อีกด้านของมหาลัย
ตุบ
“เอ๊ย พวกมึงเป็นเหี้ยอะไรกันวะ” หมัดหนักๆ ของปกป้องกระแทกเข้าแก้มซ้ายของไคล์อย่างไม่ออมแรง เลือดสีแดงสดซึมออกมาตามมุมปาก ไคล์เงยหน้าขึ้นและเช็ดมันออกด้วยหลังมือ มองคนที่ชกตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
“ใจเย็นก่อนดิ มึงเป็นเหี้ยอะไรไอ้ปก” โจชัวกับเจฟจับทั้งสองคนแยกออกจากกัน หันไปถามเพื่อนเสียงเครียด
“ถามเพื่อนชั่วของมึงดูสิ” ปกป้องชี้หน้าไคล์อย่างเดือดดาษ ซึ่งเป็นด้านที่เพื่อนๆ คนอื่นไม่เคยได้เห็น งงว่าเรื่องอะไรที่ทำให้คนใจเย็นอย่างปกป้องเดือดได้ขนาดนี้
“กูทำอะไร มึงมากกว่าที่ทำ” ไคล์เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม มองปกป้องเขม็ง ทั้งสองคนจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร เหมือนเตรียมพร้อมที่จะกระโจนใส่กันทุกเมื่อ
“พวกเวรเอ้ย นี่มันเรื่องอะไรกันวะ ร้อยวันพันปีไม่เคยทะเลาะกัน” โจชัวพูดอย่างหัวเสีย
“พวกมึงออกไปกันก่อนไป ให้พวกมันเคลียร์กันก่อน” เจฟหันไปไล่เพื่อนร่วมห้องให้ออกไปก่อนเพราะเขาต้องการให้เพื่อนเคลียร์กัน สงสัยเรื่องนี้จะยาวและใหญ่หน้าดู
ดีที่อาจารย์ยกเลิกคลาสไม่งั้นเรื่องใหญ่จริงๆ
“หึ” ไคล์หัวเราะในลำคอเบาๆ
“กูไม่คิดว่ามึงจะหน้าตัวเมียขนาดนี้” ปกป้องพ่นคำหยาบใส่ไคล์
“กูมันเหี้ยอยู่แล้วมึงพึ่งรู้เหรอ” อีกคนก็ตอบกวนโอ๊ยทั้งหน้าตาท่าทาง
“เดี๋ยวๆ พวกมึง บอกกูหน่อยว่ามันเรื่องอะไร ไอ้ปก” โจชัวหันไปถามปกป้องเสียงเครียด
ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยทะเลาะกัน แต่มันก็ไม่ถึงขนาดต้องชกต่อยกัน
ปกป้องมองหน้าไคล์อย่างหัวเสียเขาไม่เคยคิดว่ามันจะทำขนาดนี้ โทรศัพท์ในมือถูกคว้างใส่หน้าอกของไคล์ ตกกระทบลงพื้นจนดึงปึก โดยไม่ห่วงว่ามันจะแตกหรือพังไป แต่ไคล์ก็ไม่ร้องสักนิด ส่วนเจ้าตัวก็เดินเลี่ยงออกไปนั่งอีกมุมหนึ่งของห้องเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัว
โจชัวเป็นคนเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาดู
“ดีที่มึงใส่เคสดี ไอ้เหี้ย” พร้อมกับบ่นไปด้วย
“ไหนวะ มันมีเหี้ยอะไรอยู่ในนั้นถึงทำให้มันคลั่งได้ขนาดนี้” เจฟเดินเข้ามาดูด้วย แต่ภาพที่เห็นทำให้ทั้งสองคนขมวดคิ้ว ในภาพเป็นผู้หญิงคนหนึ่งนอนเปลือยหลังที่เต็มไปด้วยร่องรอย รอยอะไรนั้นพวกเขาก็รู้ๆ กันอยู่โดยไม่ต้องพูด
แต่พวกเขาไม่เข้าใจคือ ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงทำให้พวกมันสองคนทะเลาะกันได้
“นี่ใครวะ” โจชัวยกภาพในโทรศัพท์ให้ไคล์ดู ไคล์ที่ไม่ได้สนใจตั้งแต่ทีแรกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่เขารังแกพราวฟ้าเมื่อคืนแล้วเจ้าตัวเอามาฟ้องปกป้อง ซึ่งมันทำให้เขาโมโหไม่น้อยไปกว่าคนที่ต่อยเขานักหรอก
แต่พอเห็นภาพที่โชว์หราอยู่ตรงหน้าทำให้เขาต้องขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ
“มึงมันเหี้ย” ปกป้องชี้หน้าไคล์อีกครั้ง
