ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 696 คำขอของเจียงไห่เทียน
ตอนที่ 696 คำขอของเจียงไห่เทียน
เมื่อได้ยินเสียงนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็หันกลับไปและเห็นว่าเป็นเจียงไห่เทียน ลุงใหญ่ของเขา เขาจึงรีบเดินเข้าไปหา “ลุง ทำไมลุงถึงมาที่นี่เช้าขนาดนี้ล่ะ ? ”
เจียงไห่เทียนกล่าวว่า “หลังจากที่ลุงกลับไปเมื่อวานนี้ เฉินหยวนชาง หยางซื่อหยุน และหูฉางจวินต่างก็มาหาฉัน”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแบบนั้นจึงถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “แล้วที่พวกเขาไปหาลุง มันเกี่ยวกับผมหรือเปล่าครับ ? ”
เจียงไห่เทียนพยักหน้า “เมื่อวานพวกเขามาดูโต๊ะหลุมไฟไม่ใช่เหรอ ? พวกเขาบอกว่าอยากซื้อโต๊ะหลุมไฟ แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อได้ที่ไหน และกังวลมากว่าจะซื้อไม่ทัน ดังนั้น……”
ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้าใจ และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเพราะเฉินหยวนชางและคนอื่นซื้อล็อตเตอรี่ไปเยอะ แต่ไม่ถูกรางวัล เขาไม่คาดคิดว่าจะมาเพราะเรื่องโต๊ะหลุมไฟ
“ลุง โต๊ะหลุมไฟผลิตที่ถู่เฉิง เนื่องจากเพิ่งสร้างโรงงานเสร็จ จึงยังไม่มีสินค้าในคลัง นอกจากนี้หน่วยงานของเมืองชิงโจวและถู่เฉิงก็สั่งสินค้าเรามาเหมือนกัน ซึ่งยังผลิตให้พวกเขาไม่เพียงพอ ทำให้ไม่มีสินค้ามาขายในตลาดปีนี้”
เจียงไห่เทียนรู้สึกประหม่าหลังจากได้ยินคำพูดของหลานชาย จึงพูดว่า “เสี่ยวไป๋ ไม่ว่ายอดขายในตลาดจะคับคั่งแค่ไหน นายก็ต้องให้ความสำคัญกับผู้คนในเจียงวานก่อนเสมอ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกับเรา”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ลุง ผมรู้ ลุงไปบอกพวกเขาว่าไม่ต้องกังวล หลังจากนี้อีกไม่กี่วัน ผมจะขนโต๊ะหลุมไฟไปขายที่เจียงวานเอง เพราะถ้าหากมาซื้อในเมือง เกรงว่าพวกเขาต้องหารถมาขนมันกลับไปเอง”
เจียงไห่เทียนดีใจมาก “เอาล่ะ หลังจากที่ลุงกลับไป ลุงจะไปบอกแต่ละบ้านให้ หากใครสนใจก็ให้พวกเขามาลงชื่อไว้ นายก็ให้รถขนมาตามจำนวนที่คนในหมู่บ้านต้องการซื้อเลย”
“ได้ครับ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ตอบตกลง “ถ้าอย่างนั้น ผมขอรบกวนลุงด้วย”
เจียงไห่เทียนหัวเราะออกมา “รบกงรบกวนอะไรล่ะ นายกำลังลัดคิวให้กับคนในเจียงวานของเรา ฉันก็อยากจะขอบคุณในนามของผู้คนในหมู่บ้าน”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือ “อย่างที่ลุงพูด พวกเขาเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ถ้าผมสามารถให้พวกเขาก่อนได้ ผมก็จะให้พวกเขาก่อน”
หลังจากหยุดชั่วครู่ เขาก็กล่าวอีกว่า “นอกจากนี้ หากพวกเขาต้องการถ่านหิน ก็ให้ลงทะเบียนไว้ด้วยนะครับ ผมจะให้คนขับรถขนถ่านหินไปที่นั่นอีกสองสามคัน”
เจียงไห่เทียนยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิม “ดีมาก ! ”
หลังจากนั้น เขาก็พูดด้วยความเสียดาย “เสี่ยวไป๋ น่าเสียดายที่โต๊ะหลุมไฟของนายใช้ได้แต่ถ่านหิน ไม่ใช่ฟืน ไม่งั้นมันคงได้รับความนิยมมากกว่านี้”
เพราะท้ายที่สุด พวกเขาก็ต้องซื้อถ่านหินอยู่ดี
ผู้คนในเจียงวานอาจไม่สนใจเงินเพียงเล็กน้อยที่พวกเขาใช้จ่ายเพื่อซื้อถ่านหิน แต่ผู้คนที่อื่นไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับชาวเจียงวาน พวกเขาต้องใช้จ่ายเงินแต่ละหยวนอย่างประหยัดเพื่อจะใช้จ่ายได้อย่างเพียงพอ พวกเขาสามารถขึ้นไปบนภูเขาเพื่อตัดฟืนได้ ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องซื้อเหมือนกับถ่านหิน
