“ดีค่ะ ปริมเห็นด้วย แต่ถ้าเขาตามเจอละคะ พราวจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” ปริมไม่รู้ว่านิสัยของไคล์เป็นยังไง สนใจในตัวพราวฟ้ามากแค่ไหน
“ไม่หรอก ไคล์อยากให้พราวออกไปจากชีวิตเขาอยู่แล้ว ถึงหายไปเขาก็ไม่ตามหรอก” ปริมอดรู้สึกเห็นใจพราวฟ้าไม่ได้
“แล้วคุณป้าจะให้พราวไปอยู่ที่ไหนครับ” อะตอมเป็นฝ่ายถามบ้าง
“ป้าจะให้พราวไปเรียนต่อต่างประเทศ ให้พราวไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น” คำตอบของท่านทำให้ทั้งสองคนที่ได้รับฟังใจหายไม่น้อย
แต่มันก็เป็นทางเลือกเดียวในตอนนี้ ถึงจะใจหายบ้างแต่ก็เพื่ออนาคตของพราวฟ้าเอง
“แล้วคุณป้าจะส่งพราวไปตอนไหนคะ”
“ทันทีที่หายดี”
เห็นท่าทางจริงจังของท่านแล้วอะตอมกับปริมเองก็วางใจ ว่าคุณหญิงทิพย์อาภาคนนี้ไม่ได้เข้าข้างลูกชายตัวเองสักนิด ท่านน่าจะรักพราวฟ้าจริงๆ
ไคล์ออกจากคอนโดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว กระชากรถอย่างแรงไปยังผับ ก่อนจะตรงไปที่ออฟฟิศและเดินขึ้นมาชั้นบนแล้วเรียกเด็กเข้ามาหา
“ครับคุณไคล์ วันนี้ทำไมมาไวจังครับ” ตอนนี้พึ่งจะสามโมงทำไมถึงเข้ามาไวนัก ขนาดเขาเองยังพึ่งจะมา
“ไปเอาเหล้ามา แล้วถ้าวันนี้เห็นผู้หญิงที่ชื่อเอมม่ามาพาเธอขึ้นมาหากูด้วย” ไคล์ไม่ตอบคำถามลูกน้องแต่สั่งเสียงเรียบ
“ครับ” นิวขมวดคิ้ว ไม่ถามอะไรอีก เดินออกไปเอาเหล้ามาตามคำสั่ง
ไคล์นั่งดื่มคนเดียวเงียบๆ เรื่องราวต่างๆ ไหลเวียนเข้ามาในหัว ความสับสนเกิดขึ้นในความรู้สึก เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไร มันหงุดหงิดงุ่นง่านไปหมด
ไคล์จ้องมองโทรศัพท์ไม่วางตา
“ทำไมกูต้องสนใจด้วย ไปสิดี จะได้หมดเวรหมดกรรมสักที”
พูดพร้อมกับกรอกเหล้าเข้าปาก
จนเวลาล่วงเลยถึงเวลาเปิดผับ หุ้นส่วนทุกคนก็ทยอยกันเข้ามา
“อ้าวไอ้เวรนี่มาอยู่นี่เอง กูนึกว่ามึงหายไปไหน” โจชัวเปิดประตูเข้ามาก็ทักเป็นคนแรก
“ว่าแต่ไอ้ปกยังไม่เข้ามาใช่ไหมวะ” เจฟพูดขึ้น แต่ไม่มีใครตอบ
ชายหนุ่มที่นั่งดื่มคนเดียวก็เอาแต่จ้องแก้วเหล้าไม่สนใจเพื่อนเลยสักนิด
“ตกลงมึงจะเล่าได้ยังว่ามึงทะเลาะกันเรื่องอะไร” จนถึงตอนนี้เจฟกับโจชัวก็ยังไม่มั่นใจว่าเพื่อนทั้งสองคนของพวกเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร รู้แค่ว่าสาเหตุมาจากผู้หญิงในรูป ซึ่งมันเกี่ยวกันยังไง เพราะปกติพวกเขาจะไม่สนใจผู้หญิงที่นอนด้วย
