—เมื่องแห่งการต่อสู้ ลูซาฮัล
ลูซาฮัล ตั้งอยู่ท้างใต้ของบัลเซ่ ระยะทางเดินทางสองวันโดยใช้รถม้า
ถ้าบัลเซ่ คือสรวงสวรรค์ของฮันเตอร์ล่ะก็ ลูซาฮัลก็คือเมืองแห่งศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักรอเมเลีย ภายในเมืองมีโรงฝึกศิลปะการต่อสู้หลากหลายประเภทมากว่า100แห่ง และร้านอาวุธและอุปกรณ์ชื่อดังมากมายเรียงรายตามถนนสายหลัก นั่นแหละคือ ลูซาฮัล
“การแข่งยังไม่เริ่มแท้ๆ แต่คนยังเยอะไม่เปลี่ยนเลยนะ”
ร้อยเรียงความรู้สึกที่แสนเรียบง่ายออกมา พร้อมกับนึกถึงความทรงจำครั้งในอดีตที่เคยมากับปู่
“ไค เมื่อก่อนเคยมาที่เมืองนี้ด้วยเหรอคะ?”
โรสที่อยู่ข้างๆกล่าวถามด้วยความสงสัย
“ก็นะ”
ทั้งที่ร่างกายไม่ได้สัมผัสมานานกว่าแสนปี แต่ในความทรงจำกลับรู้สึกเหมือนพึ่งผ่านไปไม่กี่ปี ช่างเป็นความรู้อันแปลกประหลาด
“เดี๋ยวฉันขอตัวไปสมัครเข้าร่วมการประลองก่อนล่ะนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้น ฉันจะพาฟาฟจังล่วงหน้าไปรอที่โรงแรมก่อนนะคะ”
“ฟาฟก็จะไปกับนายท่านด้วยเจ้าค่ะ!”
ฉันลูบหัวฟาฟที่เกาะไม่ยอมปล่อยเบาๆ
“ตอนนี้ แอสต้ารออยู่ที่โรงแรมแล้ว จนถึงตอนนั้น เธอช่วยปกป้องทั้งสองคนหน่อยนะ”
พอร้อยเรียงถ้อยคำแห่งการวิงวอนออกไป
“อื้อ— เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!ฟาฟจะพยายามเจ้าค่ะ!”
ฟาฟกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมพร้อมกับชูกำปั้นขวาขึ้นฟ้า อืมๆ เป็นเด็กที่ซื่อตรงไม่เปลี่ยนเลยนะฟาฟเนี่ย
“ถ้างั้น ที่เหลือก็ฝากด้วยล่ะ”
“ค่ะ เชื่อมือได้เลยค่ะ”
ฉันหันหลังให้โรสที่กำลังพยักหน้า และก้าวเท้าเดินไปยังแผนกต้อนรับ
แจ้ง ชื่อ สำนัก และกิฟท์ ให้พนักงานต้อนรับสาวทราบ จากคำกล่าวของโรส ถ้ากล่าวความเท็จออกไปที่นี่ ก็จะถูกตัดสิทธิ์ ซ้ำยังเสียค่าปรับอีก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง เลยบอกความจริงออกไปตามตรง พอบอกว่ากิฟท์คือ【ไร้ความสามารถที่สุดในโลก】ก็ถูกมองด้วยสีหน้าสงสารเท่านั้น
แล้วก็อีกอย่าง เรื่องของสำนักแน่นอนว่าต้องเป็น 『สำนักดาบไคริว』ก็วิชาดาบไฮเนมัน ไม่ใช่วิชาดาบของฉันอีกต่อไปแล้วนินะ
พอกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่แอสต้ารออยู่
“โอ่ย ไอ้เจ้าไร้ความสามารถ ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่!?”
ได้ยินเสียงทื่อๆลอยมาจากด้านหลัง พอหันกลับไปก็เจอกับ ชายร่างใหญ่หัวล้านคางก้น พร้อมกับเหล่าเด็กชายหญิงหลายคนที่มองฉันด้วยสีหน้าดูถูก
ทุกคนอยู่ในความทรงจำ ครูผู้ช่วยของสำนักดาบไฮเนมันกับเหล่าลูกศิษย์ในสำนัก บางทีเหล่าเด็กชายหญิงพวกนี้คงจะมาเข้าร่วมการประลองสินะ
ก็เป็นถึงการประลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักรเลยนี่นะ ขอแค่ชนะการประลองรอบสุดท้ายตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะถูกยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง ชื่อเสียงของสำนักก็เพิ่มขึ้น การมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ตามที่พวกนายรู้ ฉันออกจากตระกูลไฮเนมันแล้ว หรือก็คือ ฉันจะทำอะไรที่ไหนมันก็เรื่องของฉัน พวกนายไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย หรือว่าไม่ใช่?”