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของเจียงไห่เทียน “ลุง ใครบอกว่าโต๊ะหลุมไฟของผมไม่สามารถใช้ฟืนได้ ? ”
เจียงไห่เทียนตกตะลึงและพูดด้วยความประหลาดใจ “โต๊ะหลุมไฟของนายสามารถใช้ฟืนได้จริงเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “โต๊ะหลุมไฟที่เราทำขึ้นมานั้นมีอยู่ 2 ประเภท ประเภทหนึ่งคือใช้ถ่านหิน และอีกประเภทคือใช้ฟืน เพียงแต่มันไม่สะดวกที่เอาฟืนเข้ามาจำนวนมากในห้องนิทรรศการนี้ ดังนั้นเราจึงนำประเภทที่ใช้ถ่านหินในการเผาไหม้มาจัดแสดงเท่านั้น โต๊ะหลุมไฟทุกประเภทมีความคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันเพียงแกนเตา โต๊ะหลุมไฟที่ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงจะมีทางเข้าเพิ่มอีกทาง สำหรับเติมฟืน”
เจียงไห่เทียนกล่าวว่า “เยี่ยมมาก ต้องมีผู้คนจำนวนมากในอ่าวที่ต้องการโต๊ะหลุมไฟแบบใช้ฟืนแน่นอน นายช่วยเตรียมให้พวกเขาหน่อยได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้น ก็นับจำนวนมาให้ผม แล้วผมจะจัดส่งสินค้าไปตามจำนวนที่สั่งไว้”
“เอาล่ะ ตกลงตามนี้ ! ” เจียงไห่เทียนกล่าวตกลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เจียงเสี่ยวไป๋เอาบุหรี่ออกมายื่นให้กับเจียงไห่เทียนมวนหนึ่ง จากนั้นทั้งสองลุงหลานก็สูบบุหรี่พูดคุยกันและเดินชมนิทรรศการไปด้วย
ผู้คนในห้องนิทรรศการก็เหมือนกับปลาคาร์พไม้กางเข็นว่ายทวนแม่น้ำ มีผู้คนยืนดูสินค้าและพูดคุยกันไม่สิ้นสุด เสียงของพวกเขาดังระงมภายในห้องจัดนิทรรศการ
เจียงเสี่ยวไป๋ยังได้พบกับคนรู้จักมากมายระหว่างทางและทักทายกัน
“สวัสดีเถ้าแก่เจียง ! ”
“เถ้าแก่เจียง คุณก็มาร่วมงานนิทรรศการด้วยตนเองเหรอ ? ”
“เถ้าแก่เจียง ขอแสดงความยินดีกับการก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ปนะ ! ”
“พี่เสี่ยวไป๋ งานของคุณประสบความสำเร็จมาก ยินดีด้วย ! ”
“สวัสดีครับพี่เสี่ยวไป๋ ! ”
“เถ้าแก่เจียง ไม่เจอกันนานเลย เราหาเวลามากินข้าวด้วยกันเถอะ”
“เสี่ยวไป๋ คุณก็มาดูงานนิทรรศการด้วยเหรอ ? ”
“เถ้าแก่เจียง…”
“……”
ระหว่างทาง เขาได้พบกับคนรู้จักมากมาย เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้พูดคุยกับพวกเขาทีละคน แต่ก็พูดคุยกันไม่กี่คำ จากนั้นก็ขอตัวออกมาพร้อมกับเจียงไห่เทียน
คนคุ้นเคยกัน อย่างไรก็ต้องทักทายกันสั้น ๆ แม้จะไม่ค่อยมีเวลา เพื่อไม่ให้เหินห่างกันเกินไป
ท้ายที่สุดแล้วที่นี่ก็เป็นสถานที่จัดนิทรรศการ ไม่ใช่สถานที่สำหรับพูดคุยกับเพื่อนเก่า
ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองก็มาถึงห้องนิทรรศการของอาคารชิงโจว
“ลุง เข้ามาดูนี่สิ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋เรียกเจียงไห่เทียนเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
“อ่า ! ”
เจียงไห่เทียนเดินตามเขาเข้าไปในห้องนิทรรศการ
อันที่จริง เจียงไห่เทียนได้มาดูแล้วเมื่อวานนี้ โต๊ะโมเดลจำลองสร้างความประทับใจให้กับเขาจริง ๆ
แต่เนื่องจากเจียงเสี่ยวไป๋เรียกเขาให้มาดูด้วยกัน เขาก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธ
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋เข้ามา มู่เสี่ยวซิงก็กำลังอธิบายรายละเอียดของโมเดลจำลองให้คนอีกกลุ่มฟังอยู่ เสียงของเธอแหบแห้งเล็กน้อย ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเธอพูดมาเยอะ
เจียงเสี่ยวไป๋เกิดความคิดดี ๆ ขึ้นมา หลังจากกินหม้อไฟเมื่อวานนี้ เขาก็นึกถึงการเคี้ยวหมากฝรั่ง พอมาวันนี้ หลังจากที่ได้ยินเสียงแหบแห้งของมู่เสี่ยวซิง เขาก็นึกถึงยาอมขึ้นมาอีกครั้ง
ในยุคหลังดูเหมือนจะมียาอมยี่ห้อ ‘จินซางจื่อ’ และ ‘พ่างต้าไห่’ ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด
คิดแล้ว เขาเองก็อยากจะทำผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เช่นกัน
เมื่อมู่เสี่ยวชิงเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ เธอก็พยักหน้าให้เขาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้พูดอะไร เธอจึงหันไปอธิบายต่อ
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นฟังอยู่ที่นั่นไม่นาน ก็หยุดสนใจ ก่อนจะพาเจียงไห่เทียนไปที่โมเดลจำลองอาคารที่พักอาศัยเพื่อพูดคุยกันต่อ
“ลุงครับ ลุงคิดว่าบ้านหลังนี้เป็นอย่างไรครับ ? ”
เจียงไห่เทียนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่จะเป็นบ้าน”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “บ้านในอนาคตจะเป็นแบบนี้ สิ่งที่เราแสวงหาคือคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ไม่ใช่แค่มีหลังคาไว้กันลมกันฝนเท่านั้น”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ได้แนะนำแนวคิดบางอย่างเกี่ยวกับบ้านในอนาคตให้เจียงไห่เทียนฟัง
เหตุผลที่เขาพูดถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่าเจียงเสี่ยวจี๋และเจียงเสี่ยวโจวกำลังจะสร้างบ้านใหม่ และการพูดคุยเกี่ยวกับบ้านก็จะเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขาในอนาคต
เจียงไห่เทียนรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่งหลังจากได้ยินเรื่องราวเหล่านี้
เจียงเสี่ยวไป๋คุยกับเจียงไห่เทียนสักพัก ก่อนจะเดินออกไป
ทันทีที่เดินออกไปที่ประตูด้านนอก เขาก็ได้ยินเสียงโกลาหลของผู้คน
“ได้ยินไหม ? มีคนถูกรางวัลพิเศษอีกหนึ่งรางวัลแล้ว ? ”
“จริงเหรอ ! อยู่ไหน ? ไปดูกันเถอะ”
“ฉันได้ยินมาว่าที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงบนถนนกวนโป ข่าวมาถึงที่นี่ไวมาก”
“โอ้ ฉันคิดว่าจะถูกรางวัลใหญ่แค่ที่นี่เสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่าทุกที่มีสิทธ์ลุ้น”
“ไปดูแถวที่รับรางวัลกันเถอะว่าใครเป็นคนถูก”
“ไปดูคนที่ถูกรางวัลจะไปมีประโยชน์อะไร ทำไมไม่ซื้อเพื่อให้ถูกเองล่ะ”
“ใช่ วันนี้ฉันนำเงินมา 20 หยวนเพื่อซื้อล็อตเตอรี่ 100 ใบเชียวนะ”
“รีบไปซื้อมันเถอะ คุณอาจจะถูกรางวัลใหญ่ก็ได้”
“……”
เจียงเสี่ยวไป๋ยังเดินตามผู้คนไปยังพื้นที่รับรางวัล ไม่นานหลังจากที่เขามาถึง เขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวสวย
ผู้เห็นต่างก็รู้สึกตื่นเต้นทันที
“ใช่แล้ว ผู้ได้ถูกรางวัลพิเศษคือผู้หญิงคนนี้แหละ ! ”
“เป็นผู้หญิงแล้วแปลกตรงไหน ? คนที่ถูกรางวัลพิเศษและรางวัลที่หนึ่งเมื่อวานก็เป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ? ”
“เมื่อวานคนที่ถูกรางวัลเป็นผู้หญิงที่มีครอบครัวกันหมดแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้แค่ดูก็รู้ว่ายังไม่ได้แต่งงาน”
“คุณกำลังบอกว่าจะจีบเธองั้นเหรอ ? ”
“……”