“พราว ไปไหนอ่ะ” ปริมส่งเสียงเรียกเพื่อน เปิดเสร็จก็เดินออกไป ไม่บอกสักคำ
“โทษที”
“อะตอมอย่าเบียดสิ”
“อะไรล่ะ เธอมันตัวใหญ่” ใบหน้าที่เหมือนคนไม่ได้นอนของทั้งสองคนทำให้พราวฟ้าหัวเราะออกมาเบาๆ
“พราวดูสิฉันจะเหมือนผีเข้าไปทุกวัน นี่ไม่ได้นอนมาสองคืนแล้ว” ปริมฟ้องเพื่อน
“หนักขนาดนั้นเลยเหรอ”
“หนักพอตัว แต่ตอนนี้เสร็จแล้วล่ะ เลยโทรหาพราว คิดว่าพราวคงยังไม่นอน ตอนนี้ที่นั่นประมาณสี่ห้าใช่ไหม”
“อืม”
“แล้วหนาวไหม”
“ไม่เท่าไหร่ แต่อีกสักพักคงเข้าหน้าหนาวแล้วล่ะ”
“ที่นั่นสวยไหม ฉันได้ยินว่าสวิสเป็นประเทศที่สวยมาก”
“สวยมาก ปริมต้องชอบแน่ๆ” พราวฟ้าพูดคุยกับเพื่อนอย่างอารมณ์ดี ปริมกับอะตอมจะติดต่อมาหาเธอตลอด ทำให้เธอไม่เหงา
“อยากไปหาเธอจัง”
“ก็มาสิ”
“ไปแน่นอน แต่ขอปิดเทอมก่อนนะ มีคนแถวนี้อยากไปใจจะขาด”
“อะไรของเธอ”
“อะไรล่ะ ก็แกอ่ะอยากไปหาพราวเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” ปริมหันไปหาอะตอมทำหน้าล้อเลียน
“อืม อยากไป” อะตอมเองก็ยอมรับตรงๆ
“ชิ พวกเราคิดถึงเธอมากเลยอ่ะ” ปริมส่งค้อนให้เพื่อน
“คิดถึงเหมือนกัน” เธอคิดถึงคนที่อยู่ที่ไทย คิดถึงจริงๆ แต่ก็คงได้แค่คิดถึง
แฮกๆ
เสียงไอที่ดังขึ้นทำให้พราวฟ้าละสายตาจากหน้าจอหันไปมองทางต้นเสียง เขาตื่นแล้วเหรอ
“มีคนอยู่กับเธอเหรอพราว” ปริมเองก็ได้ยินด้วย หันไปมองหน้ากันกับอะตอมโดยอัตโนมัติ
พราวฟ้าหันมามองเพื่อน
“เปล่าๆ เสียงทีวีน่ะ” พราวฟ้าหันไปมองทางลูซ ตอนนี้เขาลุกขึ้นนั่ง นวดคลึงที่ลำคอของตัวเองเบาๆ
พราวฟ้าคิดว่าเธอควรเดินไปถามเขาดีรึเปล่านะ ว่าจะกลับรึยัง
“เหรอ ถึงไหนแล้วนะ”
“ก็คิดถึง”
“อ่อ ใช่ๆ คิดถึง แล้วฉันมีเรื่องจะเราให้ฟังด้วยนะ”
“เรื่อง”
ปากก็ถามเพื่อนแต่สายตาของเธอก็แอบเหลือบไปมองทางลูซเป็นระยะ
“เรื่องยัยเอมม่า” พราวฟ้าชะงักไป
“ทำไมเหรอ”เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเอมม่าทำไม พราวฟ้าเหลือบตาไปมองลูซอีกครั้ง เห็นเขากำลังนั่งกดโทรศัพท์อยู่ยังไม่ลุกไปไหน
เขาคงฟังภาษาไทยไม่ออกหรอกมั้ง
พราวฟ้าคิดในใจแต่เธอคงลืมไปแล้วว่าลิซ่าก็ฟังภาษาไทยออก
“นางลาออกจ้า ไปเรียนต่อที่ไหนไม่รู้” ลาออกงั้นเหรอ คำพูดของปริมทำให้เธอตกใจไม่น้อย
“ทำไมถึงลาออกละ”
“ไม่รู้สิ ฉันก็ไม่คุยกับนางอีกเลย ล่าสุดคือได้ยินข่าวว่านางลาออกไปแล้ว” พราวฟ้าพยักหน้าเข้าใจ เธอหวังว่าเรื่องนี้คงไม่เกี่ยวกับเธอหรอกนะ
“แต่มีคนพูดต่อๆ กันมาว่านางไปยุ่งกับไคล์ และไคล์จัดการนางหรือขู่อะไรนี่แหละ” แต่คำพูดต่อมาของปริมทำให้หัวใจเธอเต้นแรงขึ้น
ตลอดเวลาเพื่อนทั้งสองคนของเธอเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อไคล์ให้เธอได้ยิน
“เหรอ” พราวฟ้าตอบรับเพื่อนสั้นๆ
“พราวฉันขอโทษ ฉันจะไม่เอ่ยชื่อหมอนั่นอีก”
“ไม่เป็นไรหรอก ความจริงเราก็อยากรู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง” พราวฟ้าไม่ปิดบังความรู้สึกของตัวเอง เธออยากรู้จริงๆ ว่าไคล์เป็นยังไงบ้าง หลังจากที่เธอออกมาจากชีวิตเขา เธอไม่กล้าถามคุณแม่กลัวว่าท่านจะคิดมาก
คุณทิพย์อาภาเองก็โทรมาหาเธอตลอดคอยถามไถ่ชีวิตในแต่ละวัน ท่านเป็นห่วงว่าเธอจะปรับตัวไม่ได้ พราวฟ้าได้แต่บอกให้ท่านสบายใจว่า เธออยู่ได้และชอบที่นี่มาก
ปริมกับอะตอมมองหน้ากัน เป็นอะตอมที่ถอนหายใจมายาวๆ