“อย่ามาล้อเล่น!จริงอยู่เรื่องที่แกออกจากตระกูลไฮเนมันก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กัน แต่ความจริงข้อนั้นคนส่วนใหญ่เขายังไม่รู้ แค่แกมาแสดงสภาพน่าสมเพชนั่นที่นี่ ต้องทำให้ป้ายสำนักดาบไฮเนมันแปดเปื้อนขนาดไหนแกรู้รึเปล่า!รีบไสหัวออกจากเมืองนี้ไปซะ!”
เป็นเด็กที่ชอบแหกปากจังนะ เอาล่ะ จะทำยังไงดีล่ะที่นี้
“อาจารย์ชิกะ ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกเราก็เป็นไฮเนมันเหมือนกัน ขอแค่พวกเราผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ แค่นั้นชื่อเสียงของสำนักไฮเนมันก็ไม่ต้องแปดเปื้อนแล้ว กลับกัน หมอนั่นเป็นข้อยกเว้น ที่ตัวเองไร้ความสามารถจนไม่สามารถเข้าถึงวิชาดาบ ไฮเนมัน ได้มันก็เท่านั้นแหละ”
หนุ่มหล่อผมเงิน แสดงความคิดเห็นต่อคำพูดของครูผู้ช่วยชิกะ เหล่าเด็กคนอื่นก็เหมือนจะเห็นด้วย จะว่าไป คนที่รู้เรื่องกิฟท์ของฉันแล้วเปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ ก็คือ ครูผู้ช่วยชิกะกับหนุ่มน้อยริคุ รึเปล่านะ เอาเถอะ สำหรับฉันในตอนนี้แล้วความจริงข้อนั้นจะยังไงก็ชั่ง
“ก็จริงอย่างที่นายว่าริคุ ถ้าเป็นนายล่ะก็ ต้องผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้อย่างแน่นอนสินะ”
ครูผู้ช่วยชิกะ พยักหน้าให้ริคุสองสามครั้ง และ
“ฟังนะ!ไม่ว่าจะยังไง แกก็อย่าอ้างชื่อ ไฮเนมันเด็ดขาด!”
ทิ้งประโยคแบบนั้นไว้และจากไป
เอาล่ะ เจ้าพวกไร้สาระก็หายไปแล้ว กลับที่พักดีกว่า พอกำลังจะก้าวเท้าออกเดิน—
“โฮ่”
ความรู้สึกเสียวซาบพุ่งมากระทบผิวหนัง นี่มันจิตสังหารงั้นเหรอ ระดับพอๆกับอสูรที่ปรากฏตัวชั้นบนสุดของดันเจี้ยนสุดอ่อนนั่นเลยล่ะ แต่สำหรับฉันก็เป็นแค่ลมอ่อนๆล่ะนะ
“นายน่ะ แกร่งไม่เบาเลยนิ”
เจ้าคนที่ปล่อยจิตสังหารออกมา เดินมาอยู่ตรงหน้าฉันและก้มมอง ร่างกายกำยำใหญ่ยักษ์สูงสองเมตร ท่าทางดุร้ายราวกับสัตว์ป่า มือและหมัดเต็มไปด้วยรอยขรุขระนับไม่ถ้วน เป็นพวกที่ใช้ศิลปะการต่อสู้โดยใช้งานร่างกายจนถึงขีดสุดสินะ
“เป็นงั้นรึเปล่านะ”
แรงกดดันระดับนี้ เคยสัมผัสมาก่อนในดันเจี้ยนนั่น โดยเฉพาะบอสชั้น600 สัตว์ร้ายที่เรียกตัวเองว่าราชาเทพอสูร เนเมียร์ตอนแรกก็รู้สึกว่าเป็นพวกบ้าการต่อสู้แบบนี้รึเปล่านะ
“นายน่ะ ชื่ออะไร?”
“ไค ไฮเนมัน”
“ฉันแซค กรุ๊ปB นายล่ะ?”
กรุ๊ปB?อา—อ๊ะ พูดถึงเรื่องแบ่งกลุ่มการประลองสินะ พอพลิกด้านหลังบัตรเข้าร่วมโลหะดู ก็สลักบอกไว้ว่า กรุ๊ปD
“ของฉันดูเหมือนจะเป็นกรุ๊ปD”
“งั้นเหรอ งั้นไว้เจอกันรอบสุดท้าย”
พร้อมกับทุบหมัดโดยมีรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนหน้า อืม จะเรื่องเชื่อมั่นในทักษะการต่อสู้ของตัวเองก็ดีหรือเรื่องบุคลิกบ้าระห่ำก็ดี หมอนี่เหมือนเนเมียร์ก่อนหน้านี้อย่างกับแกะ
“ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีนะ”
“ได้อยู่แล้ว ถ้าเป็นพวกเราน่ะนะ”
แซคชูกำปั้นขวาขึ้นฟ้าและหายลับเข้าไปในฝูงชน ฉันพยักไหล่และเริ่มก้าวเดินมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่จองไว้ก่อนหน้า
MANGA DISCUSSION