“กลับกันเลยไหม” อะตอมหันไปถามหญิงสาว
“อืม”
“ฉันไปก่อนนะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” เอมม่าหันมาลา
“อืม บาย”
“นี่ปริม ฉันถามหน่อยสิ” อยู่ๆ ก็มีเพื่อนร่วมคลาสเดินเข้ามาถาม
“มีอะไรเหรอ”
“พวกเธอไปเป็นเพื่อนกับยัยเอมม่านั่นได้ยังไง” ปริมทำหน้างง
“ทำไมเหรอ”
“ยัยนี่ไม่ธรรมดานะ ฉันได้ยินมา”
“ไม่ธรรมดายังไง” ความอยากรู้ทำให้ปริมจี้ถามต่อ
“นางเคยแย่งผู้ชายกลุ่มเดียวกันกับเพื่อน นางเลยโดยเพื่อนในกลุ่มเทไม่มีใครคบ” คำพูดของเธอทำให้พราวฟ้ากำสายกระเป๋าในมือแน่น
“ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย”
“ไม่รู้ก็ไม่แปลกพวกเธอสนใจใครที่ไหน ระวังไว้หน่อยก็ดี”
“คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง กลุ่มฉันไม่มีใครมีแฟนสักคน ฮ่าๆ” ปริมพูดแล้วหัวเราะร่วน
“แต่ขอบใจนะที่มาพูดให้ฟัง”
“จ๊ะ” พอเพื่อนคนนั้นเดินออกไปปริมก็หันมาถามอะตอมกับพราวฟ้า
“แกว่าเอมม่าเป็นยังไงวะ”
พวกเราไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันเลย เพราะคิดว่าการมีเพื่อนเพิ่มมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และมันคงดูใจร้ายเกินไปหากใครมาขอเป็นเพื่อนแล้วบอกว่า ไม่ได้หรอก ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ ทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรให้เลย
“เธอคิดว่าไงล่ะ ยัยนั่นคุยกับเธอมากกว่าพวกฉัน” อะตอมเป็นคนพูด
“พราวล่ะ”
“ไม่รู้สิ” พราวฟ้าไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ เธอไม่ได้คุยกับเอมม่ามากนัก เรียกได้ว่าคุยกันนับคำได้ มีแต่ปริมเท่านั้นที่คุยกับเอมม่า
“ชั่งเรื่องของยัยนั่นเถอะ” อะตอมตัดบท เขาไม่ได้สนใจเอมม่ามากนัก
“อืมๆ งั้นฉันกลับก่อนนะ พราวกลับกับอะตอมใช่ไหม”
“อืม”
“งั้นบายเจอกันพรุ่งนี้” เมื่อปริมแยกตัวออกไปเหลือแค่สองคน อะตอมมองคนข้างๆ ที่เงียบตลอดทางเดินไปที่รถ
ยังไม่ทันที่จะถึงรถเสียงโทรศัพท์หญิงสาวก็ดังขึ้นซะก่อน เธอหยิบออกมาขมวดคิ้วมองชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอ อย่างคาดไม่ถึง
แต่ก็ตัดสินใจกดรับ
“ค่ะ” ทักทายเพียงแค่สั้นๆ อดไม่ได้ที่เหลือบตามองคนข้างๆ เม้มปากเป็นเส้นตรงเมื่อได้ยินสิ่งที่ปลายสายพูด
“เข้าใจแล้วค่ะ” พอวางสายพราวฟ้าก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“คือ ขอโทษนะอะตอม พอดีเราต้องไปธุระต่อ” หันมาบอกคนที่เป็นสารถีให้อย่างลำบากใจ
“มีธุระเหรอ ให้เราไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไร ธุระเราอยู่ใกล้ๆ นี่แหละ ตอมจะไปหาเพื่อนต่อไม่ใช่เหรอ” พราวฟ้าบอกอย่างเกรงใจ อะตอมพยักหน้ารับคำ ใช่ ตอนออกจากห้องเขาบอกกับเธอเองว่าจะไปส่งเธอก่อนแล้วค่อยไปหาเพื่อน
ในคณะอะตอมไม่มีเพื่อนคนอื่นนอกจากพราวฟ้าและก็ปริม เป็นเพราะเขาเองก็ไม่อยากสุงสิงกับใคร เห็นว่าสองคนนี้ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นเขาเลยเลือกที่จะคบทั้งสองคน พอได้รู้จักได้พูดคุยกัน เขาพบว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่ดีเลยล่ะ โดยเฉพาะพราวฟ้า ถึงเธอจะไม่ค่อยพูด แต่เธอก็ห่วงคนอื่นอยู่เสมอ