ไคล์เม้มปากเป็นเส้นตรง มองๆ ดูก็รู้ว่าผู้หญิงในรูปเป็นใครถ้าคนไหนเคยเห็นหรือสังเกตเธอ แต่ไอ้สองตัวนี่คงไม่จำ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกู” ไคล์ยัดโทรศัพท์ใส่มือโจชัว แล้วเดินไปนั่งเงียบๆ
“มึงจะบอกว่ารูปนี้ไม่เกี่ยวกับมึง” ปกป้องอดไม่ได้ที่จะเดินเข้ามากระชากคอเสื้อไคล์ ถ้ารูปนี้ไม่เกี่ยวกับมันแล้วมันเกี่ยวกับใคร
“มึงจะเดือดร้อนทำไมยัยนี่เป็นเมียมึงแล้วรึไง”
“ไอ้ไคล์” ปกป้องยกกำปั้นเตรียมกระแทกหน้าไคล์อีกครั้ง แต่โดนเพื่อนทั้งสองคนแยกออกจากกันซะก่อน
“เอ๊ยๆ แยกๆ” โจชัวกับเจฟล็อกทั้งสองคนไว้
“พวกมึงจะทะเลาะกันทำไมวะ กะอีกแค่ผู้หญิงคนเดียว” คำพูดของโจชัวทำให้ปกป้องสะบัดหน้าหนี ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มกลอกตาไปมา เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม พอเขาเห็นภาพนี้เมื่อเช้ามันทำให้เขาร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก เขารู้สึกห่วงหรือบ้าอะไรก็ไม่รู้กับผู้หญิงของเพื่อน ทั้งที่ตอนแรกคิดแค่ว่าอยากกระตุ้นไคล์ อยากรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคน
แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้มันทำให้เขาโกรธขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ หรือบางทีเขาอาจจะเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวแต่ที่แน่ๆ เขาไม่ได้คิดชอบผู้หญิงของเพื่อนแน่นอน
“ถ้าคนที่อยู่ในรูปเป็นน้องมึง มึงจะโกรธคนที่ปล่อยรูปรึเปล่าล่ะ” พูดจบปกป้องก็สะบัดตัวให้หลุดออกจากการเกาะกุมของโจชัวแล้วเดินออกจากห้องไปทันที
ทำให้ทุกคนหน้าเหวอมองตามอย่างงงๆ
“คนในรูปน้องมันเหรอวะ” โจชัวหันไปถามไคล์ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ตอบ สะบัดตัวออกจากเจฟแล้วเดินเตะเก้าอี้ที่ขว้างทางออกจากห้องไปเช่นกัน
ทำให้ทั้งสองคนที่อยู่ในห้องเกาหัว มองหน้ากันอย่างงงๆ เพราะยังไม่ได้คำตอบ
อะตอมนั่งอยู่ในรถราวห้านาทีตั้งแต่มาถึง มองคอนโดหรูหราที่เขาเคยมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่เคยขึ้นไปข้างบนเลยสักครั้ง
เขาตัดสินใจโทรไปหาคนที่เขาอยากเจออีกครั้ง แต่ก็ไม่มีคนรับสาย ทำให้เขาร้อนใจ ตัดสินใจไม่รออีกต่อไป ตรงเข้าไปข้างในและสอบถามเจ้าหน้าที่คอนโดทันที
“ไม่ทราบว่าพราวฟ้าพักอยู่ห้องไหนครับ”
“พราวฟ้า” เจ้าหน้าที่ขมวดคิ้ว
“คุณ พรรณิสา สุวรรณศิลป์ ครับ”
“สักครู่นะคะ คุณ พรรณิสาที่อยู่กับคุณไคล์ใช่ไหมคะ พักอยู่ที่ห้อง 911 ค่ะ” ได้ยินแบบนั้นอะตอมก็หัวใจเต้นรัว ทั้งที่เขาภาวนาแทบตายขออย่าให้สิ่งที่คิดเป็นเรื่องจริง แต่คำตอบตรงหน้ามันก็ยืนยันว่ามันคือความจริง
อะตอมวิ่งตรงไปที่ลิฟต์ทันที
“คุณคะ คุณ จะไปไหนคะ” แต่พนักงานเรียกไว้ซะก่อน
“ผมขอขึ้นไปข้างบนได้ไหมครับ พอดีเพื่อนผมเขาไม่สบายโทรมาก็ไม่รับสายสักที ผมกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป” อะตอมพูดรัวเร็ว เอาความเป็นความตายเข้ามาช่วยพูด