คืนเดียวจบ
แต่ก่อนที่จะมีใครได้ตอบคำถาม นิวลูกน้องคนสนิทก็เปิดประตูเข้ามาซะก่อน
“คุณไคล์ครับ คุณเอมม่ามาแล้วครับ”
“เข้ามา” ไคล์พูดเสียงเรียบ
“มึงยังไม่เลิกติดต่อยัยนี่อีกเหรอวะ” โจชัวถาม แต่ไคล์ไม่ตอบ
ไม่กี่นาทีต่อมาเอมม่าก็เดินเข้ามาในห้อง
“ไคล์เรียกหาเอมม่าเหรอคะ คิดถึงเอมม่าเหรอ” เอมม่าเดินยิ้มร่าเข้ามาในห้อง เบียดแซะร่างกายเข้าหาชายหนุ่มอย่างเอาใจ แต่ไคผลักออก
ทำให้ทุกคนตกใจ
“อะไรกันคะไคล์” เอมม่าตาโต ถามเสียงห้วนอย่างลืมตัว ไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนี้กับตัวเอง
แต่ไคล์ไม่สนใจเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปที่ทางเพจลงเมื่อเช้า ซึ่งตอนนี้แชร์ไปทั่ว ถึงแม้เพจหลักที่เอาลงจะลบไปแล้วก็ตาม
ไคล์ชูมันตรงหน้าเอมม่า ซึ่งเธอก็หลบตาเขาทันที เม้มปากเป็นเส้นตรง
“อะไรคะ นี่มันรูปยัยพราวเพื่อนของเอมม่านี่ มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เอมม่าถามหน้าตื่น ลนลานเข้าไปคว้าโทรศัพท์มาดูรูปนั้นใกล้ๆ ทำทีเหมือนเห็นมันเป็นครั้งแรกทั้งที่เธอเห็นมันแล้วเมื่อตอนเช้ากับเพื่อน
ซึ่งทางโจชัวและเจฟเองก็ตาโตมองหน้ากันทันที เมื่อจำได้ว่าผู้หญิงในรูปเป็นใคร ถึงว่าคุ้นๆ
“เพื่อนเธอ เธอก็รู้หนิ” ไคล์กดเสียงต่ำ
“ค่ะ เอมม่าสงสารพราวจังเลยค่ะ ใครกันที่ทำแบบนั้นกับพราวได้” เอมม่าก้มหน้าพูดเสียงเศร้า
ไคล์สูดลมหายใจเข้าใจลึกๆ
“เมื่อคืนเธอไม่ได้ยุ่งกับโทรศัพท์ฉันใช่ไหม” น้ำเสียงเข้มต่ำที่ถามทำให้คนที่ได้ยินขนลุกขึ้นมาทันที แต่เอมม่าก็ทำทีเป็นไม่รู้เรื่อง
“เอมม่าไม่ได้ยุ่งเลยนะคะไคล์ นี่คุณจะบอกว่าเอมม่าเป็นคนปล่อยรูปนี้ใช่ไหมคะ” เอมม่าถามอย่างร้อนตัว
“ฉันยังไม่ได้พูดสักคำ”
“แต่คำพูดของคุณมันหมายความว่าอย่างนั้น” เอมม่าเงยหน้าขึ้นสู้
“เหรอ แสดงว่าเธอก็รู้แล้วงั้นสิ ว่าฉันกับเพื่อนเธอเป็นอะไรกัน” ไคล์จ้องคนตรงหน้าเขม็ง เอมม่าเม้มปากเป็นเส้นตรง
คำนี้เป็นคำที่เธอไม่อยากได้ยินจากปากของเขาที่สุด คนที่เธอตามหา ผู้หญิงที่อยู่กับเขา เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับเธอ ซึ่งเป็นคนที่เธอคิดไม่ถึง
“เอมม่าไม่รู้ค่ะ เอมม่าจะรู้ได้ยังไง” เอมม่าแก้ตัวต่อ
