเธอหนักขนาดนี้คิดว่าไงละ”
พราวฟ้าส่งค้อนให้เขา
“พราว พราวรักคุณค่ะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาในชีวิตของพราว” พูดในคำที่เขาอยากได้ยินเธอก็โน้มตัวไปกอดรอบคอเขาแน่น ลูซนิ่งไปกับคำบอกรักของเธอ หัวใจเต้นโครมครามแย้มริมฝีปากออกจากกันก่อนจะยิ้มกว้างและยกมือขึ้นกอดเธอตอบลูบแผ่นหลังบางเบาๆ
“รักเธอเหมือนกัน”
“อือ” พราวฟ้าครางรับกับคำบอกรักของเขา ทั้งสองคนยิ้มเต็มใบหน้ากอดกันกลมซึมซับความรักที่เฝ้าตามหา
หลังจากที่เห็นหน้าไคล์เมื่อคืน พราวฟ้าคิดว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรกับไคล์อีกแล้ว เธอพร้อมจะเดินหันหลังให้เขาได้ง่ายๆ โดยไม่ลังเล ความรู้สึกที่เธอมีต่อไคล์ไม่หลงเหลืออีกแล้ว เหลือแต่ความทรงจำที่เขาเคยทำไว้ ถึงเธอจะลบภาพพวกนั้นออกจากความทรงจำไม่ได้ แต่เธอก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดกับมันอีกแล้ว
เธอให้อภัยเขา ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง
เธอพบความรักที่ตัวเองตามหา ส่วนเขาก็มีชีวิตในแบบที่เขาต้องการ ชีวิตครอบครัวของเขาที่ไม่มีเธอ
“พราวต้องไปอาบน้ำแล้วค่ะ จะได้ไปทำอาหารแล้วออกไปหาคุณแม่กัน”
“ครับ” ลูซตอบรับแต่ยังไม่ยอมปล่อย ดันร่างบางขึ้นจับใบหน้าหวานไว้อย่างเบามือแล้วกดจูบลงไปหาเธอ ส่งความรู้สึกผ่านจูบอย่างเร่าร้อน พราวฟ้าเองก็ตอบสนองเขาอย่างเต็มใจ จูบกันอยู่นานกว่าลูซจะยอมปล่อย สองร่างหอบหายใจตัวโยง
“รีบไปเถอะ ก่อนที่จะไม่ได้ไปหาคุณแม่เธอ” พราวฟ้ารับรู้สึกความต้องการของเขาที่ปะทุขึ้นเพราะเธอนั่งทับมันอยู่
“เพราะใครกันละคะ” เธอส่งค้อนให้เขาก่อนจะลงจากตักแล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำ
ความเร่าร้อนของเขายังอยู่ในความรู้สึกของเธอ เธอรู้ว่าเขาต้องการเธอมาก เธอเองก็ไม่ต่างกันเพียงแต่อยากจะมั่นใจอะไรมากกว่านี้ซะก่อน เธอไม่อยากทรยศต่อหัวใจตัวเอง เมื่อเธอยังไม่แน่ใจว่าเธอตัดไคล์ออกจากใจได้เธอก็ยังไม่พร้อมที่จะยอมมีอะไรกับลูซ
แต่ตอนนี้เวลานี้เธอแน่ใจแล้ว ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ไคล์ได้หายออกไปจากใจเธอทีละนิดทีละนิด ถึงแม้เธอจะเห็นเขาอยู่ตรงหน้า ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขามันก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
หลังจากทำธุระกันเสร็จทั้งสองคนก็เดินทางมาที่บ้านของคิง พราวฟ้าพาลูซเดินเข้าไปที่ห้องรับแขกของบ้านด้วยความเคยชิน
ถามว่าเธอกลัวไหมที่อาจจะเจอกับไคล์ที่นี่ บอกเลยเธอไม่กลัวแต่ก็มีหวั่นๆ บ้าง
คนที่อยู่ในห้องรับแขกทั้งหมดหันไปมองผู้มาใหม่ เรื่องที่พราวฟ้าหวั่นใจเป็นจริง ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากัน
“มาแล้วเหรอลูก” เป็นคุณทิพย์อาภาที่ทักขึ้นก่อน พราวฟ้ายกมือสวัสดีท่าน ลูซก้มหัวให้ทุกคนเป็นการทักทาย
คิงยิ้มร่า มองดูพี่ชายที่ตอนนี้จ้องทั้งสองคนไม่วางตา พราวฟ้าเป็นผู้หญิงที่ใจเด็ดมาก กล้าคิดและกล้าทำไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
“สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณคริส”
“นั้น….” คุณทิพย์อาภามองเลยไปที่ชายหนุ่มที่เดินตามหลังลูกสาวมา
“นี่ลูซค่ะ แฟนของพราว” พราวฟ้าแนะนำลูซให้ท่านรู้จัก
