คนที่ได้ปลดปล่อยเดินเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ สลัดเสื้อผ้าออกจากตัวแล้วไปยืนฝักบัว
ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร สับสนอะไรอยู่ เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้ ทำไมยัยนั่นถึงเข้ามามีอิทธิพลในความคิดของเขามากขนาดนี้
ทำไมช่วงนี้เขาถึงต้องคิดถึงแต่เรื่องของพราวฟ้า
“โถ่โว้ย…ฉันต้องกำจัดเธอออกไปจากชีวิตฉันให้เร็วที่สุด” ไคล์ขยี้ผมตัวเองแรงๆ ก่อนจะสบถในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา
พราวฟ้าคือคนที่พรากทุกอย่างไปจากชีวิตเขา ยัยนั่นเป็นคนร้ายกาจ แย่งทุกคนไปจากเขา
ความจริงไคล์ก็เป็นแค่คนคนหนึ่งที่มีความโลภ เขาเป็นคนที่โลภ โดยเฉพาะเรื่องความรัก ไคล์เป็นคนที่ขาดพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่เขาเริ่มจำความได้ เขาก็มีแต่แม่ แต่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอพ่อ เอาเป็นว่าเขาไม่อยากพูดถึงคนที่ทิ้งเขาไปแค่นั้นเอง
ตอนไปโรงเรียนเขาเห็นเด็กคนอื่นมีพ่อแม่มารับ เขาก็เกิดความอิจฉา แต่แม่ก็บอกเขาว่า แม่จะเป็นทุกอย่างให้เขาเอง แม่จะมอบความรักให้เขามากที่สุด ลูกไม่ต้องกลัว ถึงจะไม่มีพ่อ ลูกก็จะไม่ขาดความรัก
คำพูดพวกนี้มันหลอกลวงชัดๆ เพราะตั้งแต่แม่รับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาเลี้ยง คำพูดที่แม่พูดกับเขา แม่ยกให้เด็กผู้หญิงคนนั้นจนหมด
ไคล์ฝังความเกลียดชังตั้งแต่นั้นมา สมองเขาบอกว่าเกลียดพราวฟ้า เขาไม่เคยรับยัยนั่นเป็นน้องอย่างที่แม่หวัง มันบ้ามาก
พอโตขึ้นเขาคิดว่าความรักของแม่ไม่จำเป็นต่อเขาอีกต่อไป เขาสามารถใช้ชีวิตเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาแม่ แต่พอมาวันนี้แม่กลับยัดเยียดผู้หญิงคนนั้นให้มาเป็นเมียเขา ทั้งที่เขาไม่ต้องการ
เขาวางแผนจะทำให้เธอรู้ถึงความเจ็บปวดที่เขาได้รับ คนที่แย่งทุกอย่างไปจากเขาต้องเจ็บกว่าเขา เขาจะทวงของของเขาคืน ยัยนั่นจะไม่ได้อะไรจากบ้านเขาสักแดง
แต่ทำไมตอนนี้การกระทำกับความคิดของเขามันย้อนแย้งกันนัก มันบ้ามากจริงๆ
พราวฟ้าจำต้องลากสังขารตัวเองมาเรียนทั้งที่เธอลุกจากที่นอนแทบไม่ไหว
“ทำไมหน้าเป็นงั้นอ่ะพราว” มาถึงปริมก็ถาม ทำหน้าตกใจ
“คือ..เรานอนน้อยน่ะ”
“ปวดหัวรึเปล่า”
“นิดหน่อย แต่เรากินยาแล้วล่ะ” พราวฟ้าไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง แต่วันนี้เธอก็รู้สึกปวดหัวจริงๆ นั่นแหละ ช่วงนี้ทำไมเธออ่อนแอจังก็ไม่รู้
มันเป็นเพราะไคล์นั่นแหละที่รังแกเธอบ่อยและหนักเกินไป แต่จะโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เธอต้องโทษตัวเองด้วยที่ยอมตามใจเขา ถ้าเธอลองขัดขืนเขาสักนิด ต่อต้านเขา เขาคงไม่ทำอะไรเธอหรอก แต่มันเป็นเพราะเธอเองที่กลัว
กลัวว่าจะต้องไปจากเขา ก็เขามีกฎของเขาหนิ ถ้าเธอไม่ยอมเธอก็ต้องไป
“ยัยนี่ก็อีกคน ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” เอมม่าเดินเข้ามากระแทกก้นนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“คงไม่ใช่เรื่องเดิมๆ อีกหรอกนะ” ปริมเดา
“เมื่อวาน มีคนเห็นไคล์พาผู้หญิงขึ้นรถไปด้วย” เป็นเพราะตอนนี้เอมม่าไม่ได้เข้าใกล้ไคล์เลย เธอเข้าไม่ถึงตัวเขาเลยด้วยซ้ำ รู้ๆ อยู่ว่าไคล์เป็นพวกเข้าถึงยาก ถ้าเขาไม่ยอมให้เข้าใกล้อย่าหวังว่าผู้หญิงคนไหนจะได้เข้าใกล้เขา