“เอ่อ…ปกติแล้วคอนโดเราไม่ให้คนนอกขึ้นไปข้างบนนะคะ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้อง”
“แต่เพื่อนผมเขาไม่สบายจริงๆ ครับ ไม่ไปเรียน แถมไม่รับโทรศัพท์ผมกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร ถ้าคุณไม่ไว้ใจให้คนอื่นขึ้นไปข้างบนกับผมก็ได้ครับ”
“นะครับ”อะตอมเร่งอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ทำหน้าคิดหนัก ถ้าเกิดเรื่องที่ผู้ชายตรงหน้าพูดเป็นเรื่องจริงก็น่าเป็นห่วงไม่น้อย
“ก็ได้ค่ะ เราจะให้คนขึ้นไปกับคุณด้วย” เจ้าหน้าที่ผู้หญิงเรียกยามที่ประจำการอยู่มาหาและให้กุญแจห้องไปแจ้งเลขที่ห้อง เพื่อขึ้นไปกับอะตอม ซึ่งอะตอมก็เดินนำไปอย่างร้อนรน พอถึงหน้าประตูห้องเจ้าหน้าที่ก็ไขกุญแจเข้าไปทันที
อะตอมสำรวจห้องที่ใหญ่โตพอสมควร มองประตูห้องสามบานอย่างลังเลว่าพราวฟ้าจะอยู่ห้องไหน
“พราว พราว อยู่ในนี้รึเปล่า” อะตอมเลือกที่จะตะโกนถาม แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ
“เอาไงดีครับ เพื่อนคุณอยู่ที่นี่จริงรึเปล่า” เจ้าหน้าที่ถาม
“อยู่ครับ” อะตอมตัดสินใจเดินไปที่ประตูห้องหนึ่งอย่างไม่ลังเล เพราะกลัวว่าจะทำให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ หมุนลูกบิดครั้งเดียวก็เปิดเข้าไปได้เพราะประตูไม่ได้ล็อก
อะตอมแทบล้มทั้งยืนเมื่อเห็นว่าใครนอนอยู่บนเตียง สภาพไม่ได้ต่างจากในภาพสักเท่าไหร่นัก ดีที่มีผ้าห่มคลุมตัวเอาไว้
“คุณออกไปก่อนได้ไหมครับ ผมจะพาเพื่อนผมออกไป” แต่เขาก็ต้องดึงสติของตัวเองกลับมา หันไปบอกเจ้าหน้าที่ที่มาด้วย ที่ทำตาโตไม่แพ้กัน
“แต่”
“ผมจะพาเธอออกไปภายในห้านาทีครับไม่ต้องห่วง” อะตอมรู้ดีว่าเจ้าหน้าที่คิดอะไร ซึ่งพอเขาพูดแบบนั้นก็ยอมเดินออกไป
อะตอมค่อยๆ เดินเข้าไปหาร่างบางที่นอนหายใจรวยริน เขาลองเอามือเตะหน้าผากก็ต้องรีบดึงออกเพราะตัวเธอร้อนยิ่งกว่าไฟ
“พราว พราวครับ”
“อือ” เมื่อเห็นว่าร่างบางยังพอมีสติ เขาก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เขารู้ว่าใต้ผ้าห่มนั้นไม่มีอะไรเลย หาเสื้อตัวที่ใหญ่ที่สุดออกมา
“เราขอโทษนะพราว” อะตอมใส่เสื้อเข้าไปทางหัวดึงผ้าคลุมทั้งตัวแล้วใส่เข้าไปในแขนทั้งสองข้าง ดึงลงมาให้คลุมไปทั้งตัว
สภาพของพราวฟ้าทำให้เขาแทบทำอะไรไม่ถูกแต่เขาก็ต้องตั้งสติ พาเธอออกไปจากที่นี่ เขาไม่ยอมให้เธออยู่ที่นี่อีกแล้ว
อะตอมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้งเพื่อนหากางเกงให้หญิงสาว เขาใส่ให้เธออย่างเร่งรีบและระวัง เขาไม่ได้มองเธอสักนิด สาบานได้ และไม่เห็นอะไรเลยเพราะผ้าห่มปิดหมด
เมื่อคิดว่าเรียบร้อยดีแล้วก็หันไปหยิบกระเป๋าที่หญิงสาวใช้ประจำ แล้วช้อนร่างบางขึ้นสู่อ้อมแขนพาเดินออกจากห้อง
“ไปกันเถอะครับ ผมต้องรีบพาเธอไปโรงพยาบาล” อะตอมบอกเจ้าหน้าที่ที่รออยู่ ซึ่งเขาก็ทำตาม เดินนำลงไปด้วยหัวใจที่เต้นระทึก
พอมาถึงข้างล่างเขาก็รีบพาร่างบางตรงไปยังรถทันที วางเธอลงที่เบาะข้างๆ อย่างเบามือ และขับรถออกไป
MANGA DISCUSSION