“หึ ตอนนี้ก็รู้ไว้ซะสิ” ที่เขาพูดแบบนี้แสดงว่าเขายอมรับแล้วจริงๆ ว่าเขามีความสัมพันธ์กับพราวฟ้าจริงๆ มือเรียวจิกเข้าหากันแน่น แต่ก็ต้องกลั้นมันเอาไว้
“ไคล์ ทำอย่างนี้กับเอมม่าได้ยังไง พราวเป็นเพื่อนของเอมม่านะ” เอมม่าทำหน้าตกใจเหมือนสิ่งที่เธอรู้คือเรื่องใหม่ ตีหน้าเศร้าน้ำตาคลอ
“เธอเคยเห็นยัยนั่นเป็นเพื่อนด้วยเหรอ” ไคล์พูดเสียงห้วน เขาไม่ใช่คนที่จะมาเสวนากับผู้หญิงในเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้
“ทำไมไคล์พูดแบบนี้คะ คุณผิดนะ”
“ฉันผิดเหรอ ใช่ฉันผิด เพราะฉันไม่รู้ แต่แล้วยังไง ฉันต้องแคร์งั้นเหรอ ฉันไม่แคร์สักนิดว่าใครจะเป็นเพื่อนใครเพราะฉันไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น ที่ฉันพูดตอนนี้คือเธอบังอาจมายุ่งกับโทรศัพท์ของฉัน”
ของส่วนตัวของเขา เขาหวงยิ่งกว่าอะไร ผู้หญิงคนนี้เป็นใครถึงกล้าแตะ
เมื่อคืนเขาจัดการยัยหุ่นยนต์นั่นเสร็จก็ออกมาจากห้องเพื่ออาบน้ำและกลับเข้าไปใหม่ ใจเกิดคึกอยากถ่ายรูปเก็บไว้แบล็กเมล์ยัยนั้นสักหน่อย เลยถ่ายเก็บไว้ แล้วออกมาที่ผับอีกครั้ง
ก็เจอกับเอมม่าซึ่งดักรอเขาอยู่ ด้วยความที่รำคาญและไม่มีอารมณ์จะพูดกับใคร เลยปล่อยให้เธอขึ้นมาข้างบนด้วย ซึ่งไม่มีเพื่อนๆ ของเขาอยู่ด้วย ทุกคนกลับหมดยกเว้นไอ้ปกป้องที่อยู่ที่ห้องทำงาน
เขากลับมาดื่ม จนรู้สึกมึนๆ เลยเผลอหลับไปโดยที่ลืมไปว่ามีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ด้วยซึ่งเขาไม่ได้สนใจเธอเท่าไหร่ ไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำแบบนั้น โดยเอาโทรศัพท์ของเขาสแกนลายนิ้วมือเขาแล้วเข้าไปยุ่งกับข้อมูลของเขา
ถามว่ารู้ได้ยังไง ก็เพราะห้องนี้มันมีกล้องวงจรปิดยังไงละ ไม่ยากเลยที่เขาจะหาความจริง
“เอมม่าเปล่านะคะ เอมม่าไม่ได้ยุ่ง” เอมม่ายังไปได้ต่อ ถ้าเธอยอมรับเธอต้องถูกไคล์เฉดหัวทิ้งจริงๆ แน่
“ที่ห้องนี้มีกล้องวงจรปิด อย่ามาแถให้เมื่อยปาก” เอมม่าตาโตเมื่อได้ยินแบบนั้น
“คือ..คือ เอมม่า เอม่าขอโทษค่ะไคล์ เอมม่าขอโทษที่ยุ่ง” เอมม่าพูดเสียงสั่นเดินเข้าไปเกาะแขนเขา แต่ไคล์สะบัดออก
“ถ้ายังอยากเรียนที่นี่อย่างสงบ อย่ามายุ่งกับฉันอีก” ไคล์พูดเสียงเข้ม
“แต่ไคล์คะ เอมม่ารักคุณนะคะ เอมม่าไม่อยากเลิกกับคุณ”
“เราเคยคบกันด้วยเหรอ” ไคล์เลิกคิ้วถาม ก็ได้รับหน้าเสียๆ ของเอมม่ากลับมา
“แต่..”