ถึงภายนอกเธอจะดูอ่อนแอแต่เขารู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งคนหนึ่ง แต่ทำไมไม่รู้ ความรู้สึกเขาบอกว่าอยากปกป้องผู้หญิงคนนี้ เขาถึงทำตัวดีกับพราวฟ้ามาตลอด คอยถามไถ่คอยเป็นห่วงเธอตลอดเวลา คนอื่นอาจจะมองว่ามันเกินคำว่าเพื่อน
แต่สำหรับเขา แค่นี้ก็ดีแล้ว
แต่ใช่ว่าจะไม่มีเพื่อนผู้ชาย เขามีเพื่อนต่างคณะเยอะ โดยเฉพาะวิศวะ ถ้าไม่ติดความชอบส่วนตัวเขาเองก็คงสอบเข้าคณะเดียวกับเพื่อนๆ
ถึงจะเรียนคนละคณะแต่ก็พบปะกันประจำ บุคลิกที่อยู่กับผู้หญิงสองคนนี้กับเวลาที่อยู่กับเพื่อนกลุ่มผู้ชายจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“ก็ได้ มีอะไรโทรมานะ หรือถ้าพรุ่งนี้รถยังไม่เสร็จ โทรหาเราจะแวะไปรับ”
“ขอบใจนะ”
พออะตอมแยกออกไปพราวฟ้าก็ถอนหายใจออกมายาวๆ คำสั่งของคนเผด็จการก็ลอยเข้ามาในหู
(เธอต้องกลับกับฉัน คุณนายแม่ของเธอบอกให้ฉันพาเธอไปที่บ้าน ไปรอที่ลานจอดรถหลังตึกคณะฉัน)
เขาพูดแบบนี้เธอจะว่าอะไรได้ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ปกติเขายอมให้แม่เขาบังคับได้ซะที่ไหน การพาเธอกลับบ้านเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยอยากจะทำเลยสักนิด จะมีก็แต่ครั้งที่เธอต้องเข้าโรงพยาบาลอาทิตย์ก่อน
และเธอก็ไม่คิดว่าเขาจะยอมทำตามคำสั่งแม่ของเขาอีก
ไคล์เป็นคนหัวดื้อ เชื่อในความคิดของตัวเอง ไม่ยอมฟังเหตุผลของใครอยู่แล้ว นอกซะจากเขาจะได้เห็นและรับรู้ด้วยตัวเอง
เธอเลยคิดจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาได้เห็น แต่การพิสูจน์มันก็มีหลายทางเลือก หนึ่งในนั้นที่ง่ายๆ คือ การที่เธอต้องไปจากครอบครัวของเขาเหมือนอย่างที่เขาเคยลั่นวาจาเอาไว้
แต่ถ้าเธอทำอย่างนั้นมันจะเป็นการอกตัญญูเกินไป ในเมื่อคุณหญิงท่านขอร้องเธอ ให้เข้ามาเปลี่ยนความคิดของลูกชายท่าน และมันก็เป็นความรู้สึกลึกๆ ของเธอเองด้วย
ความรู้สึกที่มันไม่ควรเกินขึ้นเลยสักนิด
แต่ทำไมเธอถึงยังฝังใจกับเขา เธอรู้ว่าไคล์ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร เขามีมุมที่อ่อนโยน แต่มันก็นานมาแล้ว นานจนเธอคิดว่าเธอจะเปลี่ยนเขากลับไปเป็นแบบนั้นได้อีกรึเปล่า
เธอก็อยากลองดู เธอถึงต้องมาอยู่ตรงนี้ บวกกับความรู้สึกผิดด้วย ถ้าเธอไม่เข้ามาในชีวิตของครอบครัวเขา เขาก็คงไม่ต้องระเห็จออกมาอยู่นอกบ้านแบบนี้ แม่ของเขาก็คงมีแค่เขาคนเดียว รักแค่เขาคนเดียว ไม่แบ่งปันความรักให้ใคร
เหมือนที่เขาเคยพูดกับเธอ
“เธอมันตัวมาร ตัวแย่งความรักของทุกคนไปจากฉัน ฉันเกลียดเธอ”
ในวัยเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุแค่สิบขวบ โดนผู้ชายที่เธอรักและมองเขาเป็นพี่ชายพูดตอกใส่หน้า เธอร้องไห้จ้าออกมาไม่สนอะไรทั้งสิ้น คิดแต่ว่าพี่รังแก
คุณหญิงท่านก็เข้ามาปลอบโยนแล้วเอ็ดลูกชายไปฉะใหญ่
“ไคล์ทำไมพูดกับน้องแบบนี้ เราเป็นผู้ชายนะ แล้วแม่ก็รักลูกเท่ากัน อย่าพูดแบบนี้อีก” เมื่อโดนคนเป็นแม่เอ็ด แววตาชายหนุ่มก็ฉายความเจ็บปวดออกมาให้เห็น มองเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดแม่อย่างเกลียดชัง
ตั้งแต่มีเด็กคนนี้เข้ามาในครอบครัวที่มีแค่เขากับแม่ แม่ก็ไม่เคยกอดเขาอีกเลย นิทานก่อนนอนก็ไม่เคยเข้ามาเล่าให้ฟัง เพียงแค่ข้ออ้างน้องก็อยากฟัง น้องเป็นผู้หญิง
ซึ่งเขาไม่เคยอยากมีน้องเลยสักนิด
MANGA DISCUSSION