“ก็เห็นอยู่ดีมีสุขดีหนิ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย โอ๊ยๆ ยัยนี่ตีฉันทำไม” อะตอมพูดเสียงห้วน เลยเจอปริมตีที่แขนเข้าให้
“พูดความจริงสิ เพื่อนอยากรู้”
“ชิ เธอก็พูดสิ” อะตอมหันหน้าหนี
“คืองี้ ฉันเองก็ไม่รู้อะไรมากหรอก เพราะไม่อยากไปยุ่ง แต่ก็เห็นผ่านๆ ไอ้พี่ไคล์น่ะตอนนี้ก็ปกติดี แต่หน้านี่นิ่งยิ่งกว่าเดิม จากที่น่ากลัวอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งน่ากลัว แถมยังปฏิเสธสาวๆ ทุกคนที่เข้าหาด้วย แต่ไม่รู้เรื่องนี้จริงรึเปล่า”
หัวใจของพราวฟ้าเต้นระทึก มือกำเข้าหากันแน่น
“ฉันก็คิดนะว่าที่เขาเป็นแบบนี้เพราะเธอรึเปล่า” ปริมสันนิษฐาน
พราวฟ้าเม้มปากเข้าหากันจนเจ็บ
“เธอก็พูดเวอร์เกิน วันนั้นฉันไปเที่ยวยังเห็นควงผู้หญิงอยู่เลย” อะตอมลอยหน้าลอยตาพูด
“ปากเสีย”
“เรื่องจริง”
“เปลี่ยนเรื่องคุยกันเถอะ หมอนั่นจะเป็นยังไงก็ช่าง พราวไม่ต้องไปสนใจหรอก รักคนที่ทำร้ายเรายังไงมันก็เจ็บ สู้รักคนที่รักเราดีกว่า ปริมอยากให้พราวลืมไอ้พี่ไคล์นั่นซะแล้วเริ่มต้นใหม่”
พราวฟ้านิ่งเงียบกับคำพูดของเพื่อน แต่ก็พยักหน้าตอบในเวลาต่อมา จนทั้งสองคนทางนั้นยิ้มออก
“ว่าแต่มีเพื่อนใหม่ยัง”
“อืม มีแล้ว”
“แล้วเป็นคนยังไง ดีกับพราวรึเปล่า พราวต้องดูดีๆ นะ” พราวฟ้าหัวเราะกับคำพูดของปริม นี่เธอมีเพื่อนหรือมีพี่สาวนะ
“ดีสิ เพื่อนคนนี้ของเราน่ารักมาก แม่ของเธอเป็นคนไทยน่ะ” ปริมตาโต
“จริงเหรอ ดีจัง ดีแล้วล่ะมีเพื่อน แต่คบใครต้องดูดีๆ นะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะพวกเราเป็นห่วง”
“จ้าแม่”
“ใช่เธอนี่บ่นเหมือนแม่” อะตอมเสริม
“ไอ้นี่ ไปเลยกลับห้องนายไปเลย” ปริมไล่อะตอม
“จะนอนนี่มีไรไหม”
“ไม่ให้นอนมีไรไหม”
“แต่ฉันจะนอน”
พราวฟ้ามองทั้งสองคนทะเลาะกันยิ้มๆ เธอมองไปทางลูซอีกครั้ง เขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ออกไปตอนไหนนะ ทำไมเธอไม่เห็นหรือได้ยินเสียงปิดประตูเลย
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะคิดอะไร ร่างสูงก็เดินออกมาจากทางห้องครัวของเธอ
เขายังไม่กลับ
“เอาล่ะๆ ไปทำงานกันต่อได้แล้วเดี๋ยวไม่เสร็จเอานะ แล้วก็พักผ่อนกันด้วยล่ะ หน้าดูไม่ได้เลยทั้งสองคน พราวก็จะไปนอนเหมือนกัน”
“จ้า บ๊ายนะ วันหลังค่อยคอลกันใหม่” ปริมโบกมือให้เพื่อน
“อืม”
“ดูแลตัวเองด้วยนะ” อะตอมเป็นคนพูด
“จ้ะ ตอมก็ช่วยดูแลปริมด้วยนะ”
“อืม”
สายถูกตัดไป พราวฟ้าถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอตกอยู่ในอาการเหม่อลอยไปชั่วขณะก่อนจะได้สติเพราะมีเสียงเข้มดังขึ้น
“ฉันกลับแล้วนะ”
เธอมองไปทางลูซที่กำลังมองมาทางเธอแล้วบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ค่ะ ให้ฉันเดินลงไปส่งไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอก มาล็อกประตูก็พอ” ลูซบอกพร้อมกับเดินไปยังประตู ทำให้พราวฟ้าต้องลุกเดินตามเขาไป
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” พราวฟ้าเอ่ยขอบคุณเขาอีกครั้ง เปิดประตูค้างไว้
ลูซเลิกคิ้วมองร่างบาง
“ขอบคุณที่ให้เข้าห้องน้ำและนอนพัก”
พราวฟ้าไม่คิดว่าจะได้ยินคำขอบคุณของเขา เธอผงกหัวเบาๆ ให้เขาซึ่งเขาเองก็ทำแบบเดียวกัน แล้วเดินจากไป
ผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่นะ
บางครั้งก็เหมือนเขาจะน่ากลัว แต่บางครั้งก็เหมือนไม่มีอะไรน่ากลัว
MANGA DISCUSSION