ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 699 ก้าวต่อไป
ตอนที่ 699 ก้าวต่อไป
ภายใต้การจัดการของเจียงเสี่ยวไป๋และหลินเจียจวิน รางวัลพิเศษหนึ่งรางวัล และรางวัลที่หนึ่งห้ารางวัลมีคนถูกเมื่อเช้านี้อย่างเข้มข้น จนข่าวได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองอย่างรวดเร็ว
ตลอดช่วงเช้า ยอดขายล็อตเตอรี่ก็เฟื่องฟูอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ตอนเที่ยง เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้ไปที่สปาเพื่อรับหลินต้าเหว่ยและคนอื่นไปที่ร้านหม้อไฟลาลาลาบนถนนชิงโจวเพื่อไปกินหม้อไฟ จากนั้นในช่วงบ่าย หลินต้าเหว่ย หลิวอี้ถิง และหานหยุนอิงก็ได้เดินทางกลับไปที่เจี้ยนหยาง
ส่วนหลินเจียเหว่ยก็จะไปเรียนขับรถเพื่อสอบใบขับขี่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กลับไปด้วย เจียงเสี่ยวไป๋จึงได้ลงทะเบียนให้เขาเข้าเรียนขับรถกับทางบริษัท
ส่วนเจียงเสี่ยวเฟิงและหลัวเจาตี้ก็กลับไปที่เจี้ยนหยางเช่นกัน เมื่อส่งทุกคนเสร็จแล้ว เจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋ก็ได้พาเจียงชานและเจียงถิงไปต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วล็อตเตอรี่อีกครั้ง
เจียงเสี่ยวไป๋บอกว่าจะเอาล็อตเตอรี่มาให้พวกเขาโดยตรง ไม่ต้องไปต่อแถว แต่เจียงไห่หยางก็ปฏิเสธไปว่า “แกไม่ต้องไปเอามาให้พวกเราหรอก ต่อแถวซื้อเองแบบนี้น่าสนใจกว่าเยอะ ! ”
มันก็จริงที่ว่าการต่อแถวซื้อเองแบบนี้สนุกสนานและตื่นเต้นยิ่งกว่า
หลินเจียอินไม่อยากอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่มากมายแบบนี้ และเนื่องจากเธอตั้งครรภ์ มันจึงไม่ปลอดภัยหากว่ามีคนมาเดินชน เธอจึงกลับไปพักในห้องพักของเกสต์เฮาส์
ในช่วงบ่าย มีการมอบรางวัลพิเศษสองรางวัลและรางวัลที่หนึ่งมากกว่าสิบรางวัล ซึ่งยิ่งผลักดันให้ผู้คนกระตือรือร้นในการซื้อล็อตเตอรี่มากยิ่งขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม เจียงเสี่ยวไป๋ไม่สนใจเรื่องนี้อีกต่อไปและหยุดดูความตื่นเต้น เขาไปที่ร้านนวดเท้าเพียงลำพังและขอให้เฉินเจียนวดเท้าให้ ในขณะที่ผ่อนคลาย เขาก็คิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ทางฝั่งของหลินเจียจวินกลับยุ่งที่สุดในช่วงบ่าย
งานขายล็อตเตอรี่กำหนดไว้ 3 วัน โดย 2 วันแรกจะออกรางวัลพิเศษ 5 รางวัลจาก 10 รางวัล ซึ่งมาได้ครึ่งทางแล้ว ส่วนรางวัลที่ 1 นั้น ออกไปแล้ว 18 รางวัลจากทั้งหมด 32 รางวัล
ไฮไลท์จะอยู่ในวันที่สาม และเนื่องจากการขายล็อตเตอรี่จะจัดขึ้นอีก 7 มณฑล หลังจากที่เมืองชิงโจวจัดกิจกรรมเสร็จสิ้น
สถานที่สำหรับจัดกิจกรรมขายล็อตเตอรี่ในอำเภออื่น ๆ นั้นได้เตรียมเสร็จสิ้นแล้ว เนื่องจากทีมงานได้เดินทางไปจัดเตรียมงานล่วงหน้า และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานส่วนท้องถิ่น เหลือเพียงรอล็อตเตอรี่จากทางนี้ส่งไป
หลังจากการพูดคุยกัน ในที่สุดเมิ่งเสี่ยวเป่ยและหลินเจียจวินก็ตัดสินใจให้คนทั้งเจ็ด ได้แก่ เฉินหยวนเชา จวงปี้เฉิง ถานชิงชาน เฉินอันผิง เย่กวงโตว่ จู้ตงเฟิง และข่งชิงเซี๋ยง ไปที่เจี้ยนหยาง เป่ยเหลียง ข่ายไหล ต้าเฟิง ฉางเหอ หยุนตู้ ไปที่อำเภอปาหวัง
พวกเขาล้วนเป็นผู้บริหารของบริษัท ส่วนการแจกรางวัลคือเจี้ยนหยางและเป่ยเหลียง ได้รับการจัดสรรรางวัลพิเศษ 1 รางวัล และรางวัลที่หนึ่ง 2 รางวัลตามลำดับ ในขณะที่อีกห้าอำเภอได้รับการจัดสรรรางวัลที่หนึ่งเพียง 3 รางวัลเท่านั้น และไม่มีรางวัลพิเศษ