เขาไม่ได้มีบอดี้การ์ดหรืออะไรหรอกนะ แต่ผู้ชายกลุ่มนั้นน่ะ หาตัวยาก แถมไวอีกต่างหาก
“ไม่เห็นแปลกที่ผู้หญิงจะขึ้นรถไปกับเขา” ปริมออกความเห็น
“แปลกสิ แปลกมากด้วยเพราะไคล์ไม่เคยควงผู้หญิงในมอ ถ้าจะควงต้องเจอกันข้างนอก”
“อ่อ” ปริมพยักหน้า เธอไม่รู้หรอกว่าผู้ชายของเอมม่าควงใครไม่ควงใคร
อะตอมนั่งฟังเงียบๆ และสังเกตบางสิ่งที่เขาสงสัย เขาไม่อยากให้สิ่งที่ตัวเองคิดเป็นจริงสักนิด แต่อาการของพราวฟ้าตอนนี้มันทำให้เขาอดคิดไม่ได้จริงๆ ก้มหน้างุดบีบมือตัวเองแน่น
มันมีทางเป็นไปได้แค่ไหนที่คนต่างกันสุดๆ จะมาเจอกัน
ผู้ชายที่รับโทรศัพท์เขาเป็นไคล์จริงๆ น่ะเหรอ
ปากบางเม้มเข้าหากัน หัวใจเต้นระทึกทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องไคล์จากปากเอมม่า
เมื่อวานมีคนเห็นงั้นเหรอ
“เข้าเรียนกันเถอะ” อะตอมตัดบทลุกขึ้นชวนสาวๆ ขึ้นเรียน
“ป่ะ”
สองสาวเดินตามอะตอมขึ้นเรียน ส่วนเอมม่ายังนั่งอยู่ที่เดิม เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดดูรูปที่มีคนถ่ายผู้หญิงคนนั้นไว้ได้ แต่มันเห็นแค่แวบๆ เท่านั้น
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เพ่งมอง ขยายแล้วขยายอีกก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่มองดูบางมุมเธอก็รู้สึกคุ้นกับผู้หญิงคนนี้แปลกๆ
เธอต้องรู้ให้ได้ ว่าผู้หญิงคนนี้กับคนที่อยู่กับไคล์ที่ห้องเป็นคนเดียวกันรึเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นยัยนี่คงมีความสำคัญกับไคล์มาก
เมื่อหมายมั่นแบบนั้น เอมม่าก็ลุกขึ้นตามเพื่อนๆ ขึ้นเรียน
หลังจากเลิกเรียน
“พราว ตอมลืมถามเลย ว่าเมื่อเช้ามาไง รถซ่อมเสร็จรึยัง” อะตอมถามคนที่เขาเดินตามหลังมา
“อืม เสร็จแล้วล่ะ” เธอบอกให้ช่างมาเปลี่ยนยางให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
“แล้วนี่จะไปไหนกันต่อรึเปล่า” อะตอมหันไปถามปริม
“ฉันว่าจะไปห้างอ่ะ พราวไปด้วยกันไหม”
พราวฟ้าส่ายหน้า
“เราอยากกลับไปนอนมากกว่า ขอโทษด้วยนะ”
“ขอโทษอะไรล่ะ ฉันไม่ได้งอนซะหน่อย ชวนเอมม่าก็ได้ ไปไหม”
คนถูกชวนไม่ได้ตั้งตัวขมวดคิ้ว ปกติพวกนี้ชวนเธอเสียที่ไหน ถ้าเธอไม่เสนอตัวขอไปด้วย
“ไปสิ ฉันก็เบื่อๆ เหมือนกัน”
“โอเคตามนั้น”
“งั้นกันไปก่อนนะ ไปเถอะพราวเดี๋ยวเราเดินไปส่งที่รถ”
“อืม ไปก่อนนะปริม” พราวฟ้าไม่ปฏิเสธ เพราะรู้ว่าปฏิเสธไปก็เท่านั้น เพื่อนชายของเธอคนนี้เป็นห่วงเธอ เธอก็ไม่อยากปฏิเสธความห่วงใยของเพื่อน
“อะตอมนี่ชอบพราวรึเปล่าเธอว่า” ลับหลังสองคนนั้น เอมม่าก็ถามขึ้น
ปริมมองคนถามตาปริบๆ
“ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้น”
“ก็เห็นเทคแคร์ดูแลกันจัง” ความจริงอะตอมเป็นคนที่หล่อคนหนึ่งในสายตาของเอมม่า แถมฐานะทางบ้านยังดีอีกต่างหาก เธอเคยคิดจะอ่อยเล่นๆ ด้วยซ้ำ แต่พอรู้จักจริงๆ เธอก็ต้องรีบถอย ผู้ชายอะไรปากเสีย พูดตรงเป็นที่หนึ่ง และเธอก็รู้ด้วยว่าอะตอมไม่ชอบหน้าเธอ
“ฉันก็ไม่รู้สิ อาจจะมั่ง” ปริมยักไหล่ตอบ เธอเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ถามเพื่อน เห็นเพื่อนไม่รุกไม่ทำอะไรสักที เลยคิดว่าอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ อะตอมปฏิบัติกับพราวฟ้าแบบนี้มาตั้งแต่ต้นที่รู้จักกัน
MANGA DISCUSSION