ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5735 ขอบคุณคำอวยพรของคุณชายเย่! (2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5735
ทั้งสามคนได้ยินเช่นนั้น พวกเขามองหน้ากันด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็รีบโค้งตัวและคุกเข่าลงบนพื้นทันที
เย่เฉินเห็นว่าชายชราสามคนที่มีอายุรวมกันกว่าสามร้อยปีกำลังคุกเข่าให้กับตนเอง หัวใจของเขาจะรับมันไว้ได้อย่างไร เขารีบลุกขึ้นเพื่อไปพยุงทั้งสามคนเอาไว้ แต่ทันใดนั้นหลินหว่านเอ๋อร์ก็ยื่นมืออันเรียวยาวของเธอออกมาจับข้อมือของเย่เฉินเอาไว้ พูดออกมาด้วยความจริงจัง “คุณชายไม่จำเป็นต้องลุกขึ้น มันสมเหตุสมผลที่แล้วที่พวกเขาทั้งสามจะบูชาคุณ”
เย่เฉินรีบพูดออกไปว่า “พวกเขาทั้งสามมีอายุมากขนาดนี้แล้ว จะให้พวกเขาทำความเคารพอันยิ่งใหญ่แบบนี้ มันดูไม่ค่อยเหมาะสม……”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดออกมาอย่างมุ่งมั่น “คุณชายวางใจ ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม ที่พวกเขาทำความเคารพอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งหมดก็เพื่อขอบคุณ คุณชาย และก็ทำเพื่อตัวของพวกเขาเอง!”
จากนั้นหลินหว่านเอ๋อร์ก็พูดออกมาอีกว่า “พวกเขาทั้งสามคือคนที่ฉันเป็นคนชุบเลี้ยงขึ้นมา ฉันรู้จักนิสัยของพวกเขาดี และรู้ถึงชะตาชีวิตของพวกเขา แม้ว่าชีวิตของพวกเขาจะถูกกำหนดให้ทุกข์ทรมานตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่ทุกสิ่งที่พวกเขาได้เผชิญ ทั้งหมดก็เพื่อให้ได้รับพรอันยิ่งใหญ่ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีทางได้พบกับฉัน”
“การได้รับพรนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการทำให้พรของตนเองต้องสูญสลายไป”
“ไม่เคารพต่ออาจารย์ ไม่เคารพต่อผู้อาวุโส ไม่เข้มงวดกับตนเอง ไม่มีคุณธรรม ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้พรนั้นสูญสลาย หากคุณชายต้องการมอบโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้กับพวกเขา แต่พวกเขากลับไม่มีโอกาสได้ทำการเคารพบูชาจากใจจริง ทำให้ความศรัทธาในใจจางหายไป เช่นนั้นจะเป็นการทำให้พรต้องสูญสลาย”
พูดถึงตรงนี้หลินหว่านเอ๋อร์ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย มองไปที่เย่เฉินและพูดอย่างจริงจัง “ดังนั้น หากในอนาคตคุณชายพบกับคนที่ต้องการคุกเข่าเพื่อเคารพและขอบคุณต่อท่าน คุณชายห้ามขัดขวางเขาเป็นอันขาด หากไม่ให้เขาคุกเข่าเพื่อเคารพ เช่นนั้นจะเป็นการทำลายพรของเขา”
เย่เฉินยังไม่ทันได้ไตร่ตรองกับคำพูดเหล่านั้นของหลินหว่านเอ๋อร์ ชายชราทั้งสามก็คุกเข่าลงไปหมดแล้ว
ทั้งสามคนพูดออกมาพร้อมกัน “ขอขอบพระคุณสำหรับความเมตตาและคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของคุณชายเย่!”
เย่เฉินทำอะไรไม่ได้นอกจากตอบกลับไปว่า “คุณตาทั้งสามรีบลุกขึ้นมาเถอะครับ”
หลินหว่านเอ๋อร์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเคร่งขรึมว่า “ก่อนที่คุณชายจะให้พร ห้ามลุกขึ้นมาเป็นอันขาด!”