“มานั่งๆ ก่อน ลูซนี่เป็นเพื่อนกับคิงด้วยรึเปล่า” คุณคริสชักชวนให้นั่งและถามไถ่
“ใช่ครับ แต่ไม่สนิท” คิงฉีกยิ้มเมื่อได้ยินลูซตอบรับแต่ก็หุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย เขามองลูซอย่างคาดโทษ แต่มันก็จริง เขายอมรับว่าไม่สนิทกับมัน แต่ช่วงหลังๆ มานี่รู้สึกจะเจอกันบ่อยจนเริ่มรู้สึกเหมือนจะสนิทกันมากกว่าแต่ก่อนนะ
“อ่อ แล้ววันนี้จะมาอยู่กับแม่เขาใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ วันนี้พราวว่าจะอยู่กับคุณแม่ทั้งวันเลย” พราวฟ้ายิ้มรับ
ไคล์กำมือแน่นมองทุกคนที่อยู่ตรงหน้า พราวฟ้าเหมือนไม่เห็นว่ามีเขาอยู่ตรงนี้ เธอไม่แม้แต่จะสบตาเขาสักนิด ไคล์ลุกขึ้นจะเดินออกไปจากตรงนั้น
“ไคล์จะไปไหนลูก” คุณทิพย์อาภาเป็นคนเอ่ยถาม
“ข้างนอก” ไคล์ตอบเสียงห้วน
“ไปด้วยดิ” คิงลุกตาม
“งั้นไปเถอะจ้ะ” คุณทิพย์อาภาบอก
ลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนจึงเดินออกไป ลูซมองตามหลังทั้งสองคนก่อนจะเบนสายตากลับมาที่หญิงสาวทั้งสอง
“ผมก็ไปก่อนนะคุณต้องเข้าบริษัท”
“ค่ะ” คุณคริสเดินออกไปอีกคน
คุณทิพย์อาภามองเด็กทั้งสองคนด้วยสายตาอ่อนโยน ผู้ชายที่พราวฟ้าพามาแนะนำดูดีใช้ได้ สายตาที่เขาใช้มองพราวฟ้าแสดงถึงความรักชัดเจน
เธอคงได้แต่ทำใจ และทำให้พราวฟ้ามีความสุข ส่วนอีกคนคงต้องยอมรับความเจ็บปวดอีกครั้ง มันคงเป็นเวรกรรมของเธอที่ทำให้ลูกชายมีความสุขไม่ได้สักที ลูกเจ็บลูกเศร้าแม่เองก็ไม่ต่างกัน
คุณทิพย์อาภาพูดคุยถามไถ่กับทั้งสองคนอยู่นาน จนลูซกลับไปและจะกลับมารับพราวฟ้าเมื่อหญิงสาวโทรบอก
“คุณแม่จะทำอะไรคะ” ทั้งสองคนตกลงกันว่าจะทำอาหารค่ำรอหนุ่มๆ
“อาหารไทยนี่แหละลูก อยู่นี่ได้ทำกินบ่อยไหม”
“ก็มีบ้างค่ะ แล้วแต่โอกาสว่าจะว่างรึเปล่า”
“หนูมีความสุขดีใช่ไหมลูก”
“ค่ะ พราวมีความสุขดี คุณแม่ละคะ”
“แม่ก็ดีจ้ะ แค่พราวมีความสุขแม่ก็ดีใจ แล้วนี่ชวนพ่อลูซมาทานข้าวเย็นด้วยกันไหมจ๊ะ”
“อืม…ไม่แน่ใจว่าลูซจะว่างรึเปล่า” พราวฟ้าทำหน้าครุ่นคิด
“ลองชวนดูสิจ๊ะ”
“ได้ค่ะ งั้นพราวขอออกไปโทรศัพท์ก่อนนะคะ” พราวฟ้าปลีกตัวออกไปโทรหาลูซรอสายไม่นานฝ่ายนั้นก็รับ
(ครับ)
“ทำอะไรอยู่คะ”
(อยู่บริษัท เข้ามาทำงานนิดหน่อย)
“อ่อ พราวกวนรึเปล่าคะ”
(เปล่า มีอะไรรึเปล่าหรือจะกลับแล้ว)
“เปล่าค่ะ คือคุณแม่ให้ชวนคุณมาทานข้าวเย็นด้วยกัน มาไหมคะ”
(อืม เอาสิ จะให้เข้าไปกี่โมง)
“หกโมงก็ได้ค่ะ”
“โอเค”
หลังจากนั้นพราวฟ้าก็คุยกับลูซอีกนิดหน่อยก่อนจะวางสาย หันหลังจะเดินกลับเข้าไปในบ้านก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงยืนขวางทาง สายตาของเขาที่จ้องมองมาบอกได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้คือไคล์
“มีอะไรรึเปล่าคะ” เธอเอ่ยถามเขาเมื่อเขายังจ้องเธอนิ่ง
“เธอคงมีความสุขสินะ” ปากบางเม้มเข้าหากัน
“ค่ะ ฉันมีความสุขดี แล้วคุณละคะ” พราวฟ้าถามกลับ ชีวิตของเขาที่ไม่มีเธอก็คงมีความสุขเหมือนกัน เพราะมันเป็นอย่างที่เขาต้องการ
“หึ” ไคล์หัวเราะในลำคอเบาๆ
ทุกอย่างที่เขาพูดกับเธอเมื่อคืนเธอไม่เก็บเอามาใส่ใจเลยสินะ เขามาช้าไปจริงๆ
พราวฟ้าเมื่อเห็นเขาไม่ตอบมีเพียงเสียงหัวเราะในลำคอ เธอก็กลอกตาไปมา
MANGA DISCUSSION