หลังจากสรุปแผนการแล้ว เมิ่งเสี่ยวเป่ยก็เรียกผู้นำทีมทั้งหมดมาประชุมกัน ซึ่งกินเวลาไปจนถึงประมาณหกโมงเย็น
เมื่อหลินเจียจวินพบกับเจียงเสี่ยวไป๋ เขาก็ได้แจ้งให้ทราบถึงการเตรียมการของวันพรุ่งนี้ “อย่ากังวลไป กิจกรรมของวันพรุ่งนี้ได้จัดเตรียมไว้แล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมมั่นใจอยู่แล้วว่าพี่ต้องจัดการได้”
หลินเจียจวินยิ้ม “อย่างไรก็ตาม นักบัญชีที่นายต้องการให้ฉันไปสืบหาข้อมูล เธอชื่อโกวชิวเซียง เป็นหนึ่งในนักบัญชีของห้างสรรพสินค้าชิงโจว เธออาศัยอยู่บนถนนกวนโป อายุ 22 ปี และยังไม่ได้แต่งงาน …”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “พี่นี่ก็สุดยอดจริง ๆ แค่ให้ไปถามข้อมูลเธอมา แต่กลับรู้แม้กระทั่งว่าเธอยังไม่ได้แต่งงาน”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ฉันหาข้อมูลมาให้แล้ว นายก็ไปจัดการส่วนที่เหลือเองก็แล้วกัน”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้บริษัทมีแผนกทรัพยากรบุคคลแล้ว แม้ว่าผู้อำนวยการโหยวโหย่วหยูจะไม่ได้อยู่ในชิงโจว แต่ก็ยังมีพนักงานอยู่สองสามคนคอยทำหน้าที่ เดี๋ยวค่อยให้พวกเขาจัดการให้
หลังจากเสร็จสิ้นการพูดคุยทางธุรกิจและไปพบกับเจียงไห่หยาง หลินเจียอินและคนอื่น เขาก็ได้พาทุกคนไปเที่ยวตลาดถนนคนเดินเพื่อทานอาหาร ก่อนที่จะกลับไปเจียงวาน
เมื่อถึงบ้าน ก็ได้แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน
วันรุ่งขึ้น เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมขายล็อตเตอรี่และนิทรรศการสินค้า
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่สามารถทราบรายละเอียดของกิจกรรมในเจี้ยนหยางและอีก 6 อำเภอได้ แต่ล็อตเตอรี่ที่ ขายในเกสต์เฮาส์ชิงเจียงยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก มีการมอบรางวัลพิเศษ 3 รางวัลในวันนั้น ทำให้เมืองชิงโจวมีเศรษฐีคนใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 3 ครัวเรือน
ตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกา เป็นต้นไป การจำหน่ายล็อตเตอรี่ทั้งหมดก็ได้หยุดลง ส่วนการจับฉลากสิ้นสุดเวลา 20.00 นาฬิกา เมื่อนับจำนวนล็อตเตอรี่ที่ขายไปภายในสามวัน ชิงโจวขายล็อตเตอรี่ได้มากกว่า 41.7 ล้านใบ ตั๋วล็อตเตอรี่มีราคา 2 เหมา จึงทำให้มียอดขายมากกว่า 8.3 ล้านหยวน
จากนั้นเมื่อเวลา 4 ทุ่ม หัวหน้าที่ส่งไปอำเภออื่นก็โทรกลับมารายงานยอดขายของพวกเขา
จากสถิติพบว่า วันนี้มีการขายล็อตเตอรี่มากกว่า 24.6 ล้านใบใน7 อำเภอ
หากว่ารวมกับชิงโจวด้วย วันนี้ก็มีการขายล็อตเตอรี่ล็อตเตอรี่ไปมากกว่า 66.3 ล้านใบ โดยมียอดขายมากกว่า 13.26 ล้านหยวน
“สามี เราทำเงินได้ 12 ล้านหยวนภายในวันเดียวจากการล็อตเตอรี่เหรอ ? ”
หลินเจียอินมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยดวงตาที่สวยงามและถามด้วยความตื่นเต้น
เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหัว “ไม่มากขนาดนั้นหรอก หักเงินการกุศลที่สัญญาไว้และค่าคอมมิชชั่นจากการขายล็อตเตอรี่ให้ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเหอในอีก 7 อำเภอ ก็คงจะเหลือไม่เยอะ”
กิจกรรมขายล็อตเตอรี่นี้มีค่าใช้จ่ายเรื่องเงินรางวัล วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ และอื่น ๆ ประมาณ 700,000 หยวน นำไปบริจาคให้การกุศลยังพื้นที่ต่าง ๆ อีก 660,000 หยวน และเป็นค่าคอมมิชชั่นในการขายของแต่ละที่อีก 240,000 หยวน รวมทั้งหมดก็เกือบ 2 ล้านหยวน