“ออกไปได้แล้ว อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก อย่าหาว่าไม่เตือน” เอมม่าเม้มปากกำมือแน่น จนตัวสั่น คำขู่ของไคล์น่ากลัวเธอรู้ดีว่าเขาจะทำจริง
“งั้นเอมม่าขอถามเรื่องหนึ่งได้ไหมคะ” ไคล์ไม่ตอบ กระแทกตัวลงนั่งนิ่งๆ
“คุณเป็นอะไรกับยัยพราว ผู้หญิงที่อยู่ห้องกับคุณคือยัยพราวใช่ไหม” เอมม่าถามเรื่องที่คาใจ
ไคล์เงยหน้าขึ้นมองเธอ แล้วตอบเสียงเรียบ
“ก็แค่นางบำเรอ”
มือที่กำแน่นของเอมม่าคลายออกจากกันเมื่อได้คำตอบ
“แต่ถึงจะเป็นแค่นางบำเรอ เธอก็ห้ามยุ่งกับยัยนั่น”
แต่คำพูดต่อมาของเขาก็ทำให้เธอกัดฟันกรอด
“ไม่ยุ่งไม่ได้หรอกค่ะ เพราะยังไงพราวก็เป็นเพื่อนของเอมม่า”
“และเป็นเพื่อนแบบไม่ธรรมดาด้วยนะคะ เพื่อนที่ใช้ผู้ชายคนเดียวกัน”
ปัง
ไคล์กระแทกแก้วเหล้าในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง ทำให้คนที่กล้าพูดประชดประชันเขาสะดุ้ง
“ออกไป” ไคล์ตวาด
เอมม่าเม้มปากแน่นมองหน้าเขาเขม็ง สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ เลยกระทืบเท้าออกจากห้องไป
“อะไรนะ ผู้หญิงอยู่ที่ห้องเหรอวะไคล์ มึงพาผู้หญิงไปอยู่ด้วยเหรอวะ” คราวนี้เป็นคราวของโจชัวกับเจฟที่ฟังทั้งสองคนทะเลาะกันอยู่นานเป็นฝ่ายพูดบ้างเมื่อจับใจความได้
“เสือก” แต่ก็ได้รับคำร้ายกาจกลับมา
“ใช่กูเสือก และกูอยากเสือกมากด้วย มึงรักเขา ชอบเขา หรือว่าอะไรวะ” โจชัวถามอย่างสนใจ ที่ถามเพราะอยากรู้จริงๆ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่ไคล์จะเอาผู้หญิงไปอยู่ที่ห้องด้วย เพราะมันเป็นคนที่หวงความเป็นส่วนตัวมาก ถ้าไม่รักไม่ชอบไม่มีทางที่จะได้ไปค้างคืน ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นไปได้ยากมาก
“กูยังไม่อยากเล่า” ไคล์พูดเสียงเรียบ
โจชัวกับเจฟมองหน้ากัน
“แล้วมึงกับไอ้ปกทะเลาะกันเรื่องนี้เหรอ ไอ้ปกมันเอาจริงเหรอวะที่ว่าจะจีบน้องเขา”
เรื่องที่ปกป้องพูดวันนั้น พวกเขายังจำได้ และไคล์ก็เป็นคนพูดเองว่าไม่สน เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้
“กูไม่รู้” ไคล์ไม่รู้จริงๆ ว่าไอ้บ้านั่นมันคิดอะไร
“อะไรวะ” โจชัวเกาหัวอย่างเซ็งๆ
“ทำอะไรก็อย่าให้ถึงขนาดตัดเพื่อนเพราะผู้หญิงก็แล้วกัน” เจฟพูดบ้าง
ทางด้านของคนที่เดินกระฟัดกระเฟียดออกมาจากผับ โมโหจนตัวสั่น ยิ่งตอนที่เธอเห็นรูปนั้นเมื่อคืนมันทำให้เธอแทบช็อก ได้แต่กลั้นเสียงกรี๊ดเอาไว้มือไม้สั่น เธอไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นพราวฟ้า ไม่คิดเลยจริงๆ ถึงว่าเวลาที่เธอพูดถึงไคล์ยัยนั่นจะก้มหน้านิ่งและหาทางออกไปจากตรงนั้นตลอด
มือเรียวกดโทรศัพท์ยกขึ้นแนบหู
“ฉันต้องการให้เธอลงข่าวให้หนักเข้าไปอีก โพสต์รูปหน้าตรงไปเลย เดี๋ยวฉันส่งรูปให้ ไม่ต้องกลัวหรอก เธอลงแค่ห้านาทีแล้วลบออก คนให้อื่นทำงานแทน” มือเรียวกำโทรศัพท์แน่น เจ็บใจยิ่งนัก
MANGA DISCUSSION