ทั้งสามคนได้ยินแบบนั้นก็คุกเข่าโดยไม่เคลื่อนไหว
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เฉินได้เห็นด้านที่น่าเกรงขามของหลินหว่านเอ๋อร์ หญิงสาวที่อ่อนโยนและเชื่อฟัง ออกคำสั่งให้ชายชราสามคนนั่งคุกเข่าต่อหน้าเขา สิ่งนี้เป็นความจริงที่ขัดกับความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง
เย่เฉินเห็นแบบนั้นก็ไม่อยากจะทำให้เสียเวลาอีกต่อไป เขาคิดจะนำโอสถออกมาทันทีเพื่อทั้งสามจะได้ลุกขึ้นมาเร็ว ๆ
ดังนั้นเขาจึงนำโอสถออกมาสามเม็ด จากนั้นก็พูดออกมาว่า “นี่คือยาอายุวัฒนะ มีสรรพคุณในการรักษาโรคทุกประเภท ทำให้อายุยืนนาน เมื่อกินเข้าไปแล้วจะทำให้มีอายุยืดยาวขึ้นอีกยี่สิบปี ทั้งสามคนรีบกินมันเข้าไปได้แล้ว และในอนาคตก็ต้องดูแลคุณหลินให้ดี”
หัวใจของหลินหว่านเอ๋อร์เต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของเย่เฉิน
หลินหว่านเอ๋อร์รู้และเข้าใจถึงคุณค่าของยาอายุวัฒนะระดับสูงพวกนี้มากกว่าใคร ตนเองเป็นคนเลี้ยงดูสามคนนี้ขึ้นมา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเย่เฉิน และเรื่องบุญคุณยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่เย่เฉินกลับเต็มใจมอบยาอายุวัฒนะให้กับทั้งสามคน นี่เป็นความจริงที่อยู่เหนือความคาดหมายของหลินหว่านเอ๋อร์เป็นอย่างมาก
ในตอนที่เธอได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของเย่เฉิน เธอถึงได้เข้าใจ สามเหตุที่เย่เฉินดีต่อพวกเขาถึงขนาดนี้ ทั้งหมดก็น่าจะเป็นเพราะเธอ เพื่อในอนาคตหลังจากนี้ เธอจะได้ไม่เหงา
และเวลานี้ ชายชราทั้งสามรู้สึกดีใจจนไม่สามารถอธิบายออกมาได้ พวกเขาไม่ได้ดีใจเรื่องที่ตนเองมีอายุยืนขึ้นอีกยี่สิบปีเท่านั้น แต่พวกเขาดีใจเกี่ยวกับเรื่องความรู้สึกที่เย่เฉินมีต่อหลินหว่านเอ๋อร์อีกด้วย
ในมุมมองของพวกเขา บนโลกใบนี้ไม่มีนอกจากเย่เฉินที่คู่ควรกับหลินหว่านเอ๋อร์ไปมากกว่านี้อีกแล้ว ดังนั้นในตอนที่พวกเขาเห็นเย่เฉินเป็นห่วงเป็นใยหลินหว่านเอ๋อร์ ทำให้พวกเขานึกถึงภาพหลินหว่านเอ๋อร์ในชุดแต่งงานที่มีเจ้าบ่าวเป็นเย่เฉิน
ในตอนนั้น ความรู้สึกซาบซึ้งเอ่อล้นอยู่เต็มหัวใจของหลินหว่านเอ๋อร์ แต่ปากของเธอกลับตำหนิชายชราทั้งสาม “พวกนายยังงงอะไรกันอยู่? ยังไม่รีบขอบคุณพรจากคุณชายเย่อีกเหรอ?!”
ทั้งสามคนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นตื่นตัวขึ้นมาทันใด รีบพูดออกมาเสียงดังว่า “ขอบคุณคำอวยพรของคุณชายเย่!”