หลินเจียอินคำนวณยอดคงเหลืออย่างรวดเร็วและพูดด้วยรอยยิ้ม “ถึงอย่างนั้นก็ยังสร้างรายได้มากกว่า 10 ล้านหยวนอยู่ดี”
“ใช่ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “เกือบสิบล้านหยวน ! ”
นี่เป็นสองเท่าของ 5 ล้านที่เขาทำไว้ก่อนหน้านี้
ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ป
เมิ่งเสี่ยวเป่ยยิ้มและพูดว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณอยากเริ่มธุรกิจล็อตเตอรี่ ธุรกิจนี้ทำกำไรได้ดีมากจริง ๆ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “คุณเมิ่ง หากผมทำธุรกิจล็อตเตอรี่นี้เพียงคนเดียว ผมสามารถทำเงินได้อย่างแน่นอน แต่ผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ผมทำได้เพียงยืมเรือออกทะเลเท่านั้น”
“ทำไมต้องยืมเรือ ? แล้วยืมเรือออกทะเลทำไม ? ” หลินเจียจวินถามขึ้นมาทันที
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ล็อตเตอรี่ที่ผมขายนี้จะเป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน จากนั้นผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนก็จะรู้จักโครงการล็อตเตอรี่แห่งความหวัง และจะพากันไปซื้อล็อตเตอรี่แห่งความหวังมากขึ้น”
“ในความคิดของผม หากผมได้รับสิทธิ์ในการขายล็อตเตอรี่แห่งความหวังแต่เพียงผู้เดียว ผมกล้ารับประกันว่าจะสามารถเปิดร้านค้าในทุกเมืองทั่วประเทศได้ในเวลาอันสั้น ร้านค้าเหล่านี้จะมีผู้คนแน่นหนาแน่นอน ผมจะดำเนินการร่วมกับร้านสะดวกซื้อ ก่อตั้งเครือข่ายร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศหรือแม้แต่ในโลก”
ฮะ ?
หลินเจียจวิน เมิ่งเสี่ยวเป่ย และหลินเจียอินต่างก็ตกตะลึง เจียงเสี่ยวไป๋มีความคิดนี้เอง
ต้องบอกว่าความคิดของเขาเร็วกว่าคนอื่นไปหนึ่งก้าว
ในขณะที่คนอื่นยังคงจ้องมองว่า ‘ล็อตเตอรี่แห่งความหวัง’ สามารถสร้างรายได้ได้มากเพียงใด เจียงเสี่ยวไป๋ได้ถอนตัวออกจากเรื่อง ‘ล็อตเตอรี่’ และกำลังวางแผนธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้อิทธิพลที่จะได้รับจากมัน
อันที่จริง นี่คือผลจากการหมดหนทางของเจียงเสี่ยวไป๋
เพราะ ‘ล็อตเตอรี่แห่งความหวัง’ ถูกกำหนดให้อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา แต่ร้านสะดวกซื้อที่รวมเข้ากับจุดขายล็อตเตอรี่เป็นสิ่งที่เขาสามารถควบคุมได้อย่างอิสระ
“นายเป็นคนที่คิดไกลจริง ๆ ! ” หลินเจียจวินกล่าวด้วยความชื่นชม
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือ “ผมก็แค่คิดไปตามสถานการณ์”
หลินเจียจวินอุทาน “นี่นายยังมีขั้นต่อไปด้วยหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มบาง “ใช่ การจัดจุดขายทั่วประเทศและการเปิดร้านสะดวกซื้อเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ที่เหลือค่อยตามรอดูในอนาคต”
เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาก็หยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มันไม่มีประโยชน์ที่จะบอกตอนนี้ เราต้องรอจนกว่าโครงการล็อตเตอรี่แห่งความหวังจะอนุมัติและดำเนินการ เมื่อถึงตอนนั้นเราก็จะเปิดร้านสะดวกซื้อที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ ถึงจะมองเห็นแนวทางความเป็นไปได้ต่อไป”
หลินเจียจวินไม่ได้ถามคำถามอะไรอีกต่อไป แต่พูดด้วยความมั่นใจว่า “ฉันหวังว่าโครงการล็อตเตอรี่แห่งความหวังนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี”